2.4. Community historyThe community

2.4. Community history
The community of Banhado do Colégio started during the first
Brazilian land reform in 1959. The community was founded in
the early sixties on the dry land reclaimed from the marshes and
approximately 200 families started farming. The lots (10–25 ha
each) were gradually distributed among landless family farmers.
These families were mainly descendants of German and Polish settlers
who emigrated to Brazil at the end of the 19th century [32,33].
Research by Fernandes [34] involving small farmers (‘peasants’)
revealed reasons why they are an important feature of Brazilian
agriculture, especially in the rural reality of the state of Rio Grande
do Sul. According to this author, small farmers generally are able
to achieve high land productivity despite having less support and
resources than large farmers.
Belonging to a land reform settlement the farmers are accustomed
to being subject of study. This type of settlement generally
consists of small farmers who are open to changes and are willing
to exchange experiences in order to achieve better living (or even
survival) conditions.
During the time of settlement the soil in the region was classified
as one of richest in organic matter in Brazil. The predominant soil
types are Albaqualfs and Humaquepts [35]. The main difference
between these soil types is the clay content in the topsoil [36]. Some
topsoil (0–10 cm) properties for these two soil types are listed in

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2.4 ประวัติศาสตร์ชุมชน
ชุมชน Banhado ไม่Colégioเริ่มต้นในช่วงแรกของ
การปฏิรูปที่ดินของบราซิลในปี 1959 ชุมชนก่อตั้งขึ้นใน
ช่วงต้นยุคทศวรรษที่หกบนดินแห้งดึงออกมาจากบึงและ
ประมาณ 200 ครอบครัวเริ่มต้นการทำการเกษตร จำนวนมาก (10-25 ฮ่า
แต่ละคน) มีการกระจายค่อยๆในหมู่เกษตรกรไร้ที่ทำกินครอบครัว.
ครอบครัวเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของผู้ตั้งถิ่นฐานชาวเยอรมันและโปแลนด์
ที่อพยพไปยังบราซิลในตอนท้ายของศตวรรษที่ 19 [32,33].
วิจัยโดยเฟอร์นัน [34] ที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรรายย่อย ('ชาวนา')
เปิดเผยเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเขาจะมีคุณลักษณะที่สำคัญของบราซิล
การเกษตรโดยเฉพาะอย่างยิ่งในความเป็นจริงในชนบทของรัฐริโอแกรนด์
โดซูล ตามที่ผู้เขียนคนนี้เกษตรกรขนาดเล็กโดยทั่วไปมีความสามารถ
เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงแม้จะมีที่ดินที่มีการสนับสนุนน้อยลงและ
ทรัพยากรที่มีขนาดใหญ่กว่าเกษตรกร.
เป็นของการตั้งถิ่นฐานการปฏิรูปที่ดินเกษตรกรมีความคุ้นเคย
ที่จะเป็นเรื่องของการศึกษา ประเภทของการตั้งถิ่นฐานนี้โดยทั่วไป
ประกอบด้วยเกษตรกรรายย่อยที่มีการเปิดให้มีการเปลี่ยนแปลงและมีความยินดีที่
จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการเพื่อให้บรรลุชีวิตที่ดีขึ้น (หรือแม้กระทั่ง
การอยู่รอด) เงื่อนไข.
ในช่วงเวลาของการตั้งถิ่นฐานในดินในภูมิภาคนี้ได้รับการจัด
ให้เป็นหนึ่งในที่ร่ำรวยที่สุดใน อินทรียวัตถุในบราซิล ดินเด่น
ประเภท Albaqualfs และ Humaquepts [35] แตกต่างที่สำคัญ
ระหว่างชนิดของดินเหล่านี้คือเนื้อหาในดินเหนียวดิน [36] บาง
ดิน (0-10 ซม.) คุณสมบัติสำหรับทั้งสองประเภทของดินมีการระบุไว้ใน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2.4 . ชุมชนประวัติศาสตร์
ชุมชนของ banhado ทำคอลัมน์และจีโอ เริ่มตอนแรก
ปฏิรูปที่ดินบราซิลในปี 1959 ชุมชนก่อตั้งขึ้นในอายุหกสิบเศษต้น
บนแผ่นดินแห้งเก่า จากบึงและ
ประมาณ 200 ครอบครัว เริ่มทำนา มากมาย ( 10 – 25 ฮา
แต่ละ ) ค่อยๆ กระจายในหมู่เกษตรกรไร้ที่ดิน
ครอบครัว .ครอบครัวเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของเยอรมันและโปแลนด์ที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐาน
บราซิลในปลายศตวรรษที่ 19 32,33 [ ] .
) [ 34 ] ที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย โดยเกษตรกรขนาดเล็ก ( 'peasants ' )
เปิดเผยเหตุผลพวกเขาเป็นคุณลักษณะที่สำคัญของการเกษตรของบราซิล
, โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความเป็นจริงในชนบทของรัฐริโอ แกรนด์
โดซูล ตามที่ผู้เขียนคนนี้ชาวนาโดยทั่วไปสามารถ
เพื่อให้ได้ผลผลิตแผ่นดินสูงแม้จะมีการสนับสนุนน้อยและทรัพยากรมากกว่า

เป็นของเกษตรกรขนาดใหญ่ ปฏิรูปที่ดินนิคมเกษตรกรคุ้นเคย
เป็นหัวข้อของการศึกษา ประเภทของการตั้งถิ่นฐานโดยทั่วไป
ประกอบด้วยเกษตรกรรายย่อยที่เปิดรับการเปลี่ยนแปลง และเต็มใจ
เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อให้ชีวิตดีขึ้น ( หรือแม้แต่
การอยู่รอด ) เงื่อนไข .
ช่วงเวลาที่ดินในเขตจัด
เป็นหนึ่งในที่ร่ำรวยที่สุดในอินทรียวัตถุในบราซิล ประเภทของดินและมี albaqualfs
โดด humaquepts [ 35 ] แตกต่างหลักระหว่างดิน
เหล่านี้เป็นดิน เนื้อหาในดิน [ 36 ] บาง
ดิน ( 0 – 10 ซม. ) คุณสมบัติทั้งสองประเภทอยู่ในดิน