รวมกฎ กติกา และพื้นฐานการเล่น ว่ายน

รวมกฎ กติกา และพื้นฐานการเล่น ว่ายน้ำของ บริษัทสกายบุ๊กส์ ได้กล่าวถึงประโยชน์ของการเล่นกีฬาว่ายน้ำไว้ดังนี้[1] ว่ายน้ำเป็นกีฬาที่รู้จักมาแต่สมัยโบราณการว่ายน้ำยุคก่อนๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่ตั้งถิ่นฐานตามชายฝั่งทะเล แม่น้ำที่ราบลุ่มต่างๆ เช่นพวกแอสซีเรีย อียิปต์ กรีก และโรมันได้มีการฝึกว่ายน้ำแล้ว โดยประวัติศาสตร์ระบุว่า การว่ายน้ำในสมัยก่อนคริสตกาลเป็นการเรียนรู้เพื่อหลบหลีกภัยอันตรายต่างๆ เท่านั้น เช่น ในสงครามยุคเรือใบได้กล่าวถึงทหารที่หลบหนีข้าศึกโดยการว่ายน้ำขึ้นฝั่งด้วยท่าว่ายน้ำด้วยท่าอิสระเรียกว่า “ฟรีสไตล์” (Free style) คือไม่มีท่าทางแน่นอน แต่เพื่อการพยุงตัวอยู่ในน้ำให้ได้นานที่สุดนั้นเป็นการเรียนรู้เพื่อหลบหลีกเอาตัวรอดจากภัยอันตรายต่างๆ เช่นจากเรือล่ม หรืออับปางในทะเล การว่ายน้ำสมัยก่อนนั้น เป็นการว่ายท่าอิสระไม่จำกัดแบบ (Free style) จะว่ายน้ำท่าใดก็ได้ตามถนัดให้ลอยอยู่ในน้ำได้นานๆ และพาตัวเองไปข้างหน้าได้ มนุษย์เรียนรู้การว่ายน้ำโดยวิธีธรรมชาติ แบบการว่ายน้ำนั้นไม่มีอยู่ในระบบจะว่ายท่ากบก็ไม่ใช่ หรือจะเป็นการกระทุ่มไปข้างๆ ก็ไม่เชิง เพียงพยุงตัวเองให้ลอยน้ำแล้วเท้าทั้งสองถีบน้ำขึ้นลง มือทั้งสองก็พุ้ยน้ำคล้ายสุนัขตกน้ำ หลักฐานอื่นๆ เกี่ยวกับการว่ายน้ำ คือภาพแกะสลักที่ค้นพบในเมืองปอมเปอี เป็นภาพการว่ายน้ำแบบกรรเชียงข้างซึ่งแสดงให้เห็นว่ามนุษย์สามารถว่ายน้ำได้ ตั้งแต่ อดีตกาล ส่วนมากจะเป็นการว่ายน้ำโดยการถีบเท้าขึ้นลงใต้น้ำ มือทั้งสองพุ้ยน้ำออกไปข้างๆ ต่อมานาย Raph Thomas เป็นผู้ให้ชื่อการว่ายแบบนี้ว่า “Human stroke” หรือเรียกอีกอย่างว่า “Dog paddle” ซึ่งเป็นการว่ายน้ำแบบสุนัขตกน้ำ
ว่ายน้ำนับว่าเป็นกิจกรรม ที่นิยมขึ้นหน้าขึ้นตาระหว่างชนชั้นต่างๆ ของชาวกรีกเรียกว่าเป็นอุปนิสัยประจำชาติ ต่อมากรีกได้บรรจุกีฬาว่ายน้ำไว้ในระดับชาติ เช่นเดียวกับกีฬาประเภทอื่นๆ พฤติกรรมทำนองนี้ชาวพื้นเมืองของเม็กซิกันก็นิยมว่ายน้ำกันมาก ได้นำวิธีการแบบนี้ไปเผยแพร่ตามหัวเมืองชายทะเล มีการจัดการแข่งขันระหว่าง พระในสำนักวาติกันโดยขนานนาม ผู้ชนะการแข่งขันในครั้งนั้นว่า “เทพเจ้าแห่งนาวี” เชื่อกันว่า การแข่งขันว่ายน้ำครั้งแรกได้จัดการแข่งขันที่(Woolwich Baths) ใกล้กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษเมื่อ ปี ค.