The first substantial computer was

The first substantial computer was the giant ENIAC machine by John W. Mauchly and J. Presper Eckert at the University of Pennsylvania. ENIAC (Electrical Numerical Integrator and Calculator) used a word of 10 decimal digits instead of binary ones like previous automated calculators/computers. ENIAC was also the first machine to use more than 2,000 vacuum tubes, using nearly 18,000 vacuum tubes. Storage of all those vacuum tubes and the machinery required to keep the cool took up over 167 square meters (1800 square feet) of floor space. Nonetheless, it had punched-card input and output and arithmetically had 1 multiplier, 1 divider-square rooter, and 20 adders employing decimal "ring counters," which served as adders and also as quick-access (0.0002 seconds) read-write register storage.
The executable instructions composing a program were embodied in the separate units of ENIAC, which were plugged together to form a route through the machine for the flow of computations. These connections had to be redone for each different problem, together with presetting function tables and switches. This "wire-your-own" instruction technique was inconvenient, and only with some license could ENIAC be considered programmable; it was, however, efficient in handling the particular programs for which it had been designed. ENIAC is generally acknowledged to be the first successful high-speed electronic digital computer (EDC) and was productively used from 1946 to 1955. A controversy developed in 1971, however, over the patentability of ENIAC's basic digital concepts, the claim being made that another U.S. physicist, John V. Atanasoff, had already used the same ideas in a simpler vacuum-tube device he built in the 1930s while at Iowa State College. In 1973, the court found in favor of the company using Atanasoff claim and Atanasoff received the acclaim he rightly deserved.
The 1960s saw large mainframe computers become much more common in large industries and with the US military and space program. IBM became the unquestioned market leader in selling these large, expensive, error-prone, and very hard to use machines.
A veritable explosion of personal computers occurred in the early 1970s, starting with Steve Jobs and Steve Wozniak exhibiting the first Apple II at the First West Coast Computer Faire in San Francisco. The Apple II boasted built-in BASIC programming language, color graphics, and a 4100 character memory for only $1298. Programs and data could be stored on an everyday audio-cassette recorder. Before the end of the fair, Wozniak and Jobs had secured 300 orders for the Apple II and from there Apple just took off.
Also introduced in 1977 was the TRS-80. This was a home computer manufactured by Tandy Radio Shack. In its second incarnation, the TRS-80 Model II, came complete with a 64,000 character memory and a disk drive to store programs and data on. At this time, only Apple and TRS had machines with disk drives. With the introduction of the disk drive, personal computer applications took off as a floppy disk was a most convenient publishing medium for distribution of software.
IBM, which up to this time had been producing mainframes and minicomputers for medium to large-sized businesses, decided that it had to get into the act and started working on the Acorn, which would later be called the IBM PC. The PC was the first computer designed for the home market which would feature modular design so that pieces could easily be added to the architecture. Most of the components, surprisingly, came from outside of IBM, since building it with IBM parts would have cost too much for the home computer market. When it was introduced, the PC came with a 16,000 character memory, keyboard from an IBM electric typewriter, and a connection for tape cassette player for $1265.
By 1984, Apple and IBM had come out with new models. Apple released the first generation Macintosh, which was the first computer to come with a graphical user interface(GUI) and a mouse. The GUI made the machine much more attractive to home computer users because it was easy to use. Sales of the Macintosh soared like nothing ever seen before. IBM was hot on Apple's tail and released the 286-AT, which with applications like Lotus 1-2-3, a spreadsheet, and Microsoft Word, quickly became the favourite of business concerns.
