Geothermal energy is from thermal e

Geothermal energy is from thermal energy generated and stored in the Earth. Thermal energy is the energy that determines the temperature of matter. Earth's geothermal energy originates from the original formation of the planet (20%) and from radioactive decay of minerals (80%). The geothermal gradient, which is the difference in temperature between the core of the planet and its surface, The adjective geothermal originates from the Greek roots geo, meaning earth, and thermos, meaning heat.
The heat that is used for geothermal energy can be from deep within the Earth, all the way down to Earth’s core – 4,000 miles (6,400 km) down. At the core, temperatures may reach over 9,000 °F (5,000 °C). Heat conducts from the core to surrounding rock. Extremely high temperature and pressure cause some rock to melt, which is commonly known as magma. Magma convects upward since it is lighter than the solid rock. This magma then heats rock and water in the crust, sometimes up to 700 °F (371 °C).[46]
From hot springs, geothermal energy has been used for bathing since Paleolithic times and for space heating since ancient Roman times, but it is now better known for electricity generation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พลังงานความร้อนใต้พิภพเป็นพลังงานความร้อนที่สร้างและเก็บไว้ในแผ่นดิน พลังงานความร้อนเป็นพลังงานที่กำหนดอุณหภูมิของสสาร พลังงานความร้อนใต้พิภพของโลกมาจากการก่อตัวเดิมของโลก (20%) และจากการสลายกัมมันตรังสีของแร่ธาตุ (80%) การไล่ระดับความร้อนใต้พิภพซึ่งเป็นความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างหลักของโลกและพื้นผิวของมัน,คำคุณศัพท์ความร้อนใต้พิภพมาจากภาษากรีกรากทางภูมิศาสตร์หมายถึงโลกและกระติกน้ำร้อนหมายถึงความร้อน
ความร้อนที่ใช้สำหรับพลังงานความร้อนใต้พิภพอาจได้มาจากลึกภายในแผ่นดินทุกทางลงไปที่แกนของโลก -. 4,000 ไมล์ (6,400 กิโลเมตร) ลง ที่แกนอุณหภูมิอาจจะสูงถึงกว่า 9,000 ° F (5000 ° C) ความร้อนจากแกนกลางดำเนินการไปโดยรอบหินอุณหภูมิสูงมากและก่อให้เกิดความดันบางหินละลายซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นหินหนืด หินหนืด convects ขึ้นเพราะมันเบากว่าหินแข็ง หินหนืดนี้แล้วร้อนหินและน้ำในเปลือกบางครั้งถึง 700 ° F (371 ° C). [46]
จากน้ำพุร้อนพลังงานความร้อนใต้พิภพได้รับการใช้สำหรับการอาบน้ำมาตั้งแต่สมัยยุคและเครื่องทำความร้อนมาตั้งแต่สมัยโรมันโบราณแต่มันคือตอนนี้ที่รู้จักกันดีสำหรับการผลิตไฟฟ้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พลังงานความร้อนใต้พิภพเป็นพลังงานความร้อนที่สร้างขึ้น และเก็บไว้ในแผ่นดินจาก พลังงานความร้อนเป็นพลังงานที่กำหนดอุณหภูมิของสสาร พลังงานความร้อนใต้พิภพของโลกต้นกำเนิด จากการก่อตัวเดิมของดาวเคราะห์ (20%) และผุตัวของสารกัมมันตรังสีของแร่ (80%) ระดับความร้อนใต้พิภพสี ซึ่งเป็นความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างแกนของโลกและของพื้นผิว คุณศัพท์ความร้อนใต้พิภพมีต้นกำเนิดมาจากภาษากรีกรากแก้ว ความหมายโลก และกระติกน้ำ ร้อน หมายถึง ความร้อนได้
ความร้อนที่ใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพสามารถจากส่วนลึกภายในโลก ทางลงดินหลัก – 4000 ไมล์ (6400 km) ลงได้ ที่หลัก อุณหภูมิอาจถึงกว่า 9000 ° F (5000 ° C) ความร้อนทำจากแกนหินไป ความดันและอุณหภูมิสูงมากทำให้หินบางหลอม ซึ่งโดยทั่วไปเรียกว่าหินหนืด หินหนืด convects ขึ้นเนื่องจากมีน้ำหนักเบากว่าหินแข็ง ผับนี้แล้ว heats หินและน้ำในเปลือก บางครั้งถึง 700 ° F (371 ° C)[46]
จากน้ำพุร้อน พลังงานความร้อนใต้พิภพใช้ สำหรับอาบน้ำตั้งแต่ยุคหินเก่าเวลา และความร้อนพื้นที่ตั้งแต่สมัยโรมันโบราณ แต่ตอนนี้รู้จักกันดีในการผลิตไฟฟ้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประหยัดพลังงานใต้พิ ภพ เป็นจากพลังงานความร้อนถูกสร้างขึ้นและจัดเก็บไว้ในแผ่นดิน พลังงานความร้อนเป็นพลังงานที่จะเป็นตัวกำหนดว่าจะให้ อุณหภูมิ ของเรื่อง ประหยัดพลังงานใต้พิ ภพ ของโลกเกิดจากการจัดตั้งเดิมของพื้นพิ ภพ ที่( 20% )และจากฟันผุวัตถุกัมมันตรังสีของแร่( 80% ) การไล่ระดับสีใต้พิ ภพ ซึ่งเป็นความแตกต่างใน อุณหภูมิ ระหว่างหลักของโลกและพื้นผิวของพื้นที่ใต้พิ ภพ คุณศัพท์ที่เริ่มต้นจากรากกรีกที่ geo หมายถึงโลกและกาแฟซึ่งหมายความว่าความร้อนความร้อน
ที่ใช้เพื่อการประหยัดพลังงานใต้พิ ภพ ได้ลึกจาก ภายใน โลกที่ทางลงไปของโลก - 4 , 000 ไมล์( 6,400 กิโลเมตร)ลงไป ที่สำคัญที่อาจมี อุณหภูมิ สูงกว่า 9,000 ° F ( 5 , 000 ° C ) ความร้อนที่ทำจากหินอยู่โดยรอบอุณหภูมิ สูงขึ้นเป็นอย่างมากได้และความดันเป็นสาเหตุทำให้ก้อนหินบางส่วนเพื่อละลายซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อทั่วไปหินเหลวลาวา หินเหลวลาวา convects ขึ้นนับตั้งแต่ที่มันมีน้ำหนักเบากว่าหินที่แข็งแกร่ง โรงแรมแห่งนี้หินเหลวลาวาแล้วร้อนหินและน้ำลงในแผ่นน้ำแข็ง,บางครั้งได้ถึง 700 ° F ( 371 ° C )[ 46 ]
จากน้ำพุร้อน,แหล่งความร้อนประหยัดพลังงานได้รับการใช้งานสำหรับการอาบน้ำตั้งแต่ยุคหินเพลิโอะลีธ - อิคครั้งและสำหรับพื้นที่เครื่องทำความร้อนเนื่องจากโรมันโบราณเวลา,แต่ก็เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าในขณะนี้