Consumer demand for high quality pr

Consumer demand for high quality products has increased in the last decades, and is still increasing. One such aspect of quality is the detrimental effect of impact damage. This is not restricted to visual aspects, but higher risk of bacterial and fungal contamination, leading to a lower shelf-life, also results from this damage. Other collateral effects include water loss; moisture loss of a single bruised apple may be increased by as much as 400% compared to that of an intact apple
For most fruit types, including apples, bruising is the most common type of postharvest mechanical injury. A survey for 12 years in the New York market (summarized by Knee and Miller, 2002) indicated that 6% of apples were affected by bruising. In this survey, mechanical injury was never the most common defect for most fruit (including apples). Usually one or more kinds of fungal diseases exceeded the mechanical injury, pre- dominantly gray mold (Bortrytis) or blue mold (Penicillium). Like most postharvest pathogens, these organisms cannot infect healthy tissue, and typically enter through dead or wounded tissue before contaminating the rest of the fruit. It is likely that minor mechanical injuries were not counted by the mar- ket inspectors and were only manifested by their consequent fungal infections, and thus mechanical injury could be the most important cause of defects and disease. If mechanical injury could be avoided there would be less need for fungicides to pre- vent disease and there would be much less loss of fruit (Knee and Miller, 2002). Studman (1997) indicated that apple bruis- ing can result in product losses up to 50%, although typically loss levels are in the 10–25% range, depending on consumer awareness.
The economic cost of mechanical damage to apples in Bel- gium has also been estimated. The percentage of degraded apples identified during sorting, in which bruised apples were a major part, was 15 and 8% in 2000 and 2001, respectively. On the Belgian market the auction price for degraded apples (industrial apples, apples not suitable for fresh market) is 1/3 of the normal price. A reduction of only 10% in degraded apples could have led to an income increase for the growers of 892,000 D in 2000 and 595,000 D in 2001 (Van Zeebroeck et al., 2003). Further- more, some (smaller) bruise damage cannot be detected during grading and damage but can become visible later, leading to the presence of bruised apples in the supermarkets and stores and further losses.