That brings us up to about ten years ago. Now people have their own personal graphics workstations and powerful home computers. The average computer a person might have in their home is more powerful by several orders of magnitude than a machine like ENIAC. The computer revolution has been the fastest growing technology in man's history.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แรกพบคอมพิวเตอร์เครื่อง ENIAC ยักษ์ โดยจอห์น W. Mauchly และ J. Presper Eckert ที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียได้ ENIAC (ตัวรวมตัวเลขไฟฟ้าและเครื่องคิดเลข) ใช้คำ 10 ทศนิยมแทนไบนารีคนเช่นก่อนหน้านี้อัตโนมัติเครื่องคิดเลข/คอมพิวเตอร์ ENIAC ยังเป็นเครื่องแรกที่ใช้หลอดสุญญากาศมากกว่า 2000 ใช้หลอดสุญญากาศ 18000 เกือบ เก็บหลอดสุญญากาศเหล่านั้นทั้งหมดและเครื่องจักรที่ต้องเก็บเย็นเอาขึ้นกว่า 167 ตารางเมตร (1800 ตารางฟุต) ของพื้นที่ กระนั้น จะมีการป้อนข้อมูลในบัตรเจาะรูและ และ arithmetically ได้ตัวคูณ 1, rooter สแควร์แบ่ง 1, adders 20 ใช้ทศนิยม "เคาน์เตอร์แหวน ซึ่งทำหน้าที่ เป็น adders และ เป็นการเข้าถึงด่วน (0.0002 วินาที) อ่านเขียนทะเบียนเก็บคำแนะนำปฏิบัติการเขียนโปรแกรมได้ถูกรวบรวมไว้ในหน่วยแยกของ ENIAC ซึ่งถูกต่อเข้าด้วยกันเพื่อเป็นเส้นทางผ่านเครื่องสำหรับขั้นตอนของการประมวลผล เชื่อมต่อเหล่านี้จะมีเรดวันสำหรับแต่ละปัญหา พร้อมตารางฟังก์ชันโครงและสวิตช์ได้ เทคนิคคำแนะนำ "สายของเป็นเจ้าของ" นี้ได้ไม่ สะดวก และเท่านั้นที่ มีสิทธิ์การใช้งานบางอย่างสามารถ ENIAC เป็นโปรแกรม ได้ อย่างไรก็ตาม มีประสิทธิภาพในการจัดการโปรแกรมเฉพาะที่มันได้รับการออกแบบ ENIAC เป็นยอมรับโดยทั่วไปจะ ประสบความสำเร็จเร็วสูงอิเล็กทรอนิกส์ดิจิตอลคอมพิวเตอร์เครื่องแรก (EDC) และบันเทิงทั้งใช้จาก 1946 1955 ข้อที่พัฒนาขึ้นในปี 1971 ไร กว่า patentability ของแนวคิดดิจิตอลพื้นฐานของ ENIAC ร้องเรียนการทำที่อื่นสหรัฐฯ physicist จอห์น V. คอมพิวเตอร์อตานาซอฟฟ์ มีแล้วใช้ความคิดเดียวกันในอุปกรณ์หลอดสุญญากาศง่ายกว่าที่เขาสร้างขึ้นในช่วงทศวรรษ 1930 ขณะที่รัฐไอโอวาวิทยาลัยรัฐ ใน 1973 ศาลพบสามารถบริษัทใช้สิทธิ์คอมพิวเตอร์อตานาซอฟฟ์และคอมพิวเตอร์อตานาซอฟฟ์ acclaim เรื่องสมควรรับปี 1960 เห็นคอมพิวเตอร์เมนเฟรมขนาดใหญ่เป็น มากขึ้นทั่วไป ในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และ มีกองทัพสหรัฐฯ และโครงการอวกาศ ไอบีเอ็มเป็น ผู้นำตลาดรัชทายาทในการขายเหล่านี้ใหญ่ แพง พลาดโอกาส และยากต่อใช้เครื่องจักรกระจายเป็นสโมสรสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่เกิดใน เริ่มงาน Steve และวอซเนียก Steve อย่างมีระดับ II แอปเปิ้ลครั้งแรกในภาคอีสานคอมพิวเตอร์ฝั่งตะวันตกครั้งแรกใน San Francisco II แอปเปิ้ล boasted มีพื้นฐานการเขียนโปรแกรมภาษา สีกราฟิก และจำอักขระ 4100 สำหรับเพียง $1298 สามารถจัดเก็บโปรแกรมและข้อมูลในการบันทึกเทปเสียงทุกวัน ก่อนสิ้นยุติธรรม วอซเนียกและงานมีความปลอดภัย 300 ใบสั่งสำหรับ II