ศ.1873 การแข่งขันในครั้งนี้จัดเพียงแบบเดียวคือ ฟรีสไตล์ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะว่ายแบบใดก็ได้ให้เร็วที่สุดการแข่งขันครั้งนี้ J.Trudgen ได้รับชัยชนะอย่างงดงาม โดยที่เขาว่ายน้ำแบบเดียวกับพวกอินเดียแดงในอเมริกาใต้ เนื่องจากเขาได้เห็นพวกอินเดียแดงว่ายน้ำแบบนั้นจึงได้นำมาว่ายบ้าง จึงได้ซื่อว่าเป็นผู้นำเผยแพร่ วิธีการว่ายน้ำแบบที่ยกแขนขึ้นไปเหนือน้ำในการจ้วงพุ้ยน้ำ หลังจากได้รับชัยชนะมาแล้ว ชาวยุโรปมีความสนใจกันมาก และหัดว่ายตามแบบโดยใช้ชื่อว่า Indian Stroke, Trudgen Stroke หรือ Trudgen Crawl ประชาชนทั่วโลกเริ่มสนใจและกระตือรือร้น ที่จะว่ายน้ำมากขึ้นเมื่อเรือเอก Matthew Webb ได้ว่ายน้ำข้ามช่องแคบอังกฤษจากเมือง Dover ถึง Calais เมื่อวันที่ 24-25 สิงหาคม ค.ศ.1875 โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 21 ชั่วโมง 45 นาที ข่าวความสำเร็จในครั้งนี้ได้แพร่กระจายยังความตื่นเต้นไปทั่วโลก เรือเอก Webb ได้ว่ายน้ำข้ามช่องแคบด้วยแบบกบ (Breast Stroke) ต่อมาเด็กสาวชาวอเมริกันชื่อ Gertrude Ederle ได้ว่ายน้ำข้ามช่องแคบอังกฤษอีก เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ.1926 โดยทำเวลาได้ 14 ชั่วโมง 31 นาที โดยว่ายแบบ Crawl Stroke ซึ่งเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลา 50 ปี ว่ายน้ำได้พัฒนาความก้าวหน้ามากขึ้นในเรื่องความเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาว Lancashire และ Australia ได้ดัดแปลงวิธีการว่ายน้ำแบบ Trudgen Stroke เพื่อให้เกิดความเร็วยิ่งขึ้น เช่น การใช้ขาเตะสลับขึ้นลงแบบกรรไกร โดยกางขาให้มากขึ้นไม่งอเข่ามากเช่นแต่ก่อน ซึ่งผู้นำวิธีการว่ายน้ำแบบนี้ไปใช้ และได้ผลก็คือ Taylor ผู้ครองสถิติโลกเมื่อปี ค.ศ.1926-1908 Bare Kierany ชาวออสเตรเลีย และBattersby ชาวอังกฤษต่อมาการว่ายน้ำแบบ Crawl Stroke ก็ได้เริ่มขึ้นโดย Alex Wickham เป็นชาวเกาะโซโลมอน อาศัยอยู่ที่ซิดนีย์ประเทศออสเตรเลีย เป็นผู้ครองสถิติโลกในการว่ายน้ำแบบฟรีสไตล์ อยู่เป็นเวลานาน ในระยะทาง 50 หลา เขาได้ว่ายน้ำแบบ Crawl Stroke และ Alex Wickham ได้กล่าวว่าเด็กชาวเกาะโซโลมอนทุกคนว่ายน้ำในแบบนี้ทั้งนั้น หลังจากนั้นต่อมาการว่ายน้ำแบบฟรีสไตล์ก็ได้เป็นที่นิยมแพร่หลายฝึกหัดกันโดยทั่วไป