Since firms cannot explicitly coord

Since firms cannot explicitly coordinate on setting price, they use implicit means. One form of implicit collusion is to follow a price leader. The price leader, often the largest or dominant firm in the industry, determines its profit-maximizing quantity by calculating the demand curve it faces as follows: at each price, it subtracts the quantity supplied by all other firms from the market demand, and the residual is its demand curve. The leader chooses the quantity that equates its marginal revenue with its marginal cost and sets price to sell this quantity. The other firms (the followers) match the leader’s price and supply the remainder of the market.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตั้งแต่ บริษัท ไม่สามารถประสานงานอย่างชัดเจนในการตั้งราคาที่พวกเขาใช้วิธีการโดยปริยาย หนึ่งรูปแบบของการสมรู้ร่วมคิดโดยปริยายคือการปฏิบัติตามผู้นำราคา ผู้นำราคาที่มักจะเป็น บริษัท ที่ใหญ่ที่สุดหรือที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมการกำหนดปริมาณผลกำไรสูงสุดของ บริษัท โดยการคำนวณเส้นอุปสงค์ใบหน้าดังนี้ในราคาที่แต่ละมันจะหักลบปริมาณจำหน่ายโดย บริษัท อื่น ๆ ทั้งหมดจากความต้องการของตลาดและที่เหลือเป็นเส้นอุปสงค์ของ ผู้นำเลือกปริมาณที่เท่ากับรายได้เล็กน้อยกับต้นทุนส่วนเพิ่มของตนและกำหนดราคาที่จะขายปริมาณนี้ บริษัท อื่น ๆ (ลูกน้อง) ตรงกับราคาของผู้นำและอุปทานส่วนที่เหลือของตลาด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เนื่องจากบริษัทไม่สามารถประสานงานตั้งราคาอย่างชัดเจน พวกเขาใช้วิธีนัย รูปแบบหนึ่งของการวางนัยคือการ ทำตามผู้นำราคา ผู้นำราคา บ่อยครั้งที่ใหญ่ที่สุด หรือตัวบริษัทในอุตสาหกรรม กำหนดปริมาณการเพิ่มกำไร โดยคำนวณเส้นอุปสงค์ที่ใบหน้าเป็นดังนี้: ในแต่ละราคา มันลบปริมาณที่จัดทำ โดยบริษัทอื่น ๆ ทั้งหมดจากความต้องการตลาด และส่วนที่เหลือจากการเส้นอุปสงค์ ผู้นำเลือกปริมาณที่เท่าของรายได้กำไรกับต้นทุนกำไร และกำหนดราคาขายปริมาณนี้ อื่น ๆ บริษัท (ลูกศิษย์) ตรงกับราคาของผู้นำ และจัดหาส่วนเหลือของตลาด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เนื่องจากบริษัทไม่สามารถประสานงานอย่างชัดเจนในการตั้งราคาที่ใช้งานอยู่หมายความว่าได้โดยปริยาย รูปแบบของการสมรู้ร่วมคิดถือว่าเป็นการทำตามเป็นผู้นำด้านราคาที่ เป็นผู้นำด้านราคาที่บริษัทหรือมีขนาดใหญ่ที่สุดมีอิทธิพลในอุตสาหกรรมนี้จะเป็นตัวกำหนดว่าจะมีกำไรสุทธิจำนวน - การเพิ่มของบริษัทโดยการคำนวณความโค้งมนตามความต้องการที่จะหันหน้าเข้าหาดังนี้ในราคาแต่ละครั้งนายหมายความว่าปริมาณที่ให้มาจากการลงทุนของบริษัทอื่นทั้งหมดจากความต้องการของตลาดได้และส่วนที่เหลือที่มีความโค้งมนตามความต้องการของพื้นที่ ผู้นำที่จะเลือกจำนวนที่ equates ริมของรายได้โดยมีต้นทุนเศษและตั้งราคาในการจำหน่ายจำนวนนี้ บริษัทอื่นๆ(ผู้ติดตาม)ตรงกับราคาของผู้นำและพาวเวอร์ซัพพลายที่เหลือของตลาด