Newton's law of universal gravitati

Newton's law of universal gravitation states that any two bodies in the universe attract each other with a force that is directly proportional to the product of their masses and inversely proportional to the square of the distance between them.[note 1] This is a general physical law derived from empirical observations by what Isaac Newton called induction.[2] It is a part of classical mechanics and was formulated in Newton's work Philosophiæ Naturalis Principia Mathematica ("the Principia"), first published on 5 July 1687. (When Newton's book was presented in 1686 to the Royal Society, Robert Hooke made a claim that Newton had obtained the inverse square law from him; see the History section below.)

In modern language, the law states: Every point mass attracts every single other point mass by a force pointing along the line intersecting both points. The force is proportional to the product of the two masses and inversely proportional to the square of the distance between them.[3] The first test of Newton's theory of gravitation between masses in the laboratory was the Cavendish experiment conducted by the British scientist Henry Cavendish in 1798.[4] It took place 111 years after the publication of Newton's Principia and 71 years after his death.

Newton's law of gravitation resembles Coulomb's law of electrical forces, which is used to calculate the magnitude of electrical force arising between two charged bodies. Both are inverse-square laws, where force is inversely proportional to the square of the distance between the bodies. Coulomb's law has the product of two charges in place of the product of the masses, and the electrostatic constant in place of the gravitational constant.