แอปเปิ้ล และจาก แอปเปิ้ลเพียงเอาออกนอกจากนี้ยัง นำมาใช้ใน 1977 เป็น TRS-80 นี้มีคอมพิวเตอร์บ้านที่ผลิต โดยชฟรอนท์วิทยุสซิกาแทนดี้ ในการลงสอง II รุ่น TRS 80 มาเป็นอักขระ 64000 แผ่นหน่วยความจำและดิสก์เพื่อเก็บโปรแกรมและข้อมูล ตอนนี้ เฉพาะแอปเปิ้ลและ TRS มีเครื่อง มีไดรฟ์ ด้วยการแนะนำของดิสก์ไดรฟ์ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลใช้งานเอาออกเป็นฟลอปปีดิสก์ สื่อประกาศสะดวกที่สุดสำหรับการกระจายซอฟต์แวร์IBM ซึ่งจนถึงขณะนี้มีการผลิต mainframes และ minicomputers ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ตัดสินใจว่า จะได้รับเป็นการกระทำ และเริ่มต้นทำงานในเอคอร์น ที่จะในภายหลังจะเรียกว่าพีซีของ IBM PC เป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ออกแบบสำหรับตลาดบ้านที่จะพักออกแบบโมดูให้ง่ายสามารถเพิ่มชิ้นกับสถาปัตยกรรม ส่วนใหญ่ส่วนประกอบ จู่ ๆ มาจากนอก IBM เนื่องจากอาคารส่วน IBM จะมีต้นทุนมากเกินไปสำหรับตลาดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้าน เมื่อมันถูกนำมาใช้ PC ที่มาพร้อมหน่วยความจำ 16000 อักขระ แป้นพิมพ์เป็นเครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้า IBM และการเชื่อมต่อสำหรับเครื่องเล่นเทปเทปสำหรับ $1265โดย 1984, Apple และ IBM ได้ออกมาพร้อมกับรุ่นใหม่ แอปเปิ้ลเปิดตัวแมค ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรกเพื่อ interface(GUI) ผู้ใช้แบบกราฟิกและเมาส์ รุ่นแรก GUI ได้เครื่องน่าสนใจมากขึ้นกับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ที่บ้านก็ใช้งานง่าย ขายของ Macintosh เพิ่มสูงขึ้นเหมือนไม่มีอะไรที่เคยเห็นมาก่อน IBM เป็นร้อนในหางของแอปเปิ้ล และนำออกใช้ 286-AT ซึ่ง มีโปรแกรมประยุกต์เช่น Lotus 1-2-3 กระดาษ และ Microsoft Word อย่างรวดเร็วกลายเป็นที่ชื่นชอบของธุรกิจเกี่ยวข้องที่นำเราถึงประมาณสิบปีที่ผ่านมา ตอนนี้ คนมีสเตกราฟิกส่วนบุคคลและคอมพิวเตอร์ภายในบ้านที่มีประสิทธิภาพของตนเอง คอมพิวเตอร์เฉลี่ยอาจมีคนในบ้านจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยขนาดของใบสั่งหลายกว่าเครื่องเช่น ENIAC การปฏิวัติคอมพิวเตอร์ได้รับเทคโนโลยีเติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คอมพิวเตอร์ที่สำคัญเป็นครั้งแรกที่เครื่อง ENIAC ยักษ์โดยจอห์นดับบลิว Mauchly และเจ Presper Eckert ที่มหาวิทยาลัยเพนซิล ENIAC (ไฟฟ้าเชิงตัวเลข Integrator และเครื่องคิดเลข) ที่ใช้คำ 10 ทศนิยมแทนคนไบนารีเช่นเครื่องคิดเลขอัตโนมัติก่อนหน้า / คอมพิวเตอร์ ENIAC ยังเป็นเครื่องแรกที่ใช้มากกว่า 2,000 หลอดสูญญากาศใช้เกือบ 18,000 หลอดสูญญากาศ การจัดเก็บข้อมูลของทุกคนหลอดสุญญากาศและเครื่องจักรที่จำเป็นเพื่อให้เย็นหยิบขึ้นมามากกว่า 167 ตารางเมตร (1,800 ตารางฟุต) ของพื้นที่ กระนั้นก็มีการป้อนข้อมูลเจาะบัตรและส่งออกและมี arithmetically 1 คูณ 1 แบ่งตาราง Rooter 20 และงูจ้างทศนิยม "เคาน์เตอร์แหวน" ซึ่งทำหน้าที่เป็นงูและยังเป็นที่รวดเร็วในการเข้าถึง (0.0002 วินาที) อ่านเขียนลงทะเบียน การจัดเก็บข้อมูล.
