A supportive therapeutic relationsh

A supportive therapeutic relationship can help prevent re- lapse (van Meijel et al., 2006; Meulenbroeks et al., 1998; Sousa,
1998; Sousa & Frazier, 2004; Stevens & Sin 2005). In the de- velopment of a relapse prevention plan, patient and nurse will have one or more therapeutic dialogues (Souza & Frazier, 2004). These dialogues can influence the patient’s perspective on his or her illness, their decisions regarding adherence to treatment, and consideration of alternative forms of treatment in order to realize his or her goals. Conversely, the preparation of a relapse prevention plan can enhance the alliance among nurse, patient, and patient’s family (van Meijel et al., 2006; Sousa, 1998). This finding is confirmed by Stevens and Sin (2005) who found Smith’s 10-step model of relapse prevention to be an ideal tool for working collaboratively.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความสัมพันธ์การรักษาสนับสนุนสามารถช่วยป้องกันเรื่องแลปส์ (van Meijel et al. 2006 Meulenbroeks et al. 1998 Sousa1998 Sousa และฟราเซียร์ 2004 สตีเวนส์และบาป 2005) ในการเดขณะของการวางแผนป้องกันการกำเริบ พยาบาลและผู้ป่วยจะมีมากกว่า หนึ่งโรคหารือ (ซัวซ่าและฟราเซียร์ 2004) บทสนทนาเหล่านี้สามารถมีอิทธิพลต่อมุมมองของผู้ป่วยในของเขา หรือเธอเจ็บป่วย การตัดสินใจเกี่ยวกับการยึดมั่นในการรักษา และการพิจารณารูปแบบอื่นของการรักษาเพื่อให้ทราบถึงเป้าหมายของเขา หรือเธอ ในทางกลับกัน การจัดทำแผนป้องกันการกำเริบสามารถเพิ่มพันธมิตรในหมู่พยาบาล ผู้ป่วย และครอบครัวของผู้ป่วย (van Meijel et al. 2006 Sousa, 1998) ค้นหานี้ได้รับการยืนยัน โดย Stevens และบาป (2005) ที่พบของ Smith รุ่น 10 ขั้นตอนป้องกันการกำเริบเป็น เครื่องมือเหมาะสำหรับการทำงานร่วมกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การรักษาความสัมพันธ์ที่สนับสนุนสามารถช่วยป้องกันการพ้นอีกครั้ง (Van Meijel et al, 2006;. Meulenbroeks et al, 1998;. Sousa,
1998; & Sousa Frazier 2004; สตีเว่นและ Sin 2005) ใน velopment de- ของแผนป้องกันการกำเริบของโรคผู้ป่วยและพยาบาลจะมีหนึ่งหรือมากกว่าการหารือในการรักษา (Souza & Frazier, 2004) บทสนทนาเหล่านี้จะมีผลต่อมุมมองของผู้ป่วยในเรื่องความเจ็บป่วยของเขาหรือเธอตัดสินใจของพวกเขาเกี่ยวกับการยึดมั่นในการรักษาและการพิจารณารูปแบบทางเลือกของการรักษาเพื่อให้ตระหนักถึงเป้าหมายของเขาหรือเธอ ตรงกันข้ามการจัดทำแผนป้องกันการกำเริบของโรคสามารถเพิ่มพันธมิตรในหมู่พยาบาลผู้ป่วยและครอบครัวของผู้ป่วย (Van Meijel et al, 2006;. Sousa, 1998) การค้นพบนี้ได้รับการยืนยันโดยสตีเวนส์และบาป (2005) ที่พบว่ารุ่น 10 ขั้นตอนของสมิ ธ ในการป้องกันการกำเริบของโรคที่จะเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับการทำงานร่วมกัน