The objective of this paper is to give a state-of-the-art review of impact bruising of apples by discussing the causes of impact damage, and by categorizing the research and discussing the most important results of each category.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้บริโภคต้องการสินค้าคุณภาพสูงได้เพิ่มขึ้นในทศวรรษ และยังคงเพิ่มขึ้น หนึ่งเช่นด้านคุณภาพเป็นอันตรายต่อผลของความเสียหาย ไม่จำกัดด้านภาพ แต่ความเสี่ยงสูงของแบคทีเรีย และเชื้อราปนเปื้อน นำไปสู่การลดอายุ ยังผลเสียหายนี้ ผลหลักประกันอื่น ๆ รวมถึงการสูญเสียน้ำ สูญเสียความชื้นของแอปเปิ้ลช้ำเดียวอาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 400% เมื่อเทียบกับของแอปเปิ้ลเหมือนเดิมคือผลไม้ แอปเปิ้ล ช้ำรวมทั้งได้ทั่วไปชนิดของการบาดเจ็บทางกลหลังการเก็บเกี่ยว การสำรวจปีที่ 12 ในตลาดนิวยอร์ก (สรุปตามเข่าและ Miller, 2002) ระบุว่า 6% ของแอปเปิ้ลได้รับผลกระทบ โดยช้ำ ในแบบสำรวจนี้ กลไกการบาดเจ็บก็ไม่เคยบกพร่องบ่อยสำหรับผลไม้ส่วนใหญ่ (รวมถึงแอปเปิ้ล) ปกติอย่าง น้อยหนึ่งชนิดของเชื้อราโรคเกินบาดเจ็บกล แม่พิมพ์ dominantly สีเทาก่อน (Bortrytis) หรือแม่พิมพ์สีฟ้า (ศาสตราจารย์) เช่นเชื้อโรคหลังการเก็บเกี่ยวมากที่สุด สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่สามารถติดเชื้อเยื่อ และมักจะป้อนผ่านเนื้อเยื่อตาย หรือบาดเจ็บก่อนส่วนเหลือของผลไม้ปนเปื้อน ก็มีแนวโน้มว่า บาดเจ็บเล็กน้อยที่จักรกลไม่นับผู้ตรวจสอบ ket มี.ค. และได้ประจักษ์เท่านั้น โดยการติดเชื้อราตที่ตามมา และจึง บาดเจ็บกลอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่สุดของข้อบกพร่องและโรค ถ้ากลไกการบาดเจ็บอาจจะหลีกเลี่ยง จะมีน้อยต้องการเชื้อราโรคระบายก่อน และจะสูญเสียมากน้อยของผลไม้ (เข่าและ Miller, 2002) Studman (1997) ระบุว่า apple bruis ing อาจส่งผลให้สูญเสียผลิตภัณฑ์ถึง 50% แม้ว่าโดยทั่วไประดับขาดทุนอยู่ในช่วง 10 – 25% ขึ้นอยู่กับผู้บริโภคต้นทุนทางเศรษฐกิจความเสียหายทางกลแอปเปิ้ลในเบล gium ยังได้รับการประเมิน เปอร์เซ็นต์ของแอปเปิ้ลที่ระบุในระหว่างการเรียงลำดับ เสื่อมโทรมซึ่งแอปเปิ้ลช้ำถูกส่วนใหญ่ เป็น 15 และ 8% ใน 2000 และ 2001 ตามลำดับ ในเบลเยี่ยมตลาดราคาประมูลสำหรับแอปเปิ้ลเสื่อมโทรม (อุตสาหกรรมแอปเปิ้ล แอปเปิ้ลไม่เหมาะสำหรับตลาดสด) เป็น 1 ใน 3 ของราคาปกติ ลดแค่ 10% ในแอปเปิ้ลเสื่อมโทรมอาจจะนำไปสู่การเพิ่มรายได้สำหรับเกษตรกร 892,000 D ใน 2000 และ 595,000 D ในปี 2001 (Van Zeebroeck et al. 2003) ต่อเติม ความเสียหายรอยช้ำ (เล็ก) ไม่สามารถตรวจพบในระหว่างการวัดผลและความเสียหาย แต่จะกลายเป็นมองเห็นได้ในภายหลัง นำไปสู่การปรากฏตัวของแอปเปิ้ลช้ำในซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้า และผลขาดทุนวัตถุประสงค์ของเอกสารนี้คือการ ให้ทานของศิลปะผลกระทบช้ำของแอปเปิ้ล โดยอภิปรายสาเหตุของความเสียหาย และจัดประเภทการวิจัย และอภิปรายผลสำคัญที่สุดของแต่ละประเภท