คำแนะนำปฏิบัติการการเขียนโปรแกรมที่ถูกเป็นตัวเป็นตนในหน่วยเฉพาะกิจการของ ENIAC ซึ่งถูกเสียบกันในรูปแบบเส้นทางผ่านเครื่องสำหรับการไหลของการคำนวณ เชื่อมต่อเหล่านี้จะต้องมีการทำซ้ำสำหรับแต่ละปัญหาที่แตกต่างกันพร้อมกับฟังก์ชั่นการตั้งตารางและสวิทช์ นี้ "สายของคุณเอง" เทคนิคการสอนที่ไม่สะดวกและมีเพียงบางส่วนที่มีใบอนุญาต ENIAC อาจจะพิจารณาโปรแกรม; มันเป็นอย่างไรที่มีประสิทธิภาพในการจัดการโปรแกรมเฉพาะที่มันได้รับการออกแบบ ENIAC เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปจะเป็นคนแรกที่ประสบความสำเร็จความเร็วสูงคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ดิจิตอล (EDC) และใช้ประสิทธิภาพจาก 1946 ไป 1955 ความขัดแย้งที่ได้รับการพัฒนาในปี 1971 แต่ในช่วงจดทะเบียนสิทธิบัตรของ ENIAC ของแนวคิดดิจิตอลพื้นฐานที่เรียกร้องการทำที่อื่น ฟิสิกส์สหรัฐจอห์นโวลต์อาตาได้ใช้อยู่แล้วความคิดเดียวกันในอุปกรณ์หลอดสูญญากาศที่เรียบง่ายที่เขาสร้างขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1930 ขณะที่ในรัฐไอโอวาวิทยาลัย ในปี 1973 ศาลพบว่าในความโปรดปรานของ บริษัท โดยใช้การเรียกร้องอาตาและอาตาได้รับการสรรเสริญที่เขาสมควรได้รับอย่างถูกต้อง.
1960 เห็นคอมพิวเตอร์เมนเฟรมขนาดใหญ่กลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และกับทหารสหรัฐและโครงการอวกาศ IBM กลายเป็นผู้นำตลาดได้สอบถามในการขายขนาดใหญ่เหล่านี้มีราคาแพงผิดพลาดได้ง่ายและยากมากที่จะใช้เครื่อง.
ระเบิดจริงของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่เกิดขึ้นในต้นปี 1970 เริ่มต้นด้วยสตีฟจ็อบส์และสตีฟ Wozniak จัดแสดงครั้งแรกที่แอปเปิ้ลที่สองที่ ฝั่งตะวันตกเป็นครั้งแรกคอมพิวเตอร์ Faire ในซานฟรานซิ แอปเปิ้ลที่สองโตในตัวภาษาการเขียนโปรแกรมขั้นพื้นฐานกราฟิกสีและหน่วยความจำตัวอักษร 4100 ในราคาเพียง $ 1,298 โปรแกรมและข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในบันทึกเสียงเทปในชีวิตประจำวัน ก่อนที่จะสิ้นสุดของงานที่ Wozniak และงานรักษาความปลอดภัยได้ 300 คำสั่งซื้อที่สองแอปเปิ้ลและแอปเปิ้ลจากที่นั่นเพียงแค่เอาออก.
