เครื่องยนต์สันดาปภายในมีประวัติศาสต

เครื่องยนต์สันดาปภายในมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เซซิลในปี 1820 สร้างกลไกการทำงานครั้งแรก แต่ก็ไม่ได้รับการผลิตในเชิงพาณิชย์จนกระทั่ง 1860 เมื่อ Lenoir ขายเครื่องยนต์ครั้งแรกของเขา ตั้งแต่เวลาที่เครื่องยนต์ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงโดยนักประดิษฐ์หลาย การพัฒนาที่สำคัญมีเปลวไฟนิโคลัสอ็อตโตติดไฟ (จุดประกายจุดประกาย) เครื่องยนต์จาก 1876 และเครื่องยนต์บีบอัดติดไฟรูดอล์ฟดีเซลจาก 1892 [1] ตั้งแต่นั้นมาเครื่องยนต์สันดาปภายในได้รับความสำคัญต่อสังคมในด้านของการผลิตกระแสไฟฟ้าและการขนส่ง ในปีที่ผ่านมาการวิจัยเครื่องยนต์ได้รับการท้าทายการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศและลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง. ส่วนใหญ่เห็นด้วยนักวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศที่เป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อนจากการพัฒนามนุษย์เกี่ยวกับผลกระทบก๊าซเรือนกระจก ในสหภาพยุโรป (EU) แหล่งใหญ่ที่สุดที่สองของก๊าซเรือนกระจกหลังการผลิตกระแสไฟฟ้าจากการขนส่งทางถนน การวิเคราะห์ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าการขนส่งทางถนนเป็นที่มาของหนึ่งในห้าของการปล่อยก๊าซทั้งหมดของสหภาพยุโรปของก๊าซเรือนDue to the Survey of Energy Consumption in various sectors in Thailand from 1990 to 2010 by the Department of Energy, the result showed that the energy consumption increased steadily. The increase rate is on the average of 4.4 percent per year. If we consider about the energy consumption of each segment, the transportation sector demand for energy will almost be equal to the energy required in the industry sector. In the future, if there are no energy conservation measures method Thailand's total energy demand will increase to 151,000 tons of crude oil in 2030, in which energy demand in the transportation sector will increase by 46,810 tons of crude oil. Such high value of energy demand will increase the amount of greenhouse gas emissions and will have a direct influence on global warming.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เครื่องยนต์สันดาปภายในมีประวัติศาสตร์อันยาวนานเซซิลในปี 1820 สร้างกลไกการทำงานครั้งแรกแต่ก็ไม่ได้รับการผลิตในเชิงพาณิชย์จนกระทั่ง 1860 เมื่อ Lenoir ขายเครื่องยนต์ครั้งแรกของเขาตั้งแต่เวลาที่เครื่องยนต์ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงโดยนักประดิษฐ์หลายการพัฒนาที่สำคัญมีเปลวไฟนิโคลัสอ็อตโตติดไฟ (จุดประกายจุดประกาย) เครื่องยนต์จาก 1876 และเครื่องยนต์บีบอัดติดไฟรูดอล์ฟดีเซลจาก 1892 [1] ตั้งแต่นั้นมาเครื่องยนต์สันดาปภายในได้รับความสำคัญต่อสังคมในด้านของการผลิตกระแสไฟฟ้าและการขนส่งในปีที่ผ่านมาการวิจัยเครื่องยนต์ได้รับการท้าทายการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศและลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนใหญ่เห็นด้วยนักวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศที่เป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อนจากการพัฒนามนุษย์เกี่ยวกับผลกระทบก๊าซเรือนกระจกในสหภาพยุโรป (EU) แหล่งใหญ่ที่สุดที่สองของก๊าซเรือนกระจกหลังการผลิตกระแสไฟฟ้าจากการขนส่งทางถนน การวิเคราะห์ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าการขนส่งทางถนนเป็นที่มาของหนึ่งในห้าของการปล่อยก๊าซทั้งหมดของสหภาพยุโรปของก๊าซเรือนDue การสำรวจการใช้พลังงานในภาคต่าง ๆ ในประเทศไทยจากปี 1990 ถึง 2553 โดยกระทรวงพลังงานผลการศึกษาพบว่า การใช้พลังงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อัตราการเพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ยร้อยละ 