Every spring the Joseon kings heade

Every spring the Joseon kings headed to Seonnongdan, an altar where they prayed for a good harvest. After the ritual, a special beef and vegetable soup (seolleongtang) was served to the assembled peasants. Seolleongtang is still popular today.
The history of Seoul probably started in 18 BC, when it was chosen to be the capital of the Baekje Kingdom. After that it has been the capital of various rulers, which all gave the city a new name.
The importance of Seoul as a city really started during the Joseon Dynasty. Former General Yi Seong-gye chose Seoul to be the capital of his empire in 1392. During the next 10 years Seoul grew into a real city, with 100.000 inhabitants. In that period Seoul was a city lead by the Neo-Confucianism philosophy of the Joseon Dynasty. Buddhism and Catholicism were banned into the mountains and the countryside. Till 1910 Seoul was controlled by this feudal system of kings, aristocrats, peasants, slaves and outcasts.
In 1910, the Japanese invasion took the regime of Korea and the city of Seoul. During the following 35 years Seoul was doomed under Japanese colonial rule. Palaces were destroyed and the Korean culture seemed to fade away.
Korea survived and was released from Japanese rule in 1948. During the Korean war Seoul experienced warfare 4 times, only to become the main capital again in 1953. Since that moment Seoul has been growing rapidly and continuously. The expansion of Seoul symbolizes the economical progress South-Korea has made in the past 50 years.
Nowadays Seoul is a highly modern city with a modern, technologically advanced society. The streets of Seoul are filled with skyscrapers, traffic and 10.3 million people. Seoul is not only the capital of South Korea, but also the city where everything is centered. Throughout the year you can experience cultural, traditional and modern events in this modern metropolis of Korea.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทุกฤดูใบไม้ผลิกษัตริย์โชซอนมุ่งหน้าไป Seonnongdan แท่นบูชาที่พวกเขาอธิษฐานสำหรับเก็บเกี่ยวดี หลังจากพิธีกรรม เนื้อพิเศษและซุปผัก (seolleongtang) แนะนำให้ชาวนาประกอบ Seolleongtang ยังคงเป็นที่นิยมปัจจุบันประวัติของโซลคงเริ่ม 18 BC เมื่อมันถูกเลือกให้เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรพระเจ้า หลังจากนั้น จะได้รับทุนของไม้ต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดให้เมืองชื่อใหม่ความสำคัญของโซลเป็นเมืองเริ่มต้นจริง ๆ ในสมัยราชวงศ์โชซอน ทั่วไปอดีต Yi ยู-gye เลือกโซลเป็น เมืองหลวงของจักรวรรดิของเขาใน 1392 ในระหว่างปีโซลเติบโตในเมืองที่จริง มีชิ้น 100.000 คน ในรอบระยะเวลาที่โซลเป็นเมืองนำ โดยปรัชญา Neo Confucianism โชซอน พระพุทธศาสนาและคาทอลิกถูกห้ามเข้าไปในภูเขาและชนบท จนถึง 1910 โซลถูกควบคุม โดยระบบนี้ศักดินาของพระมหากษัตริย์ aristocrats ชาวนา ทาส และ outcastsใน 1910 บุกรุกญี่ปุ่นเอาระบอบการปกครองของเกาหลีและเมืองโซล ในระหว่างปี 35 โซลถูกถึงวาระภายใต้การปกครองอาณานิคมของญี่ปุ่น พระราชวังถูกทำลาย และวัฒนธรรมเกาหลีที่ดูเหมือนจะ เลือนหายไปเกาหลีรอดชีวิต และออกจากการปกครองของญี่ปุ่นในค.ศ. 1948 ในระหว่างสงครามเกาหลี โซลประสบการณ์สงครามครั้งที่ 4 เฉพาะให้กลายเป็น ทุนหลักอีกครั้งในปีค.ศ. 1953 ตั้งแต่ช่วงที่ โซลมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และต่อเนื่อง การขยายตัวของโซลสัญลักษณ์ระหว่างเศรษฐกิจเกาหลีใต้ได้ทำให้ในปี 50 ผ่านมาปัจจุบันโซลเป็นเมืองที่ทันสมัยทันสมัย เทคโนโลยีขั้นสูงสังคม ของโซลเต็มไป ด้วยตึกระฟ้า จราจร และ 10.3 ล้านคน โซลเป็นไม่เพียงแต่เมืองหลวงของเกาหลีใต้ แต่เมืองที่มีเสน่ห์ ตลอดทั้งปี คุณได้สัมผัสวัฒนธรรม และกิจกรรมในนครนี้ทันสมัยของเกาหลี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทุกฤดูใบไม้ผลิกษัตริย์โชซอนมุ่งหน้าไปยัง Seonnongdan แท่นบูชาที่พวกเขาอธิษฐานสำหรับการเก็บเกี่ยวที่ดี หลังจากพิธีกรรมเนื้อพิเศษและซุปผัก (seolleongtang) ถูกเสิร์ฟให้กับชาวบ้านประกอบ Seolleongtang ยังคงเป็นที่นิยมในปัจจุบัน.
ประวัติศาสตร์ของกรุงโซลเริ่มต้นอาจจะอยู่ใน 18 ปีก่อนคริสตกาลเมื่อมันได้รับเลือกให้เป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรแบกเจ หลังจากนั้นจะได้รับเงินทุนของผู้ปกครองที่แตกต่างกันซึ่งทั้งหมดให้เมืองชื่อใหม่.