นอกจากนี้ยังมีการแนะนำในปี 1977 เป็น TRS-80 นี่คือคอมพิวเตอร์ที่บ้านผลิตโดย Tandy Radio Shack ในชาติที่สองของ TRS-80 รุ่นที่สองมาพร้อมกับหน่วยความจำตัวอักษรที่ 64,000 และดิสก์ไดรฟ์ในการจัดเก็บโปรแกรมและข้อมูลเกี่ยวกับ ในช่วงเวลานี้จะมีเพียงแอปเปิ้ลและ TRS มีเครื่องที่มีดิสก์ไดรฟ์ ด้วยการแนะนำของดิสก์ไดรฟ์ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเอาออกเป็นฟล็อปปี้ดิสก์เป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ที่สะดวกที่สุดสำหรับการกระจายของซอฟแวร์.
ไอบีเอ็มซึ่งถึงเวลานี้ได้รับการผลิตเมนเฟรมและมินิคอมพิวเตอร์สำหรับสื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่ตัดสินใจ ว่ามันจะได้รับในการกระทำและเริ่มทำงานในโอ๊กซึ่งต่อมาจะเรียกว่าไอบีเอ็มพีซี พีซีเป็นเครื่องแรกที่ออกแบบมาสำหรับตลาดบ้านซึ่งจะมีการออกแบบโมดูลเพื่อให้ชิ้นอาจจะเพิ่มได้อย่างง่ายดายเพื่อสถาปัตยกรรม ส่วนขององค์ประกอบที่น่าแปลกใจที่มาจากด้านนอกของไอบีเอ็มตั้งแต่การสร้างมันด้วยชิ้นส่วนของไอบีเอ็มจะมีค่าใช้จ่ายมากเกินไปสำหรับตลาดคอมพิวเตอร์ที่บ้าน เมื่อมันถูกนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาพร้อมกับหน่วยความจำ 16,000 ตัวอักษรบนแป้นพิมพ์จากไอบีเอ็มเครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้าและการเชื่อมต่อสำหรับเครื่องเล่นเทปเทปสำหรับ $ 1,265.
1984 โดยแอปเปิ้ลและ IBM ได้ออกมากับรุ่นใหม่ แอปเปิ้ลเปิดตัว Macintosh รุ่นแรกซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่มาพร้อมกับอินเตอร์เฟซผู้ใช้แบบกราฟิก (GUI) และเมาส์ GUI ที่ทำให้เครื่องน่าสนใจมากขึ้นกับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ที่บ้านเพราะมันเป็นเรื่องง่ายที่จะใช้ ขายแมคอินทอชเพิ่มสูงขึ้นเหมือนไม่มีอะไรเห็นมาก่อน ไอบีเอ็มร้อนบนหางและแอปเปิ้ลเปิดตัว 286-AT ซึ่งมีการใช้งานเช่นโลตัส 1-2-3 สเปรดชีตและ Microsoft Word, อย่างรวดเร็วกลายเป็นที่ชื่นชอบของความกังวลทางธุรกิจ.