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ต้องการของผู้บริโภคสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงได้เพิ่มขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาและยังคงเพิ่มขึ้น แง่มุมหนึ่งที่ดังกล่าวของที่มีคุณภาพเป็นผลกระทบต่อผลกระทบของความเสียหาย นี้ไม่ได้ จำกัด เฉพาะด้านภาพ แต่ความเสี่ยงที่สูงขึ้นของการปนเปื้อนแบคทีเรียและเชื้อราที่นำไปสู่อายุการเก็บรักษาที่ต่ำกว่านอกจากนี้ยังเป็นผลมาจากความเสียหายนี้ ผลกระทบหลักประกันอื่น ๆ ได้แก่ การสูญเสียน้ำ สูญเสียความชุ่มชื้นของแอปเปิ้ลช้ำเดียวอาจจะเพิ่มขึ้นถึง 400% เมื่อเทียบกับที่ของแอปเปิ้ลเหมือนเดิม
สำหรับผลไม้ชนิดมากที่สุดรวมทั้งแอปเปิ้ลช้ำเป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุดของอาการบาดเจ็บที่หลังการเก็บเกี่ยวกล การสำรวจเป็นเวลา 12 ปีในตลาดนิวยอร์ก (สรุปโดยเข่าและมิลเลอร์, 2002) ชี้ให้เห็นว่า 6% ของแอปเปิ้ลได้รับผลกระทบโดยช้ำ ในการสำรวจครั้งนี้ได้รับบาดเจ็บกลก็ไม่เคยบกพร่องที่พบมากที่สุดสำหรับผลไม้ส่วนใหญ่ (รวมทั้งแอปเปิ้ล) มักจะหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งชนิดของโรคเชื้อราเกินบาดเจ็บกลก่อนตระหง่านราสีเทา (Bortrytis) หรือแม่พิมพ์สีฟ้า (Penicillium) เหมือนเชื้อโรคหลังการเก็บเกี่ยวส่วนใหญ่มีชีวิตเหล่านี้ไม่สามารถติดเชื้อเนื้อเยื่อที่มีสุขภาพและมักจะป้อนผ่านเนื้อเยื่อที่ตายหรือได้รับบาดเจ็บก่อนที่จะปนเปื้อนในส่วนที่เหลือของผลไม้ ก็มีโอกาสที่ได้รับบาดเจ็บกลเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่นับโดยผู้ตรวจ มี.ค. ศรีสะเกษและประจักษ์โดยการติดเชื้อราที่เกิดขึ้นของพวกเขาเท่านั้นและได้รับบาดเจ็บจึงกลอาจจะเป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดของข้อบกพร่องและโรค หากการบาดเจ็บทางกายภาพอาจจะหลีกเลี่ยงก็จะต้องน้อยลงสำหรับการฆ่าเชื้อราโรคก่อนการระบายและจะมีการสูญเสียมากน้อยของผลไม้ (เข่าและมิลเลอร์, 2002) Studman (1997) ชี้ให้เห็นว่าแอปเปิ้ลไอเอ็นจี bruis- จะส่งผลในการสูญเสียสินค้าสูงสุดถึง 50% แม้ว่าระดับการสูญเสียมักจะอยู่ในช่วง 10-25% ขึ้นอยู่กับการรับรู้ของผู้บริโภค.
ค่าใช้จ่ายทางเศรษฐกิจของความเสียหายทางกลแอปเปิ้ลใน Bel- gium นอกจากนี้ยังได้รับการประเมิน ร้อยละของแอปเปิ้ลระบุในระหว่างการสลายการเรียงลำดับซึ่งในช้ำแอปเปิ้ลเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญก็คือ 15 และ 8% ในปี 2000 และปี 2001 ตามลำดับ ในตลาดเบลเยียมราคาประมูลสำหรับแอปเปิ้ลที่เสื่อมโทรม (แอปเปิ้ลอุตสาหกรรมแอปเปิ้ลไม่เหมาะสำหรับตลาดสด) เป็น 1/3 ของราคาปกติ การลดลงเพียง 10% ในแอปเปิ้เสื่อมโทรมจะได้นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของรายได้สำหรับเกษตรกรผู้ปลูก 892,000 D ในปี 2000 และ 595,000 D ในปี 2001 (รถตู้ Zeebroeck et al., 2003) ยิ่งไปบางส่วน (ขนาดเล็ก) ความเสียหายที่เกิดรอยช้ำไม่สามารถตรวจพบในระหว่างการจัดลำดับและความเสียหาย แต่สามารถมองเห็นได้ในภายหลังที่นำไปสู่การปรากฏตัวของแอปเปิ้ลช้ำในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าและการสูญเสียต่อไป.