Newton's law has since been superseded by Einstein's theory of general relativity, but it continues to be used as an excellent approximation of the effects of gravity in most applications. Relativity is required only when there is a need for extreme precision, or when dealing with very strong gravitational fields, such as those found near extremely massive and dense objects, or at very close distances (such as Mercury's orbit around the sun).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กฎหมายของนิวตันของแรงโน้มถ่วงสากลระบุว่า ศพใด ๆ สองในจักรวาลดึงดูดกัน ด้วยแรงที่มีสัดส่วนโดยตรงกับผลคูณของมวลชนของพวกเขา และ inversely กับกำลังสองของระยะห่างระหว่างพวกเขา [หมายเหตุ 1] นี่คือกฎหมายทางกายภาพทั่วไปได้มาจากผลสังเกตการณ์ โดยไอแซกนิวตันสิ่งที่เรียกว่าการเหนี่ยวนำ [2] มันเป็นส่วนหนึ่งของกลศาสตร์ดั้งเดิม และมีสูตรในการทำงานของนิวตัน Philosophiæ Naturalis Principia Mathematica ("Principia"), เผยแพร่ครั้งแรก ใน 5 1687 กรกฎาคม (เมื่อจองของนิวตันถูกเสนอในค.ศ. 1686 ให้ราชสมาคมแห่งลอนดอน โรเบิร์ต Hooke ทำข้อเรียกร้องที่นิวตันได้รับผกผันตร.กฎหมายจากเขา ดูส่วนประวัติด้านล่าง)ภาษาสมัยใหม่ กฎหมายรัฐ: ทุกจุดทุกเดี่ยวอื่น ๆ ดึงดูดมวลมวลแรงที่ชี้ไปตามแนว intersecting จุดทั้งสองจุด บังคับให้เป็นสัดส่วนกับผลคูณของมวลชนสอง และ inversely กับกำลังสองของระยะห่างระหว่างพวกเขา [3] การทดสอบแรกของทฤษฎีของนิวตันของแรงโน้มถ่วงระหว่างมวลชนในห้องปฏิบัติการทดลองของคาเวนดิชที่ดำเนินการ โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษเฮนรีคาเวนดิชใน 1798 ได้ [4] จะเอาเพลส 111 ปีหลังจากประกาศของ Principia ของนิวตันและ 71 ปีหลังจากการตายของเขากฎหมายของนิวตันของแรงโน้มถ่วงคล้ายคลึงกับกฎหมายของ Coulomb ของกองกำลังไฟฟ้า ซึ่งถูกใช้เพื่อคำนวณขนาดของแรงไฟฟ้าที่เกิดขึ้นระหว่างสองหน่วยงานที่คิดค่าธรรมเนียม ทั้งมีกฎหมายผกผันสแควร์ inversely สัดส่วนกับกำลังสองของระยะห่างระหว่างร่างแรง กฎหมายของ Coulomb ผลิตภัณฑ์ค่าธรรมเนียมสองแทนผลคูณของมวลชน และคงสถิตแทนค่าคงความโน้มถ่วงได้กฎหมายของนิวตันมีตั้งแต่ถูกทดแทน ด้วยของไอน์สไตน์ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป แต่ยังสามารถใช้เป็นประมาณความยอดเยี่ยมของผลของแรงโน้มถ่วงในการใช้งานมากที่สุด ทฤษฎีสัมพัทธภาพจำเป็นเฉพาะ เมื่อมีความต้องการความแม่นยำมาก หรือ เมื่อเผชิญกับแรงมากความโน้มถ่วง เช่นฟิลด์ที่พบ ใกล้วัตถุขนาดใหญ่ และหนาแน่นมาก หรือระยะทางใกล้มาก (เช่นของดาวพุธโคจรรอบดวงอาทิตย์)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กฎความโน้มถ่วงสากลระบุว่าทั้งสององค์กรในจักรวาลดึงดูดกันด้วยแรงที่เป็นสัดส่วนโดยตรงกับผลิตภัณฑ์ของมวลชนของพวกเขาและแปรผกผันกับตารางของระยะห่างระหว่างพวกเขา. [note 1] นี่คือทั่วไปทางกายภาพ กฎหมายที่ได้มาจากการสังเกตเชิงประจักษ์โดยสิ่งที่ไอแซกนิวตันเรียกว่าการเหนี่ยวนำ. [2] มันเป็นส่วนหนึ่งของกลศาสตร์คลาสสิกและเป็นสูตรในการทำงานของนิวตันPhilosophiæ Naturalis Principia Mathematica ("ริน") ตีพิมพ์ครั้งแรกวันที่ 5 กรกฎาคม 1687 (ตอนที่หนังสือของนิวตัน . ที่ถูกนำเสนอใน 1686 ที่จะ Royal Society, โรเบิร์ตฮุคอ้างว่านิวตันได้รับกฎหมายตารางผกผันจากเขาดูประวัติส่วนด้านล่าง) ในภาษาสมัยใหม่กฎหมายฯ : มวลทุกจุดดึงดูดมวลทุกจุดอื่น ๆ เดียวโดย ชี้แรงตามแนวตัดทั้งสองจุด มีผลบังคับใช้เป็นสัดส่วนกับผลิตภัณฑ์ของทั้งสองฝูงและแปรผกผันกับตารางของระยะห่างระหว่างพวกเขา. [3] การทดสอบครั้งแรกของทฤษฎีของนิวตันแรงโน้มถ่วงระหว่างมวลชนในห้องปฏิบัติการได้ทดลองคาเวนดิชที่จัดทำโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษเฮนรี่คาเวนดิช ใน 1798 [4] มันอยู่ที่ 111 ปีหลังจากที่ตีพิมพ์ของนิวตัน Principia และ 71 ปีหลังจากการตายของเขา. กฎหมายของนิวตันแรงโน้มถ่วงมีลักษณะคล้ายกับกฎหมายของประจุไฟฟ้าของกองกำลังไฟฟ้าที่ใช้ในการคำนวณขนาดของกำลังไฟฟ้าที่เกิดขึ้นระหว่างสองหน่วยงานเรียกเก็บ . ทั้งสองมีกฎหมายผกผันสแควร์ที่มีผลบังคับใช้เป็นสัดส่วนผกผันกับตารางของระยะห่างระหว่างร่างกาย กฎหมาย Coulomb มีผลิตภัณฑ์สองค่าใช้จ่ายในสถานที่ของสินค้าของมวลชนและคงไฟฟ้าสถิตในสถานที่ของค่าคงที่แรงโน้มถ่วง. กฎหมายของนิวตันได้รับการแทนที่โดยทฤษฎีของ Einstein สัมพัทธภาพทั่วไป แต่ก็ยังคงที่จะใช้เป็นที่ยอดเยี่ยม ประมาณของผลกระทบของแรงโน้มถ่วงในการใช้งานมากที่สุด สัมพัทธภาพจำเป็นต้องใช้เฉพาะเมื่อมีความจำเป็นสำหรับความแม่นยำมากหรือเมื่อต้องรับมือกับสนามแรงโน้มถ่วงที่แข็งแกร่งมากเช่นที่พบอยู่ใกล้วัตถุที่มีขนาดใหญ่มากและมีความหนาแน่นหรือในระยะใกล้มาก (เช่นวงโคจรของดาวพุธรอบดวงอาทิตย์)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กฎแห่งความโน้มถ่วงสากลของนิวตันรัฐที่ร่างสองร่างในจักรวาลดึงดูดกันด้วยพลังที่เป็นสัดส่วนโดยตรงกับผลิตภัณฑ์ของมวลและแปรผกผันกับกำลังสองของระยะห่างระหว่างพวกเขา . [ 1 ] นี้เป็นทั่วไปกฎหมายที่ได้มาจากการสังเกตเชิงประจักษ์ โดยทางกายภาพแล้ว ไอแซก นิวตันเรียก induction[ 2 ] เป็นส่วนหนึ่งของกลศาสตร์คลาสสิกและมียุทธศาสตร์ ในนิวตันงานปรัชญาæ naturalis principia Mathematica ( " principia " ) ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ 5 กรกฎาคม 1 . ( เมื่อหนังสือของนิวตันได้เสนอใน 1686 ในสังคมพระโรเบิร์ต ฮุคได้เรียกร้องว่า นิวตันได้รับกฎกำลังสองผกผันจากเขา เห็นหมวดประวัติศาสตร์ ด้านล่าง )

