According to tradition, the city of

According to tradition, the city of Rome was founded in the 8th century B.C. by Romulus. The Roman historian Livy wrote that the city of Rome grew strong quickly, and was able to defend itself against the other tribes which lived beyond the city’s borders. At this point of time however, Rome was facing a threat not from without, but from within. The followers of Romulus were mostly men, as he had granted sanctuary to the rabble and outcasts of other cities. Whilst the population of Rome increased immediately, there was a shortage of women in the new settlement. As a result, it seemed that Rome’s greatness was destined to last only for a generation, as these pioneers would not have children to carry on their legacy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตามประเพณี เมืองโรมก่อตั้งขึ้นในบีศตวรรษที่ 8 โดยรอมิวลุ นักประวัติศาสตร์โรมัน Livy เขียนว่า เมืองโรมเติบโตแข็งแรงอย่างรวดเร็ว และสามารถปกป้องตัวเองกับชนเผ่าอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่เหนือเส้นขอบของ จุดนี้ เวลา อย่างไรก็ตาม โรมถูกหันคุกคามไม่จากไม่ แต่จากภายใน ลูกศิษย์ของรอมิวลุถูกคนส่วนใหญ่ เขาได้รับพันธุ์ rabble และ outcasts อื่น ๆ เมือง ในขณะที่ประชากรของกรุงโรมเพิ่มขึ้นทันที มีการขาดแคลนของผู้หญิงในการชำระเงินใหม่ ดังนั้น เหมือนที่มีกำหนดความยิ่งใหญ่ของโรมไปล่าสุดสำหรับรุ่น เป็นผู้บุกเบิกเหล่านี้จะไม่มีลูกสืบมรดกของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตามประเพณี กรุงโรมก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล โดย โรมูลัส นักประวัติศาสตร์โรมันลิวีเขียนว่าเมืองของกรุงโรมที่เติบโตแข็งแกร่ง เร็ว และก็สามารถที่จะปกป้องตัวเองกับเผ่าอื่น ๆที่อาศัยอยู่นอกเขตแดนของเมือง ณจุดนี้ของเวลา อย่างไรก็ตาม โรมกำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากภายนอก แต่จากภายใน พวกมันส่วนใหญ่เป็นผู้ชายที่เขามีให้กับสามัญชนผู้บริสุทธิ์ และเมืองอื่น ๆ ในขณะที่ประชากรของกรุงโรมลดลงทันที มีปัญหาการขาดแคลนของผู้หญิงในชุมชนใหม่ เป็นผลให้ประจักษ์ว่า ความยิ่งใหญ่ของกรุงโรมคือปลายทางสุดท้ายเท่านั้น สำหรับรุ่นที่เป็นผู้บุกเบิกเหล่านี้จะไม่มีเด็กต่อไป

มรดกของพวกเขา