Dick Cavill ชาวออสเตรเลีย อีกคนหนึ่งที่ได้ปรับปรุงวิธีการว่ายน้ำแบบ Crawl Stoke และ Wickham จนได้รับผลสำเร็จและได้ครองสถิติโลกในระยะทาง 100 หลาโดยทำเวลา ได้ 55 วินาที หลังจากนั้นการว่ายน้ำแบบ Crawl Stroke ก็ได้รับความนิยมแพร่หลาย ทั่วโลกศตวรรษที่19 ว่ายน้ำได้มีการพัฒนาความก้าวหน้าไปอย่างไม่น่าเชื่อ ในประเทศอังกฤษว่ายน้ำเริ่มมีบทบาท รวมกันเป็นสมาคมว่ายน้ำสมัครเล่นแห่งประเทศอังกฤษ และเริ่มรับสโมสรสมาชิกที่มีสระว่ายน้ำเป็นของตนเองไว้ในโอกาสแรก (ในปี 1844 ประเทศอังกฤษมีเพียง 6 สระ เท่านั้น) ช่วงระยะเวลาเดียวกันชาวยุโรปกลับไปนิยมว่ายน้ำประเภทกบโดยการสังเกตจากการว่ายของกบแล้วนำไปเลียนแบบด้วยการกระเดือกตัวหรือคืบตัวไปทางด้านข้างเพราะไม่ค่อย รู้สึกเหนื่อยแต่ไปได้ช้า และมีความเร็วต่ำมาก ในปี 1902 ริชาร์ด ดาวิลล์ ชาวอังกฤษสามารถว่ายน้ำท่าฟรีสไตล์ 100 หลา ด้วยเวลา 58.6 วินาทีนับเป็นเวลาที่เร็วมาก (100 เมตร ประมาณ 1.45 นาที) ทำให้เขาได้รับฉายาในการว่ายน้ำท่านี้ว่าปรู๊ดปร๊าด เหมือนงูเลื้อย ได้มีคนเลียนแบบการว่ายน้ำท่านี้ ในที่สุดได้เรียกชื่อการว่ายน้ำในท่านี้ว่า ฟรีสไตล์ จนถึงปัจจุบันนี้ ต่อมา ชาร์ล เอม ดาเนียล ได้ประยุกต์การใช้แขนและขาสลับกันกันอัตราส่วน 1 ต่อ 3 และพยายามเปลี่ยนระบบการหายใจออกเป็นจังหวะในขณะใช้แขนจ้วงลงน้ำ และเริ่มหายใจเข้าขณะที่ยกแขนข้างนั้นสูงขึ้น สไตล์การว่ายน้ำแบบนี้ ดาเนียลเรียกชื่อว่า “อเมริกันคลอว์ล” ต่อมาเขาได้ลงแข่งขันว่ายน้ำในกีฬาโอลิมปิก ปี ค.ศ.1910 ได้แชมป์ถึง 3 รายการ และสามารถทำสถิติโลกในระยะทาง 100 หลา ด้วยเวลาเพียง 45.8 วินาที ในปี 1924 ได้มีการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำในกีฬาโอลิมปิกที่กรุง ปารีส นักว่ายน้ำชาวอเมริกันชื่อ จอนห์นี ไวสมูลเลอร์ได้ทำสถิติโลกขึ้นใหม่ในระยะทาง 100 เมตร ด้วยเวลา 59.0 วินาที สามารถทำเหรียญทองว่ายน้ำประเภทอื่นๆ อีก 2 เหรีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รวมกฎกติกาและพื้นฐานการเล่นว่ายน้ำของบริษัทสกายบุ๊กส์ได้กล่าวถึงประโยชน์ของการเล่นกีฬาว่ายน้ำไว้ดังนี้ [1] ว่ายน้ำเป็นกีฬาที่รู้จักมาแต่สมัยโบราณการว่ายน้ำยุคก่อน ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่ตั้งถิ่นฐานตามชายฝั่งทะเลแม่น้ำที่ราบลุ่มต่าง ๆ เช่นพวกแอสซีเรียอียิปต์กรีกและโรมันได้มีการฝึกว่ายน้ำแล้วโดยประวัติศาสตร์ระบุว่าการว่ายน้ำในสมัยก่อนคริสตกาลเป็นการเรียนรู้เพื่อหลบหลีกภัยอันตรายต่าง ๆ เท่านั้นเช่นในสงครามยุคเรือใบได้กล่าวถึงทหารที่หลบหนีข้าศึกโดยการว่ายน้ำขึ้นฝั่งด้วยท่าว่ายน้ำด้วยท่าอิสระเรียกว่า "ฟรีสไตล์" (แบบฟรี) คือไม่มีท่าทางแน่นอนแต่เพื่อการพยุงตัวอยู่ในน้ำให้ได้นานที่สุดนั้นเป็นการเรียนรู้เพื่อหลบหลีกเอาตัวรอดจากภัยอันตรายต่าง ๆ เช่นจากเรือล่มหรืออับปางในทะเลการว่ายน้ำสมัยก่อนนั้นเป็นการว่ายท่าอิสระไม่จำกัดคำประกอบ (แบบฟรี) จะว่ายน้ำท่าใดก็ได้ตามถนัดให้ลอยอยู่ในน้ำได้นาน ๆ และพาตัวเองไปข้างหน้าได้มนุษย์เรียนรู้การว่ายน้ำโดยวิธีธรรมชาติแบบการว่ายน้ำนั้นไม่มีอยู่ในระบบจะว่ายท่ากบก็ไม่ใช่หรือจะเป็นการกระทุ่มไปข้าง ๆ ก็ไม่เชิงเพียงพยุงตัวเองให้ลอยน้ำแล้วเท้าทั้งสองถีบน้ำขึ้นลงมือทั้งสองก็พุ้ยน้ำคล้ายสุนัขตกน้ำหลักฐานอื่น ๆ เกี่ยวกับการว่ายน้ำคือภาพแกะสลักที่ค้นพบในเมืองปอมเปอีเป็นภาพการว่ายน้ำแบบกรรเชียงข้างซึ่งแสดงให้เห็นว่ามนุษย์สามารถว่ายน้ำได้ตั้งแต่อดีตกาลส่วนมากจะเป็นการว่ายน้ำโดยการถีบเท้าขึ้นลงใต้น้ำมือทั้งสองพุ้ยน้ำออกไปข้าง ๆ ต่อมานาย Raph Thomas เป็นผู้ให้ชื่อการว่ายแบบนี้ว่า "มนุษย์จังหวะ" หรือเรียกอีกอย่างว่า "สุนัขพาย" ซึ่งเป็นการว่ายน้ำแบบสุนัขตกน้ำว่ายน้ำนับว่าเป็นกิจกรรมที่นิยมขึ้นหน้าขึ้นตาระหว่างชนชั้นต่าง ๆ ของชาวกรีกเรียกว่าเป็นอุปนิสัยประจำชาติต่อมากรีกได้บรรจุกีฬาว่ายน้ำไว้ในระดับชาติเช่นเดียวกับกีฬาประเภทอื่น ๆ พฤติกรรมทำนองนี้ชาวพื้นเมืองของเม็กซิกันก็นิยมว่ายน้ำกันมากได้นำวิธีการแบบนี้ไปเผยแพร่ตามหัวเมืองชายทะเลมีการจัดการแข่งขันระหว่างพระในสำนักวาติกันโดยขนานนามผู้ชนะการแข่งขันในครั้งนั้นว่า "เทพเจ้าแห่งนาวี" เชื่อกันว่าการแข่งขันว่ายน้ำครั้งแรกได้จัดการแข่งขันที่ (อาบน้ำนีย์) ใกล้กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษเมื่อปี ค.ศ.1873 การแข่งขันในครั้งนี้จัดเพียงแบบเดียวคือฟรีสไตล์ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะว่ายแบบใดก็ได้ให้เร็วที่สุดการแข่งขันครั้งนี้ J.Trudgen