ที่ทำให้เราได้ถึงประมาณสิบปีที่ผ่านมา ตอนนี้คนมีเวิร์คสเตชั่กราฟิกของพวกเขาเองและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านที่มีประสิทธิภาพ คอมพิวเตอร์เฉลี่ยคนอาจมีในบ้านของพวกเขามีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยคำสั่งหลายขนาดกว่าเช่นเครื่อง ENIAC ปฏิวัติคอมพิวเตอร์ที่ได้รับเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คอมพิวเตอร์มากแรกเป็นยักษ์คอสแซคเครื่องจักรโดยจอห์น ดับบลิว . มอชลีเจและ presper Eckert ที่มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย อีนิแอก ( ไฟฟ้า ) และคำนวณเป็นตัวเลข 10 หลัก ) ใช้คำแทนตัวเลขฐานสองทศนิยม เช่นเครื่องคิดเลข / อัตโนมัติคอมพิวเตอร์ก่อน อีนิแอกเป็นเครื่องแรกที่จะใช้มากกว่า 2000 หลอดสูญญากาศที่ใช้เกือบ 18 , 000 หลอดสุญญากาศกระเป๋าของทุกคนหลอดสูญญากาศและเครื่องจักรที่ต้องเก็บความเย็นไปกว่า 167 ตารางเมตร ( 1 , 800 ฟุต ) ของพื้นที่ชั้น อย่างไรก็ตาม มันก็ต่อยใส่การ์ด และ ผลผลิต และ arithmetically ได้ 1 คูณ , Rooter 1 แบ่งตาราง , และ 20 เพิ่มเติมพนักงานเคาน์เตอร์ทศนิยม " แหวน " ซึ่งทำหน้าที่เป็นเพิ่มเติม และยังเป็น การเข้าถึงที่รวดเร็ว ( 0.0002 วินาที ) ลงทะเบียนอ่าน - เขียนข้อมูลที่เก็บ
ปฏิบัติการแนะนําเขียนโปรแกรมเป็น embodied ในการแยกกันของอีนิแอกซึ่งถูกเสียบเข้าด้วยกันเพื่อสร้างเส้นทางผ่านเครื่องสำหรับการไหลของการคำนวณ . การเชื่อมต่อเหล่านี้จะแตกต่างกันสำหรับแต่ละแก้ไขปัญหาร่วมกับ presetting ตารางการทำงานและสวิทช์ สายนี้ " เทคนิคการเรียนการสอน " ของคุณเองก็ไม่สะดวกและมีใบอนุญาตสามารถคอสแซคถือเป็นโปรแกรม ; มันเป็น , อย่างไรก็ตาม , ที่มีประสิทธิภาพในการจัดการโปรแกรมที่เฉพาะเจาะจงซึ่งมันได้รับการออกแบบ อีนิแอกเป็นโดยทั่วไปว่า เป็นครั้งแรกที่ประสบความสำเร็จสูง อิเล็กทรอนิกส์ดิจิตอลคอมพิวเตอร์ ( EDC ) และกลุ่มที่ใช้จาก 2489 ถึง พ.ศ. 2498 การโต้เถียงขึ้นในพ.ศ. 2514 , อย่างไรก็ตามเหนือสิทธิบัตรของอีนิแอกเป็นดิจิตอลพื้นฐานแนวคิด การเรียกร้องให้อีก atanasoff จอห์นโวลต์สหรัฐอเมริกา , นักฟิสิกส์ได้ใช้ความคิดเดียวกันในง่ายกว่าหลอดสุญญากาศอุปกรณ์ที่เขาสร้างขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1930 ในขณะที่ในวิทยาลัยรัฐไอโอวา ในปี 1973 , ศาลพบว่าในความโปรดปรานของ บริษัท ที่ใช้ atanasoff เรียกร้องและได้รับการโห่ร้อง atanasoff
เขาสมควรแล้ว1960 เห็นคอมพิวเตอร์เมนเฟรมขนาดใหญ่กลายเป็นมากขึ้นที่พบบ่อยในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และ มีโปรแกรมการทหารและอวกาศ ไอบีเอ็มกลายเป็นผู้นำตลาดในการขายเหล่านี้ไม่ได้สอบถามมาก แพง และแนวโน้มข้อผิดพลาด และยากมากที่จะใช้เครื่อง .
