Upon moving to Los Angeles, Califor

Upon moving to Los Angeles, California in 1968, he was engaged in recording for major motion pictures, television and phonograph records, as well as continuing his career as a soloist, composer and a teacher. During this time he recorded both his solo album "Double Exposure" (Morsax Records) which includes his well known composition "Blue Caprice" (1981) and, as a member of the Los Angeles Saxophone Quartet, the complete "Art of the Fugue" of J.S. Bach for Protone Records in 1974.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ย้ายไปลอสแอนเจลิ แคลิฟอร์เนียในปี 1968 เขาได้ร่วมในการบันทึกภาพเคลื่อนไหวที่สำคัญ โทรทัศน์ และแผ่นบันทึก เป็นอาชีพของเขาเป็นศิลปินเดี่ยวที่ นักแต่งเพลง และครูอย่างต่อเนื่อง ระหว่างนี้เขาบันทึกทั้งสองของเขาอัลบั้ม "ซ้อน" (Morsax ระเบียน) ซึ่งมีองค์ประกอบของเขารู้จัก "Caprice สีฟ้า" (1981) และ เป็นสมาชิกของลอสแองเจลิสแซกโซโฟน Quartet สมบูรณ์ "ศิลปะของการฟิวก์" ของเจเอส Bach สำหรับเรกคอร์ Protone ในปี 1974

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อย้ายไปอยู่ที่ Los Angeles, California ในปี 1968 เขาได้รับการมีส่วนร่วมในการบันทึกสำหรับภาพเคลื่อนไหวที่สำคัญโทรทัศน์และหีบเสียงบันทึกเช่นเดียวกับการดำเนินการต่ออาชีพของเขาในฐานะศิลปินเดี่ยวแต่งเพลงและครู ในช่วงเวลานี้เขาบันทึกทั้งอัลบั้มเดี่ยวของเขา "คู่เผย" (Morsax ประวัติ) ซึ่งรวมถึงการที่รู้จักกันดีองค์ประกอบของเขา "ฟ้าแน่นอน" (1981) และเป็นสมาชิกคนหนึ่งของลอสแอนเจลิแซ็กโซโฟนสี่ฉบับสมบูรณ์ "ศิลปะแห่งความทรงจำ" ของ JS Bach สำหรับ Protone ประวัติในปี 1974

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อย้ายไป Los Angeles , California ในปี 1968 เขาร่วมในการบันทึกสำหรับภาพยนตร์หลัก , โทรทัศน์และบันทึกแผ่นเสียง รวมทั้งต่ออาชีพของเขาในฐานะศิลปินเดี่ยว นักแต่งเพลง และครู ในช่วงเวลานี้เขาได้บันทึกทั้งอัลบั้ม " เดี่ยวของเขารับสอง " ( morsax ประวัติ ) ซึ่งรวมถึงองค์ประกอบของเขารู้จักกันดี " คาพสีฟ้า " ( 1981 ) และเป็นสมาชิกของ ลอส แองเจลิส แซ็กโซโฟน , สมบูรณ์ " ศิลปะของ เจ. เอส. บาคดินชั้นกลาง " ประวัติ PROTONE ในปี 1974