ได้รับชัยชนะอย่างงดงามโดยที่เขาว่ายน้ำแบบเดียวกับพวกอินเดียแดงในอเมริกาใต้เนื่องจากเขาได้เห็นพวกอินเดียแดงว่ายน้ำแบบนั้นจึงได้นำมาว่ายบ้างจึงได้ซื่อว่าเป็นผู้นำเผยแพร่วิธีการว่ายน้ำแบบที่ยกแขนขึ้นไปเหนือน้ำในการจ้วงพุ้ยน้ำหลังจากได้รับชัยชนะมาแล้วชาวยุโรปมีความสนใจกันมากและหัดว่ายตามแบบโดยใช้ชื่อว่าอินเดียจังหวะ Trudgen จังหวะหรือ Trudgen ตระเวนประชาชนทั่วโลกเริ่มสนใจและกระตือรือร้นที่จะว่ายน้ำมากขึ้นเมื่อเรือเอกเวบบ์ Matthew ได้ว่ายน้ำข้ามช่องแคบอังกฤษจากเมืองโดเวอร์ถึงกาเลส์เมื่อวันที่ 24-25 สิงหาคม ค.ศ.1875 โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 21 ชั่วโมง 45 นาทีข่าวความสำเร็จในครั้งนี้ได้แพร่กระจายยังความตื่นเต้นไปทั่วโลกเรือเอกเวบบ์ (Breas ได้ว่ายน้ำข้ามช่องแคบด้วยแบบกบt จังหวะ) ต่อมาเด็กสาวชาวอเมริกันชื่อ Gertrude Ederle ได้ว่ายน้ำข้ามช่องแคบอังกฤษอีกเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ.1926 โดยทำเวลาได้ 14 ชั่วโมง 31 นาทีโดยว่ายแบบรวบรวมโรคหลอดเลือดสมองซึ่งเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลา 50 ปีว่ายน้ำได้พัฒนาความก้าวหน้ามากขึ้นในเรื่องความเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวแลงคาเชอร์และออสเตรเลียได้ดัดแปลงวิธีการว่ายน้ำแบบ Trudgen โรคหลอดเลือดสมองเพื่อให้เกิดความเร็วยิ่งขึ้นเช่นการใช้ขาเตะสลับขึ้นลงแบบกรรไกรโดยกางขาให้มากขึ้นไม่งอเข่ามากเช่นแต่ก่อนซึ่งผู้นำวิธีการว่ายน้ำแบบนี้ไปใช้และได้ผลก็คือ Taylor ผู้ครองสถิติโลกเมื่อปี ค.ศ.1926-1908 เปลือย Kierany ชาวออสเตรเลีย และBattersby ชาวอังกฤษต่อมาการว่ายน้ำแบบรวบรวมโรคหลอดเลือดสมองก็ได้เริ่มขึ้นโดยวิกคัม Alex เป็นชาวเกาะโซโลมอนอาศัยอยู่ที่ซิดนีย์ประเทศออสเตรเลียเป็นผู้ครองสถิติโลกในการว่ายน้ำแบบฟรีสไตล์อยู่เป็นเวลานานในระยะทาง 50 หลาเขาได้ว่ายน้ำแบบตระเวนโรคหลอดเลือดสมองและวิกคัม Alex ได้กล่าวว่าเด็กชาวเกาะโซโลมอนทุกคนว่ายน้ำในแบบนี้ทั้งนั้นหลังจากนั้นต่อมาการว่ายน้ำแบบฟรีสไตล์ก็ได้เป็นที่นิยมแพร่หลายฝึกหัดกันโดยทั่วไปอีกคนหนึ่งที่ได้ปรับปรุงวิธีการว่าชาวออสเตรเลียดิ๊กดคาตระเวนยน้ำแบบสโต๊คและวิกคัมจนได้รับผลสำเร็จและได้ครองสถิติโลกในระยะทาง 100 หลาโดยทำเวลาได้ 55 วินาทีหลังจากนั้นการว่ายน้ำแบบตระเวนจังหวะก็ได้รับความนิยมแพร่หลาย ทั่วโลกศตวรรษที่19 