AbstractBACKGROUND:With increasing

Abstract
BACKGROUND:
With increasing rates of chronic disease associated with lifestyle behavioural risk factors, there is urgent need for intervention strategies in primary health care. Currently there is a gap in the knowledge of factors that influence the delivery of preventive strategies by General Practitioners (GPs) around interventions for smoking, nutrition, alcohol consumption and physical activity (SNAP). This qualitative study explores the delivery of lifestyle behavioural risk factor screening and management by GPs within a 45-49 year old health check consultation. The aims of this research are to identify the influences affecting GPs' choosing to screen and choosing to manage SNAP lifestyle risk factors, as well as identify influences on screening and management when multiple SNAP factors exist.
METHODS:
A total of 29 audio-taped interviews were conducted with 15 GPs and one practice nurse over two stages. Transcripts from the interviews were thematically analysed, and a model of influencing factors on preventive care behaviour was developed using the Theory of Planned Behaviour as a structural framework.
RESULTS:
GPs felt that assessing smoking status was straightforward, however some found assessing alcohol intake only possible during a formal health check. Diet and physical activity were often inferred from appearance, only being assessed if the patient was overweight. The frequency and thoroughness of assessment were influenced by the GPs' personal interests and perceived congruence with their role, the level of risk to the patient, the capacity of the practice and availability of time. All GPs considered advising and educating patients part of their professional responsibility. However their attempts to motivate patients were influenced by perceptions of their own effectiveness, with smoking causing the most frustration. Active follow-up and referral of patients appeared to depend on the GPs' orientation to preventive care, the patient's motivation, and cost and accessibility of services to patients.
CONCLUSION:
General practitioner attitudes, normative influences from both patients and the profession, and perceived external control factors (time, cost, availability and practice capacity) all influence management of behavioural risk factors. Provider education, community awareness raising, support and capacity building may improve the uptake of lifestyle modification interventions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อพื้นหลัง:มีการเพิ่มขึ้นของโรคเรื้อรังที่สัมพันธ์กับปัจจัยเสี่ยงต่อพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เร่งด่วนจำเป็นกลยุทธ์แทรกแซงในสาธารณสุขมูลฐาน ขณะนี้มีช่องว่างในความรู้ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการจัดส่งของกลยุทธ์การป้องกันโดยทั่วไปผู้ (GPs) สถานรักษาบุหรี่ โภชนาการ แอลกอฮอล์ และกิจกรรมทางกายภาพ (SNAP) การศึกษาเชิงคุณภาพนี้สำรวจส่งคัดกรองปัจจัยเสี่ยงพฤติกรรมวิถีชีวิตและการจัดการ โดยจีพีเอสภายในให้คำปรึกษาตรวจสุขภาพ 45-49 ปี จุดมุ่งหมายของการวิจัยนี้จะระบุอิทธิพลที่มีผลต่อการเลือกของ GPs หน้าจอ และต้องจัดการปัจจัยเสี่ยงชีวิต SNAP ตลอดจนระบุอิทธิพลในการคัดกรองและการจัดการเมื่อมีอยู่หลายปัจจัย SNAPวิธีการ:ได้ดำเนินการจำนวน 29 ฝาเสียงสัมภาษณ์จีพี 15 และปฏิบัติหนึ่งพยาบาลระยะที่ 2 ใบแสดงผลจากการสัมภาษณ์ได้ analysed thematically