ความสำคัญของกรุงโซลเป็นเมืองที่เริ่มต้นจริงๆในช่วงสมัยราชวงศ์โชซอน อดีตทั่วไป Yi Seong-gye เลือกที่กรุงโซลเพื่อเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรของเขาใน 1392 ต่อมาในช่วง 10 ปีที่กรุงโซลกลายเป็นเมืองที่จริงมี 100.000 คนที่อาศัยอยู่ ในช่วงเวลาที่โซลเป็นเมืองที่นำโดยปรัชญา Neo-ขงจื้อของราชวงศ์โชซอน ศาสนาพุทธและศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกถูกห้ามเข้าไปในภูเขาและชนบท จนถึง 1910 โซลถูกควบคุมโดยระบบศักดินานี้ของพระมหากษัตริย์ขุนนางชาวนาทาสและจัณฑาล.
ในปี 1910 ญี่ปุ่นบุกเอาระบอบการปกครองของประเทศเกาหลีและเมืองของกรุงโซล ต่อมาในช่วง 35 ปีที่กรุงโซลอีกต่อภายใต้การปกครองอาณานิคมของญี่ปุ่น พระราชวังถูกทำลายและวัฒนธรรมเกาหลีดูเหมือนจะจางหายไป.
เกาหลีรอดชีวิตและได้รับการปล่อยตัวจากการปกครองของญี่ปุ่นในปี 1948 ในช่วงสงครามเกาหลีโซลสงครามประสบการณ์ 4 ครั้งเท่านั้นที่จะเป็นเงินทุนหลักอีกครั้งในปี 1953 ตั้งแต่ช่วงเวลาที่โซลที่มีการเติบโต อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง การขยายตัวของกรุงโซลเป็นสัญลักษณ์ของความคืบหน้าประหยัดใต้เกาหลีได้ทำในอดีตที่ผ่านมา 50 ปี.
ปัจจุบันโซลเป็นเมืองที่ทันสมัยอย่างมากกับสังคมยุคใหม่เทคโนโลยีขั้นสูง ถนนของกรุงโซลที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้าจราจรและ 10,300,000 คน โซลไม่ได้เป็นเพียงเมืองหลวงของเกาหลีใต้ แต่ยังเป็นเมืองที่ทุกอย่างเป็นศูนย์กลาง ตลอดปีที่คุณจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมเหตุการณ์แบบดั้งเดิมและทันสมัยในมหานครที่ทันสมัยของเกาหลี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทุกฤดูใบไม้ผลิกษัตริย์โซซอนไป seonnongdan แท่นบูชาที่พวกเขาอธิษฐานเพื่อการเก็บเกี่ยวที่ดี หลังจากพิธีกรรม เป็นเนื้อพิเศษ และผัก ซุป ( ซุปวัว ) คือบริการประกอบสามัญชน ซุปวัวยังเป็นที่นิยมวันนี้
ประวัติศาสตร์ของโซลอาจจะเริ่มขึ้นใน พ.ศ. 18 , เมื่อมันถูกเลือกเป็นเมืองหลวงของแพคเจสหราชอาณาจักรหลังจากที่มันได้รับทุนของผู้ปกครองต่างๆซึ่งทั้งหมดให้ เมือง ใหม่ ชื่อ
ความสำคัญของโซลเป็นเมืองที่เริ่มต้นจริงๆในช่วงสมัยโชซอน อดีตอีทั่วไป ซองกีเลือกโซลเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรของเขาใน 397 . ในอีก 10 ปี โซล รายได้เข้าเมืองจริงกับ 100.000 คนในช่วงเวลาที่โซลเป็นเมืองนำโดย Neo ลัทธิขงจื๊อปรัชญาแห่งราชวงศ์โชซอน ศาสนาพุทธและศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกถูกห้ามในภูเขาและชนบท จนกว่า 1910 โซลถูกควบคุมโดยระบบศักดินาของกษัตริย์ ขุนนาง ชาวไร่ชาวนา พวกทาส และคนที่ถูกสังคมรังเกียจ .
ในปี 1910 , ญี่ปุ่นบุกยึดระบบการปกครองของเกาหลีเมืองโซลในช่วงต่อไปนี้ 35 ปีโซลถูกกำหนดภายใต้การปกครองอาณานิคมของญี่ปุ่น พระราชวังถูกทำลายและวัฒนธรรมเกาหลีดูเหมือนจะจางหายไป
เกาหลีรอดชีวิตและได้รับการปล่อยตัวจากการปกครองของญี่ปุ่นในปี 1948 ในระหว่างสงครามเกาหลี โซล ที่มีประสบการณ์สงคราม 4 ครั้งเท่านั้นที่จะกลายเป็นหลักทุนอีกครั้งในปี 1953 ตอนนั้น โซล มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และต่อเนื่องการขยายตัวของโซลเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจเกาหลีใต้ ทำให้ในรอบ 50 ปี โซลเป็นเมืองสูง
ทุกวันนี้ทันสมัยกับสมัยใหม่ สังคมเทคโนโลยีขั้นสูง . ถนนของกรุงโซลเต็มไปด้วยตึกระฟ้า การจราจร และ 10.3 ล้านคน กรุงโซลเป็นเมืองหลวงของเกาหลีใต้ที่ไม่เพียง แต่ยังเป็นเมืองที่ทุกอย่างอยู่ตรงกลางตลอดทั้งปี คุณสามารถสัมผัสวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมและทันสมัยในมหานครนี้เหตุการณ์สมัยใหม่ของเกาหลี