วัตถุประสงค์ของการวิจัยนี้คือการให้ภาครัฐ ของศิลปะการทบทวนผลกระทบช้ำของแอปเปิ้ลโดยการอภิปรายสาเหตุของความเสียหายผลกระทบและจัดหมวดหมู่การวิจัยและการอภิปรายผลที่สำคัญที่สุดของแต่ละหมวดหมู่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความต้องการของผู้บริโภคสำหรับผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่มีเพิ่มขึ้นในทศวรรษที่ผ่านมาและยังคงเพิ่มขึ้น เช่นหนึ่งในด้านคุณภาพเป็น detrimental ผลกระทบความเสียหาย นี้ไม่ได้ จำกัด ที่จะมองเห็นแง่มุม แต่ความเสี่ยงสูงของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราปนเปื้อน ส่งผลให้มีการลด นอกจากนี้ผลจากความเสียหาย ที่มีหลักประกันอื่น ๆรวมถึงการสูญเสียน้ำ การสูญเสียความชื้นของเดียวช้ำแอปเปิ้ลอาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 400 % เมื่อเทียบกับที่ของแอปเปิ้ลยังคงประเภทผลไม้มากที่สุด ได้แก่ แอปเปิ้ล รอยช้ำเป็นชนิดที่พบมากที่สุดของการเก็บรักษากลไกการบาดเจ็บ การสำรวจเป็นเวลา 12 ปีในตลาดนิวยอร์ก ( สรุปโดยเข่าและมิลเลอร์ , 2002 ) พบว่า ร้อยละ 6 ของแอปเปิ้ลได้รับผลกระทบโดยการฟกช้ำ ในการสำรวจนี้ กลไกการบาดเจ็บ ไม่เคยเป็นข้อบกพร่องที่พบบ่อยที่สุดสำหรับผลไม้ส่วนใหญ่ ( รวมถึงแอปเปิ้ล ) โดยปกติหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งชนิดของโรคเชื้อราเกินการบาดเจ็บกล , pre - เด่นสีเทาโมลด์ ( แม่พิมพ์ bortrytis ) หรือสีฟ้า ( Penicillium ) ชอบมากที่สุดหลังการเก็บเกี่ยวเชื้อโรค สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่สามารถติดเชื้อของเนื้อเยื่อที่มีสุขภาพดี และมักจะใส่ผ่านตายหรือบาดเจ็บเนื้อเยื่อปนเปื้อนก่อนส่วนที่เหลือของผลไม้ มันมีแนวโน้มว่า การบาดเจ็บกลเล็กน้อยไม่นับจากมีนาคม - ผู้ตรวจสอบ ศรีสะเกษและเพียงประจักษ์โดยเชื้อของตน เนื่องจากเชื้อรา และดังนั้นจึง เครื่องกล การบาดเจ็บอาจเป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดของข้อบกพร่องและโรค ถ้ากลไกการบาดเจ็บอาจจะหลีกเลี่ยง ก็จะต้องน้อยลง เพราะเมื่อก่อน - โรคระบายและจะมีมากน้อยกว่าการสูญเสียของผลไม้ ( ข้อเข่า และ มิลเลอร์ , 2002 ) studman ( 2540 ) พบว่า แอปเปิ้ล bruis - ing ได้ผลในผลิตภัณฑ์สูญเสียถึง 50% แม้ว่าโดยทั่วไปจะสูญเสียระดับอยู่ในช่วง 10 - 25 % ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการรับรู้ของผู้บริโภคค่าใช้จ่ายทางเศรษฐกิจของความเสียหายทางกลกับแอปเปิ้ลในเบล - Gium ยังได้รับประมาณ เปอร์เซ็นต์ของการย่อยสลายแอปเปิ้ลระบุในการเรียงลำดับ ซึ่งแอปเปิ้ลช้ำเป็นส่วนใหญ่ คือ 15 และ 8% ในปี 2543 และ 2544 ตามลำดับ ในตลาดราคาประมูลเพื่อสลายแอปเปิ้ลเบลเยียม ( แอปเปิ้ล , อุตสาหกรรมแอปเปิ้ลไม่เหมาะกับตลาดสด ) คือ 1 / 3 ของราคาปกติ ลดลงเพียง 10% ในการย่อยสลายแอปเปิ้ลอาจจะทำให้รายได้เพิ่มสำหรับเกษตรกรของ 892000 D ในปี 2000 และ 2001 595000 D ( รถตู้ zeebroeck et al . , 2003 ) เพิ่มเติม - เพิ่มเติม บาง ( ขนาดเล็ก ) ไม่สามารถตรวจพบในระหว่างการฟกช้ำเสียหายและความเสียหาย แต่จะกลายเป็นมองเห็นได้ในภายหลัง ทำให้สถานะของแอปเปิ้ลช้ำในซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าและขาดทุนต่อไปวัตถุประสงค์ของการศึกษานี้ เพื่อให้ทบทวนรัฐ - of - the - art กระแทกรอยช้ำของแอปเปิ้ล โดยพูดถึงสาเหตุของผลกระทบความเสียหาย และแยกแยะการวิจัยและอภิปรายผลที่สำคัญที่สุดของแต่ละประเภท