และรูปแบบของการมีอิทธิพลต่อปัจจัยในการดูแลป้องกันพฤติกรรมถูกพัฒนาใช้ในทฤษฎีของการวางแผนพฤติกรรมเป็นกรอบโครงสร้างผลลัพธ์:จีพีเอสรู้สึกว่า ประเมินสถานะการสูบบุหรี่ตรงไปตรงมา แต่บางพบประเมินเท่าระหว่างการตรวจสุขภาพทางการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารและกิจกรรมทางกายภาพถูกมักจะสรุปจากลักษณะ เฉพาะ การประเมินว่าผู้ป่วยมีภาวะ ความถี่และ thoroughness ของการประเมินได้ผลมาจากผลประโยชน์ส่วนตัวของจีพีเอส และถือว่าลงตัวกับบทบาทของพวกเขา ระดับของความเสี่ยงผู้ป่วย กำลังการผลิตของการปฏิบัติและความพร้อมของเวลา จีพีเอสทั้งหมดถือว่าแนะนำให้ และให้ผู้ป่วยเป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบระดับมืออาชีพ อย่างไรก็ตาม ความพยายามที่จะกระตุ้นให้ผู้ป่วยได้รับอิทธิพลจากแนวของประสิทธิผลของตนเอง กับการสูบบุหรี่ทำให้เกิดเสียงส่วนใหญ่ ติดตามงานและอ้างอิงของผู้ป่วยที่ปรากฏขึ้นอยู่กับการวางแนวของจีพีเอสป้องกันดูแล ให้ผู้ป่วยแรงจูง ใจ ต้นทุน และการเข้าถึงบริการเพื่อผู้ป่วยสรุป:ผู้ประกอบการทั่วไปทัศนคติ normative มีผลต่อผู้ป่วยและการอาชีพ และการรับรู้ปัจจัยควบคุมภายนอก (เวลา ต้นทุน ความพร้อมใช้งาน และการฝึกกำลังการผลิต) ทั้งหมดอิทธิพลจัดการปัจจัยเสี่ยงต่อพฤติกรรม ผู้ให้บริการการศึกษา ชุมชนสร้างความตื่นตัว สนับสนุน และสร้างอาจปรับปรุงการดูดซับของการแทรกแซงปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
ภูมิหลัง:
ที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นของโรคเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยเสี่ยงพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่มีความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับกลยุทธ์การแทรกแซงในการดูแลสุขภาพเบื้องต้น ขณะนี้มีช่องว่างในความรู้เกี่ยวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการจัดส่งของกลยุทธ์การป้องกันโดยการปฏิบัติงานทั่วไป (จีพีเอส) รอบการแทรกแซงสำหรับการสูบบุหรี่, โภชนาการ, การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการออกกำลังกาย (SNAP) การศึกษานี้เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพการส่งมอบของการดำเนินชีวิตการตรวจคัดกรองปัจจัยเสี่ยงพฤติกรรมและการจัดการโดยจีพีเอสที่อยู่ในการให้คำปรึกษาตรวจสุขภาพปี 45-49 จุดมุ่งหมายของการวิจัยครั้งนี้มีการระบุอิทธิพลที่มีผลต่อจีพีเอส 'หน้าจอเลือกที่จะเลือกในการจัดการปัจจัยเสี่ยงการดำเนินชีวิต SNAP, รวมทั้งระบุมีอิทธิพลในการตรวจคัดกรองและการจัดการเมื่อปัจจัย SNAP มีอยู่หลาย.
นักวิจัย
ทั้งหมด 29 เสียงสัมภาษณ์บันทึกเทป ได้ดำเนินการกับ 15 จีพีเอสและพยาบาลที่ปฏิบัติหนึ่งในช่วงสองขั้นตอน ใบรับรองผลการเรียนจากการสัมภาษณ์มาวิเคราะห์หัวเรื่องและรูปแบบของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมในการดูแลป้องกันได้รับการพัฒนาโดยใช้ทฤษฎีพฤติกรรมตามแผนเป็นกรอบโครงสร้าง.
ผลการศึกษา:
จีพีเอสรู้สึกว่าการประเมินสถานะการสูบบุหรี่ตรงไปตรงมา แต่บางคนพบว่าการประเมินการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นไปได้เท่านั้น ในระหว่างการตรวจสุขภาพอย่างเป็นทางการ การรับประทานอาหารและการออกกำลังกายที่ถูกอ้างถึงมักจะมาจากการปรากฏตัวเพียงถูกประเมินว่าผู้ป่วยเป็นคนอ้วน ความถี่และทั่วถึงของการประเมินได้รับอิทธิพลจากจีพีเอส 'ผลประโยชน์ส่วนบุคคลและความสอดคล้องกันกับการรับรู้บทบาทของพวกเขาในระดับของความเสี่ยงให้กับผู้ป่วยที่มีความจุของการปฏิบัติและความพร้อมของเวลา จีพีเอสทั้งหมดถือว่าการให้คำปรึกษาและให้ความรู้ผู้ป่วยส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบต่ออาชีพของพวกเขา อย่างไรก็ตามความพยายามที่จะกระตุ้นให้ผู้ป่วยที่ได้รับอิทธิพลจากการรับรู้ของความมีประสิทธิผลของตัวเองกับการสูบบุหรี่ก่อให้เกิดความยุ่งยากมากที่สุด ใช้งานติดตามและการอ้างอิงของผู้ป่วยที่ปรากฏขึ้นอยู่กับการวางแนวจีพีเอส 'เพื่อการดูแลป้องกันแรงจูงใจของผู้ป่วยและค่าใช้จ่ายและการเข้าถึงการให้บริการแก่ผู้ป่วย.