ในภาษาสมัยใหม่ กฎหมายสหรัฐอเมริกาทุกจุดทุกจุดอื่น ๆมวลมวลดึงดูดด้วยแรงที่ชี้ตามเส้นตัดกันทั้งสองจุด แรงเป็นสัดส่วนกับผลิตภัณฑ์ของทั้งสองมวลและแปรผกผันกับกำลังสองของระยะห่างระหว่างพวกเขา[ 3 ] ทดสอบแรกของทฤษฎีของนิวตันของแรงโน้มถ่วงระหว่างมวลในห้องปฏิบัติการเป็นคาเวนดิชทดลองโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษเฮนรีคาเวนดิชใน 1798 . [ 4 ] มันเอาสถานที่ 111 ปีหลังจากการประกาศของ principia ของนิวตันและ 71 ปี กฎหมายของแรงโน้มถ่วงของนิวตัน

เหมือนกฏหมายของ ไฟฟ้ากำลังซึ่งจะใช้ในการคำนวณขนาดของแรงที่เกิดขึ้นระหว่างสองประจุไฟฟ้าอีกด้วย ทั้งสองเป็นกฎกำลังสองผกผันที่บังคับเป็นปฏิภาคผกผันกับกำลังสองของระยะทางระหว่างร่างกาย กฎของคูลอมบ์ได้ผลิตภัณฑ์สองค่าใช้จ่ายในสถานที่ของผลิตภัณฑ์ของมวลชน และสถิตคงที่ในสถานที่ของแรงดึงดูด .

กฎหมายของนิวตันได้เนื่องจากถูกแทนที่โดยไอน์สไตน์ทฤษฎีสัมพันธภาพทั่วไป แต่มันยังคงถูกใช้เป็นค่าประมาณที่ยอดเยี่ยมของผลของแรงโน้มถ่วงในการใช้งานมากที่สุด สัมพัทธภาพต้องใช้เฉพาะเมื่อมีความต้องการสูงมาก หรือเมื่อเผชิญกับแรงมากสนามแรงโน้มถ่วง เช่นที่พบใกล้วัตถุมากใหญ่และหนาทึบหรือที่ใกล้ๆระยะทาง ( เช่น ดาวพุธจะโคจรรอบดวงอาทิตย์ ) .