4.4 ต่อปี ถ้าเราพิจารณาเกี่ยวกับการใช้พลังงานของแต่ละส่วน การขนส่งความต้องการพลังงานเกือบจะเท่ากับพลังงานที่ต้องใช้ในภาคอุตสาหกรรม ในอนาคต ถ้ามีไม่มีการอนุรักษ์พลังงานมาตรการวิธีไทยความต้องการพลังงานทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นถึง 151,000 ตันน้ำมันดิบใน 2030 ซึ่งพลังงานในภาคขนส่งจะขึ้น 46,810 ตันน้ำมันดิบ ค่าดังกล่าวสูงความต้องการพลังงานจะเพิ่มปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และจะมีผลโดยตรงในเรื่องภาวะโลกร้อน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เซซิลในปี 1820 สร้างกลไกการทำงานครั้งแรก 1860 เมื่อ Lenoir ขายเครื่องยนต์ครั้งแรกของเขา (จุดประกายจุดประกาย) เครื่องยนต์จาก 1876 1892 [1] ในสหภาพยุโรป (EU) การสำรวจการใช้พลังงานในภาคต่างๆในประเทศไทย 1990-2010 โดยกระทรวงพลังงาน, ผลที่ได้แสดงให้เห็นว่าการบริโภคพลังงานที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อัตราการเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 4.4 ต่อปี ถ้าเราพิจารณาเกี่ยวกับการใช้พลังงานของแต่ละกลุ่มความต้องการของภาคการขนส่งพลังงานเกือบจะเท่ากับพลังงานที่จำเป็นในภาคอุตสาหกรรม ในอนาคตหากไม่มีพลังงานวิธีการมาตรการอนุรักษ์ความต้องการใช้พลังงานรวมของไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 151,000 ตันน้ำมันดิบในปี 2030 ซึ่งความต้องการใช้พลังงานในภาคการขนส่งจะเพิ่มขึ้น 46,810 ตันของน้ำมันดิบ ที่มีมูลค่าสูงดังกล่าวของความต้องการพลังงานจะเพิ่มปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและจะมีอิทธิพลโดยตรงต่อภาวะโลกร้อน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เครื่องยนต์สันดาปภายในมีประวัติศาสตร์อันยาวนานเซซิลในปีแต่ก็ไม่ได้รับการผลิตในเชิงพาณิชย์จนกระทั่ง 1860 1820 สร้างกลไกการทำงานครั้งแรกเมื่อเลอนัวร์ขายเครื่องยนต์ครั้งแรกของเขาตั้งแต่เวลาที่เครื่องยนต์ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงโดยนักประดิษฐ์หลายการพัฒนาที่สำคัญม ีเปลวไฟนิโคลัสอ็อตโตติดไฟ ( จุดประกายจุดประกาย ) เครื่องยนต์จาก 1876 และเครื่องยนต์บีบอัดติดไฟรูดอล์ฟดีเซลจาก 1892 [ 1 ] ตั้งแต่นั้นมาเครื่องยนต์สันดาปภายในได้รับความสำคัญต่อสังคมในด้านของการผลิตกระแสไฟฟ้าและการขนส่งในปีที่ผ่านมาการวิจัยเครื่องยนต์ได้รับการท้าทายการ แก้ปัญหามลพิษทางอากาศและลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง . ส่วนใหญ่เห็นด้วยนักวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศที่เป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อนจากการพัฒนามนุษย์เกี่ยวกับผลกระทบก๊าซเรือนกระจกในสหภาพยุโรป ( EU ) แหล่งใหญ่ที่สุดที่สองของก๊าซเรือนกระจกหลังการผลิตกระแสไฟฟ้าจากการขนส่งทางถนนการวิเคราะห์ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าการขนส่งทา งถนนเป็นที่มาของหนึ่งในห้าของการปล่อยก๊าซทั้งหมดของสหภาพยุโรปของก๊าซเรือนจากการสำรวจการใช้พลังงานในภาคต่าง ๆในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 โดยกรมพลังงาน ผลการศึกษาพบว่า การใช้พลังงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพิ่มอัตราโดยเฉลี่ย 4.4 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ถ้าเราพิจารณา เรื่องการใช้พลังงานของแต่ละกลุ่มมีความต้องการพลังงานภาคการขนส่งจะเกือบจะเท่ากับพลังงานที่ต้องใช้ในภาคอุตสาหกรรม ในอนาคต หากไม่มีมาตรการอนุรักษ์พลังงานความต้องการพลังงานทั้งหมดวิธีของไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 151000 ตันของน้ำมันดิบใน 2030 ซึ่งในความต้องการใช้พลังงานในภาคการขนส่งจะเพิ่มขึ้น 46810 ตันของน้ำมันดิบ มูลค่าสูง เช่น ความต้องการพลังงานจะเพิ่มปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และจะมีอิทธิพลโดยตรงต่อภาวะโลกร้อน