ว่ายน้ำได้มีการพัฒนาความก้าวหน้าไปอย่างไม่น่าเชื่อในประเทศอังกฤช่วงระยะเวลาเดียวกันชาวยุโรปกลับไปนิยมว่ายน้ำประเภทกบโดยการสังเกตจากการษว่ายน้ำเริ่มมีบทบาทรวมกันเป็นสมาคมว่ายน้ำสมัครเล่นแห่งประเทศอังกฤษและเริ่มรับสโมสรสมาชิกที่มีสระว่ายน้ำเป็นของตนเองไว้ในโอกาสแรก (ในปี 1844 ประเทศอังกฤษมีเพียง 6 สระเท่านั้น)ว่ายของกบแล้วนำไปเลียนแบบด้วยการกระเดือกตัวหรือคืบตัวไปทางด้านข้างเพราะไม่ค่อยรู้สึกเหนื่อยแต่ไปได้ช้าและมีความเร็วต่ำมากในปี 1902 ริชาร์ดดาวิลล์ชาวอังกฤษสามารถว่ายน้ำท่าฟรีสไตล์ 100 หลาด้วยเวลา 58.6 วินาทีนับเป็นเวลาที่เร็วมาก (100 เมตรประมาณนาทีที่ 1.45) ทำให้เขาได้รับฉายาในการว่ายน้ำท่านี้ว่าปรู๊ดปร๊าดเหมือนงูเลื้อยได้มีคนเลียนแบบการว่ายน้ำท่านี้ในที่สุดได้เรียกชื่อการว่ายน้ำในท่านี้ว่าฟรีสไตล์จนถึงปัจจุบันนี้ต่อมาชาร์ลเอมดาเนียลได้ประยุกต์การใช้แขนและขาสลับกันกันอัตราส่วน 1 ต่อ 3 และพยายามเปลี่ยนระบบการหายใจออกเป็นจังหวะในขณะใช้แขนจ้วงลงน้ำและเริ่มหายใจเข้าขณะที่ยกแขนข้างนั้นสูงขึ้นสไตล์การว่ายน้ำแบบนี้ดาเนียลเรียกชื่อว่า "อเมริกันคลอว์ล" ต่อมาเขาได้ลงแข่งขันว่ายน้ำในกีฬาโอลิมปิกปี ค.ศ.1910 ได้แชมป์ถึง 3 รายการและสามารถทำสถิติโลกในระยะทาง 100 หลาด้วยเวลาเพียง 45.8 วินาทีในปี 1924 ได้มีการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำในกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปารีสนักว่ายน้ำชาวอเมริกันชื่อจอนห์นีไวสมูลเลอร์ได้ทำสถิติโลกขึ้นใหม่ในระยะทาง 100 เมตรด้วยเวลา 59.0 วินาทีสามารถทำเหรียญทองว่ายน้ำประเภทอื่น ๆ อีก 2 เหรีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รวมกฎกติกาและพื้นฐานการเล่นว่ายน้ำของบริษัทสกายบุ๊กส์ได้กล่าวถึงประโยชน์ของการเล่นกีฬาว่ายน้ำไว้ดังนี้ [ 1 ] ว่ายน้ำเป็นกีฬาที่รู้จักมาแต่สมัยโบราณการว่ายน้ำยุคก่อนๆแม่น้ำที่ราบลุ่มต่างๆเช่นพวกแอสซีเรียอียิปต์กรีกและโรมันได้มีการฝึกว่ายน้ำแล้วโดยประวัติศาสตร์ระบุว่าการว่ายน้ำในสมัยก่อนคริสตกาลเป็นการเรียนรู้เพื่อหลบหลีกภัยอันตรายต่างๆเท่านั้นเช่น" ฟรีสไตล์ " ( แบบฟรี ) คือไม่มีท่าทางแน่นอนแต่เพื่อการพยุงตัวอยู่ในน้ำให้ได้นานที่สุดนั้นเป็นการเรียนรู้เพื่อหลบหลีกเอาตัวรอดจากภัยอันตรายต่างๆเช่นจากเรือล่มหรืออับปางในทะเลการว่ายน้ำสมัยก่อนนั้น( ฟรีสไตล์ ) จะว่ายน้ำท่าใดก็ได้ตามถนัดให้ลอยอยู่ในน้ำได้นานๆและพาตัวเองไปข้างหน้าได้มนุษย์เรียนรู้การว่ายน้ำโดยวิธีธรรมชาติแบบการว่ายน้ำนั้นไม่มีอยู่ในระบบจะว่ายท่ากบก็ไม่ใช่หรือจะเป็นการกระทุ่มไปข้างๆเพียงพยุงตัวเองให้ลอยน้ำแล้วเท้าทั้งสองถีบน้ำขึ้นลงมือทั้งสองก็พุ้ยน้ำคล้ายสุนัขตกน้ำหลักฐานอื่นๆเกี่ยวกับการว่ายน้ำคือภาพแกะสลักที่ค้นพบในเมืองปอมเปอีตั้งแต่อดีตกาลส่วนมากจะเป็นการว่ายน้ำโดยการถีบเท้าขึ้นลงใต้น้ำมือทั้งสองพุ้ยน้ำออกไปข้างๆต่อมานายแรฟ โทมัส เป็นผู้ให้ชื่อการว่ายแบบนี้ว่า " จังหวะ " ของมนุษย์หรือเรียกอีกอย่างว่า " พายเรือสุนัข "ว่ายน้ำนับว่าเป็นกิจกรรมที่นิยมขึ้นหน้าขึ้นตาระหว่างชนชั้นต่างๆของชาวกรีกเรียกว่าเป็นอุปนิสัยประจำชาติต่อมากรีกได้บรรจุกีฬาว่ายน้ำไว้ในระดับชาติเช่นเดียวกับกีฬาประเภทอื่นๆได้นำวิธีการแบบนี้ไปเผยแพร่ตามหัวเมืองชายทะเลมีการจัดการแข่งขันระหว่างพระในสำนักวาติกันโดยขนานนามผู้ชนะการแข่งขันในครั้งนั้นว่า " เทพเจ้าแห่งนาวี " เชื่อกันว่าบาท ) ใกล้กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษเมื่อ . ค .ศ . 1873 การแข่งขันในครั้งนี้จัดเพียงแบบเดียวคือฟรีสไตล์ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะว่ายแบบใดก็ได้ให้เร็วที่สุดการแข่งขันครั้งนี้ Jtrudgen ได้รับชัยชนะอย่างงดงามโดยที่เขาว่ายน้ำแบบเดียวกับพวกอินเดียแดงในอเมริกาใต้เนื่องจากเขาได้เห็นพวกอินเดียแดงว่ายน้ำแบบนั้นจึงได้นำมาว่ายบ้างจึงได้ซื่อว่าเป็นผู้นำเผยแพร่หลังจากได้รับชัยชนะมาแล้วชาวยุโรปมีความสนใจกันมากและหัดว่ายตามแบบโดยใช้ชื่อว่าอินเดียจังหวะtrudgen จังหวะค็อค trudgen คลานประชาชนทั่วโลกเริ่มสนใจและกระตือรือร้นที่จะว่ายน้ำมากขึ้นเมื่อเรือเอกแมททิวเวบบ์ได้ว่ายน้ำข้ามช่องแคบอังกฤษจากเมืองโดเวอร์ถึงกาเลส์เมื่อวันที่ 24-25 สิงหาคมค . ศ .1875 โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 21 ชั่วโมง 45 นาทีข่าวความสำเร็จในครั้งนี้ได้แพร่กระจายยังความตื่นเต้นไปทั่วโลก Flt.Lt . เวบได้ว่ายน้ำข้ามช่องแคบด้วยแบบกบ ( เต้านมเส้น ) ederle ต่อมาเด็กสาวชาวอเมริกันชื่อเกอร์ทรูดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมค .ศ .1926 โดยทำเวลาได้ 14 31 ชั่วโมงนาทีโดยว่ายแบบการว่ายน้ำซึ่งเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลา 50 . ว่ายน้ำได้พัฒนาความก้าวหน้ามากขึ้นในเรื่องความเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวม. และออสเตรเลียได้ดัดแปลงวิธีการว่ายน้ำแบบ trudgen โรคหลอดเลือดสมองเช่นการใช้ขาเตะสลับขึ้นลงแบบกรรไกรโดยกางขาให้มากขึ้นไม่งอเข่ามากเช่นแต่ก่อนซึ่งผู้นำวิธีการว่ายน้ำแบบนี้ไปใช้และได้ผลก็คือเทย์เลอร์ผู้ครองสถิติโลกเมื่อปีค .ศ .1926-1908 เปลือย kierany ชาวออสเตรเลียและแบ็ตเติร์สบี้ชาวอังกฤษต่อมาการว่ายน้ำแบบการว่ายน้ำก็ได้เริ่มขึ้นโดย Alex Wickham เป็นชาวเกาะโซโลมอนอาศัยอยู่ที่ซิดนีย์ประเทศออสเตรเลียเป็นผู้ครองสถิติโลกในการว่ายน้ำแบบฟรีสไตล์ในระยะทาง 50 หลาเขาได้ว่ายน้ำแบบการว่ายน้ำและอเล็กซ์ วิคแฮมได้กล่าวว่าเด็กชาวเกาะโซโลมอนทุกคนว่ายน้ำในแบบนี้ทั้งนั้นหลังจากนั้นต่อมาการว่ายน้ำแบบฟรีสไตล์ก็ได้เป็นที่นิยมแพร่หลายฝึกหัดกันโดยทั่วไป Dick Cavillอีกคนหนึ่งที่ได้ปรับปรุงวิธีการว่ายน้ำแบบคลาน สโต๊ค และวิคแฮมจนได้รับผลสำเร็จและได้ครองสถิติโลกในระยะทาง 100 หลาโดยทำเวลาได้ 55 วินาทีหลังจากนั้นการว่ายน้ำแบบการว่ายน้ำก็ได้รับความนิยมแพร่หลาย 19 ทั่วโลกศตวรรษที่ในประเทศอังกฤษว่ายน้ำเริ่มมีบทบาทรวมกันเป็นสมาคมว่ายน้ำสมัครเล่นแห่งประเทศอังกฤษ ( สามารถและเริ่มรับสโมสรสมาชิกที่มีสระว่ายน้ำเป็นของตนเองไว้ในโอกาสแรก 1844 ประเทศอังกฤษมีเพียง 6 สระเท่านั้น )รู้สึกเหนื่อยแต่ไปได้ช้าและมีความเร็วต่ำมากสามารถ 1902 ริชาร์ดดาวิลล์ชาวอังกฤษสามารถว่ายน้ำท่าฟรีสไตล์ 100 หลาด้วยเวลา 586 วินาทีนับเป็นเวลาที่เร็วมาก ( 100 เมตรประมาณ 145 นาที ) ทำให้เขาได้รับฉายาในการว่ายน้ำท่านี้ว่าปรู๊ดปร๊าดเหมือนงูเลื้อยได้มีคนเลียนแบบการว่ายน้ำท่านี้ในที่สุดได้เรียกชื่อการว่ายน้ำในท่านี้ว่าฟรีสไตล์จนถึงปัจจุบันนี้ต่อมาชาร์ลเอมดาเนียล1 ใหม่ให้ 3 และพยายามเปลี่ยนระบบการหายใจออกเป็นจังหวะในขณะใช้แขนจ้วงลงน้ำและเริ่มหายใจเข้าขณะที่ยกแขนข้างนั้นสูงขึ้นสไตล์การว่ายน้ำแบบนี้ดาเนียลเรียกชื่อว่า " อเมริกันคลอว์ล ". ค .ศ . 1910 ได้แชมป์ถึง 3 รายการและสามารถทำสถิติโลกในระยะทาง 100 หลาด้วยเวลาเพียง 458 วินาทีสามารถได้มีการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำในกีฬาโอลิมปิกที่กรุง 1924 ปารีสนักว่ายน้ำชาวอเมริกันชื่อจอนห์นีไวสมูลเลอร์ได้ทำสถิติโลกขึ้นใหม่ในระยะทาง 100 เมตรด้วยเวลา 590 วินาทีสามารถทำเหรียญทองว่ายน้ำประเภทอื่นๆอีก 2 เหรีย