ระเบิดจริงของคอมพิวเตอร์ที่เกิดขึ้นในทศวรรษแรกเริ่มต้นกับสตีฟจ็อบส์และ Steve Wozniak ซึ่งแรก Apple II ที่แรกฝั่งตะวันตกคอมพิวเตอร์แฟร์ในซานฟรานซิสโก แอปเปิ้ลสองตัวคือภาษาพื้นฐานการเขียนโปรแกรมกราฟิกสีและ 4100 ตัวละครหน่วยความจำสำหรับเพียง $ 776 . โปรแกรมและข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในเทปบันทึกเสียง ทุกวัน ก่อนจบงานWozniak และงานได้มี 300 สั่ง Apple II และจากแอปเปิ้ลที่เพิ่งออกไป .
ยังแนะนำใน 1977 เป็นทีอาร์เอส 80 เขียน นี้คือบ้านคอมพิวเตอร์ที่ผลิตโดย Tandy Radio shack ในชาติที่ 2 ของ ทีอาร์เอส 80 เขียนแบบ 2 มาสมบูรณ์ด้วย 64 ตัวอักษรหน่วยความจำและดิสก์ไดรฟ์เพื่อเก็บโปรแกรมและข้อมูลบน ในเวลานี้ , แอปเปิ้ลและ TRS มีเครื่องกับดิสก์ไดรฟ์ .ด้วยการเปิดตัวของดิสก์ไดรฟ์คอมพิวเตอร์ส่วนตัวออกไปตามที่ฟล็อปปี้ดิสก์เป็นสื่อการพิมพ์ที่สะดวกที่สุดสำหรับการกระจายซอฟต์แวร์ .
IBM ซึ่งถึงเวลานี้ได้ถูกผลิตและระบบเมนเฟรมมินิคอมพิวเตอร์ขนาดกลางธุรกิจขนาดใหญ่ ตัดสินใจว่าต้องไปทำและเริ่มทำต้นโอ๊กซึ่งต่อมาถูกเรียกว่า IBM PCพีซีเป็นครั้งแรกคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาสำหรับตลาดบ้านซึ่งคุณลักษณะการออกแบบ modular เพื่อให้ชิ้นอาจจะเพิ่มในสถาปัตยกรรม ส่วนใหญ่ขององค์ประกอบ จู่ ๆมาจากด้านนอกของไอบีเอ็ม เพราะตึกมันมีชิ้นส่วนที่ IBM จะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากเกินไปสำหรับตลาดคอมพิวเตอร์ที่บ้าน เมื่อมันถูกเปิดตัว , PC มาพร้อมกับหน่วยความจำ 16 , 000 ตัวอักษรแป้นพิมพ์จากไอบีเอ็มเครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้า และการเชื่อมต่อกับเครื่องเล่นเทปสำหรับ $ 1 , 265 .
โดย 1984 Apple และ IBM ได้ออกมากับรุ่นใหม่ แอปเปิ้ลเปิดตัว Macintosh รุ่นแรก ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่มาพร้อมกับอินเตอร์เฟซผู้ใช้แบบกราฟิก ( GUI ) และเมาส์ GUI ทำให้เครื่องน่าสนใจมากสำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ที่บ้าน เพราะมันเป็นเรื่องง่ายที่จะใช้ขาย Macintosh เพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน ไอบีเอ็มก็ร้อน Apple และหางออก 286-at ซึ่งโปรแกรมเช่น Lotus 1-2-3 , สเปรดชีต , และ Microsoft Word ได้อย่างรวดเร็วกลายเป็นที่ชื่นชอบของความกังวลทางธุรกิจ .
ที่พาเราขึ้นไป เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ตอนนี้ทุกคนมีคอมพิวเตอร์ที่บ้านและประสิทธิภาพกราฟิกที่มีประสิทธิภาพของแต่ละบุคคลโดยคอมพิวเตอร์อาจมีบุคคลในบ้านของพวกเขามีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยคําสั่งหลายขนาดกว่าเครื่องชอบนิเ . การปฏิวัติคอมพิวเตอร์เป็นเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์