สรุป:
ทัศนคติของผู้ประกอบการทั่วไปที่มีอิทธิพลต่อกฎเกณฑ์จากทั้งผู้ป่วยและอาชีพและการรับรู้ ปัจจัยที่ควบคุมภายนอก (เวลาค่าใช้จ่ายความพร้อมและความสามารถในการปฏิบัติ) การจัดการอิทธิพลของปัจจัยเสี่ยงพฤติกรรม การศึกษาผู้ให้บริการรับรู้ของชุมชนเพิ่มการสนับสนุนและการสร้างขีดความสามารถอาจเพิ่มการดูดซึมของการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตการแทรกแซง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พื้นหลังนามธรรม
:
ด้วยอัตราที่เพิ่มขึ้นของโรคเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต พฤติกรรมเสี่ยง ปัจจัยที่มีความต้องการเร่งด่วนสำหรับกลยุทธ์การแทรกแซงในการดูแลสุขภาพเบื้องต้น ขณะนี้มีช่องว่างในความรู้ของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการส่งมอบกลยุทธ์การป้องกันโดยแพทย์ทั่วไป ( GPS ) รอบผู้ป่วยสูบบุหรี่ โภชนาการกิจกรรมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกายภาพ ( Snap ) การศึกษาสํารวจส่งมอบวิถีชีวิตพฤติกรรมปัจจัยเสี่ยงการคัดกรองและการจัดการโดย GPS ภายในตรวจสุขภาพ ให้คำปรึกษาแก่ 45-49 ปี การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอิทธิพลที่มีผลต่อการเลือกหน้าจอจีพีเอส ' และเลือกที่จะจัดการถ่ายวิถีชีวิตปัจจัยเสี่ยง ,รวมทั้งระบุมีอิทธิพลในการคัดกรองและจัดการเมื่อปัจจัย snap หลายอยู่ วิธีการ :

รวม 29 เสียงบันทึกเทปสัมภาษณ์จำนวน 15 GPS และพยาบาลมากกว่าสองขั้นตอน บันทึกจากการสัมภาษณ์ใจวิเคราะห์ ,และรูปแบบของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการดูแลป้องกันถูกพัฒนาขึ้นโดยใช้ทฤษฎีพฤติกรรมตามแผนเป็นกรอบโครงสร้าง ผล :

GPS รู้สึกว่าประเมินสูบบุหรี่หรือไม่ตรงไปตรงมา อย่างไรก็ตามพบการประเมินการบริโภคแอลกอฮอล์เพียงเป็นไปได้ในระหว่างการตรวจสอบสุขภาพอย่างเป็นทางการ กิจกรรมอาหารและทางกายภาพมักจะสรุปเอาจากลักษณะที่ปรากฏเพียงถูกประเมินว่าผู้ป่วยมีน้ำหนักเกิน ความถี่และความทั่วถึงของการประเมินได้รับอิทธิพลจาก GPS ส่วนตัวผลประโยชน์และการรับรู้ สอดคล้องกับบทบาท ระดับความเสี่ยงต่อผู้ป่วย , ความจุของการปฏิบัติและห้องว่าง ของเวลา ทั้งหมด GPS แนะนำให้ผู้ป่วยและถือเป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบต่ออาชีพของตนเองอย่างไรก็ตามความพยายามของพวกเขาเพื่อกระตุ้นให้ผู้ป่วย ได้รับอิทธิพลจากการรับรู้ประสิทธิผลของตนเอง กับการสูบบุหรี่ก่อให้เกิดความยุ่งยากมากที่สุด ติดตามการใช้งานและการส่งต่อผู้ป่วยที่ปรากฏขึ้นอยู่กับจีพีเอส ' การดูแลป้องกัน แรงจูงใจของผู้ป่วย และค่าใช้จ่ายและการเข้าถึงบริการของผู้ป่วย :
.
สรุปทัศนคติเวชปฏิบัติทั่วไปบรรทัดฐานอิทธิพลทั้งจากผู้ป่วยและวิชาชีพ และการรับรู้การควบคุมปัจจัยภายนอก ( เวลา , ต้นทุน , ความสามารถความพร้อมและการปฏิบัติการจัดการอิทธิพลของปัจจัยเสี่ยงทางพฤติกรรม การศึกษาให้ชุมชนสร้างความตระหนัก ส่งเสริม และสร้างศักยภาพอาจปรับปรุงการดูดซึมของการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตคล้อย