The formation of insoluble complexe

The formation of insoluble complexes between enzymes and polyelectrolytes is a suitable technique for
isolating these biomolecules from natural sources, because it is a simple and rapid technique that allows
the concentration of the protein. This technique can be used in most purification protocols at the beginning
of the downstream process.
The aim of this investigation is to isolate papain from Carica papaya latex by precipitation of insoluble
complexes between this enzyme and poly (vinyl sulfonate).
The papain–poly (vinyl sulfonate) complex was insoluble at pH lower than 6, with a PVS/PAP stoichiometric
ratio of 1:279. Ionic strength affected the complex formation. The presence of the polymer
increased the enzymatic activity and protected the enzyme from autodegradation. The optimal conditions
for the formation of insoluble papain–polyelectrolyte complex formation were applied to C. papaya
latex and a high recovery was obtained (around 86%) and a purification factor around 2. This method can
be applied as an isolation method of papain from C. papaya latex or as a first step in a larger purification
strategy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การก่อตัวของคอมเพล็กซ์ละลายระหว่างเอนไซม์และ polyelectrolytes เป็นเทคนิคเหมาะสมสำหรับแยกชื่อโมเลกุลชีวภาพเหล่านี้จากแหล่งธรรมชาติ เนื่องจากเป็นเทคนิคที่ช่วยให้ง่าย และรวดเร็วความเข้มข้นของโปรตีน เทคนิคนี้สามารถใช้ในโปรโตคอลที่บริสุทธิ์ส่วนใหญ่ในตอนต้นกระบวนการปลายน้ำเป้าหมายของการตรวจสอบนี้คือแยกเอนไซม์ปาเปนจากยางมะละกอสกุลมะละกอ โดยฝนละลายคอมเพล็กซ์ระหว่างนี้เอนไซม์โพลี (ไวนิล sulfonate)พาเพอิน – โพลี (ไวนิล sulfonate) ซับซ้อนคือไม่ละลายน้ำที่ pH ต่ำกว่า 6 ด้วยความ แรงกล้า/PAP stoichiometricอัตราส่วนของ 1:279 ความแรงของไอออนมีผลกระทบการสร้างที่ซับซ้อน การปรากฏตัวของพอลิเพิ่มกิจกรรมเอนไซม์ และป้องกันเอนไซม์ autodegradation สภาวะที่เหมาะสมสำหรับการก่อตัวของการละลายพาเพอิน – polyelectrolyte ซับซ้อนสร้างใช้ C. มะละกอน้ำยางข้นและการกู้คืนสูงที่ได้รับ (ประมาณ 86%) และปัจจัยการฟอกรอบ 2 วิธีนี้สามารถใช้ เป็นวิธีการแยกของเอนไซม์ปาเปนจากยางมะละกอ C. หรือ เป็นขั้นตอนแรกในการฟอกขนาดใหญ่กลยุทธ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การก่อตัวของสารประกอบเชิงซ้อนที่ไม่ละลายน้ำระหว่างเอนไซม์และ polyelectrolytes เป็นเทคนิคที่เหมาะสำหรับ
การแยกสารชีวโมเลกุลเหล่านี้จากแหล่งน้ำธรรมชาติเพราะมันเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่ช่วยให้
ความเข้มข้นของโปรตีน เทคนิคนี้สามารถนำมาใช้ในโปรโตคอลบริสุทธิ์ที่สุดที่จุดเริ่มต้น
ของกระบวนการปลายน้ำ.
จุดมุ่งหมายของการสืบสวนคดีนี้คือการแยกปาเปนจากมะละกอน้ำยางโดยการตกตะกอนของที่ไม่ละลายน้ำ
เชิงซ้อนระหว่างเอนไซม์โพลีนี้ (ไวนิลซัลโฟเนต).
ปาเปน-Poly ( ไวนิลซัลโฟเนต) ที่ซับซ้อนที่ไม่ละลายน้ำที่ pH ต่ำกว่า 6 กับ PVS / PAP ทฤษฎี
อัตราส่วน 1: 279 ความแข็งแรงของอิออนได้รับผลกระทบการสร้างที่ซับซ้อน การปรากฏตัวของพอลิเมอ
เพิ่มเอนไซม์และการป้องกันเอนไซม์จาก autodegradation สภาวะที่เหมาะสม
สำหรับการสร้างที่ไม่ละลายน้ำปาเปน-Polyelectrolyte เชิงซ้อนที่ถูกนำไปใช้กับซีมะละกอ
น้ำยางข้นและการกู้คืนสูงที่ได้รับ (ประมาณ 86%) และเป็นปัจจัยที่ทำให้บริสุทธิ์รอบที่ 2 วิธีนี้สามารถ
นำมาใช้เป็นวิธีการแยกจากปาเปน ซีมะละกอน้ำยางข้นหรือเป็นขั้นตอนแรกในการทำให้บริสุทธิ์ขนาดใหญ่
กลยุทธ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การก่อตัวของสารประกอบเชิงซ้อนระหว่างเอนไซม์และการ polyelectrolytes เป็นเทคนิคที่เหมาะสมการแยกสารชีวโมเลกุลเหล่านี้จากแหล่งธรรมชาติ เพราะมันเป็นเทคนิคที่ช่วยให้ง่ายและรวดเร็วความเข้มข้นของโปรตีน เทคนิคนี้สามารถใช้ในโพรโทคอลบริสุทธิ์ที่สุดที่จุดเริ่มต้นของกระบวนการปลายน้ำจุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือการแยกเอนไซม์ปาเปนจากน้ำยางข้นยางมะละกอโดยการตกตะกอนที่ไม่ละลายน้ำสารประกอบเชิงซ้อนระหว่างเอนไซม์และพอลิไวนิลซัลโฟเนต )ปาเปนและพอลิไวนิลซัล ) ซับซ้อนคือละลายน้ำที่ pH ต่ำกว่า 6 กับ PVS / PAP stoichiometricอัตราส่วนของ 1:279 . ความแข็งแรงมีผลต่อการเกิดไอออนเชิงซ้อน การปรากฏตัวของพอลิเมอร์เพิ่มเอนไซม์ เอนไซม์ และป้องกันจาก autodegradation . เงื่อนไขที่ดีที่สุดสำหรับการก่อตัวของปาเปนและการตกตะกอนไม่ซับซ้อนเพื่อใช้ C . มะละกอน้ำยางข้นและการกู้คืนสูงได้ ( ประมาณร้อยละ 86 ) และปัจจัยผลิตรอบ 2 วิธีการนี้สามารถจะใช้วิธีแยกของปาเปนจาก น้ำยางมะละกอ หรือเป็นขั้นตอนแรกในการใหญ่กลยุทธ์