Use this scheme as follows. You fir

Use this scheme as follows. You first must know the orbitals. An s orbital only has 2 electrons. A p orbital has six electrons. A d orbital has 10 electrons. An f orbital has 14 electrons. You can tell what type of orbital it is by the number on the chart. The only exception to that is that "8" on the chart is "2" plus "6," that is, an s and a p orbital. The chart reads from left-to-right and then down to the next line, just as English writing. Any element with over 20 electrons in the electrically neutral unattached atom will have all the electrons in the first row on the chart. For instance, scandium, element #21, will have all the electrons in the first row and one from the second. The electron configuration of scandium is: 1s2 2s2 2p6 3s2 3p6 4s2 3d1 Notice that the 2s2 2p6 and 3s2 3p6 came from the eights on the chart (2+6). Notice that the other electron must be taken from the next spot on the chart and that the next spot is the first spot on the left in the next row. It is a 3d spot due to the "10" there and only one more electron is needed, hence 3d1.
The totals on the right indicate using whole rows. If an element has an atomic number over thirty-eight, take all the first two rows and whatever more from the third row. Iodine is number fifty-three. For its electron configuration you would use all the electrons in the first two rows and fifteen more electrons. 1s2 2s2 2p6 3s2 3p6 4s2 3d10 4p6 5s2 from the first two rows and 4d10 5p5 from the third row. You can add up the totals for each shell at the bottom. Full shells would give you the totals on the bottom.
We have included an R shell (#8) even though there is no such thing yet proven to exist. The chart appears more symmetrical with that shell included. The two electrons from the R shell are in parentheses. We have not yet even made elements that have electrons in the p subshell of the Q shell.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใช้นี้เป็นดังนี้ คุณก่อนต้องรู้การ orbitals S การโคจรมี 2 อิเล็กตรอนเท่านั้น ออร์บิทัลกับ p มี 6 อิเล็กตรอน D ของวงโคจรมี 10 อิเล็กตรอน F การโคจรมี 14 อิเล็กตรอน คุณสามารถบอกชนิดของออร์บิทัลจึงเป็นตัวเลขบนแผนภูมิ ข้อยกเว้นเท่าที่ได้ "8" บนแผนภูมิว่า "2" บวกกับ "6 คือ เป็น s และเป็นออร์บิทัล p แผนภูมิการอ่าน จากซ้ายไปขวา แล้วลง ไปที่ บรรทัดถัดไป ก็เขียนภาษาอังกฤษ องค์ประกอบใด ๆ กับอิเล็กตรอนในอะตอม unattached นวดกลางกว่า 20 จะมีอิเล็กตรอนทั้งหมดในแถวแรกบนแผนภูมิ เช่น สแกนเดียม #21 องค์ประกอบจะมีอิเล็กตรอนทั้งหมดในแถวแรกและจากการที่สอง มีการจัดเรียงอิเล็กตรอนของสแกนเดียม: 1s2 2s2 2p 6 3s2 3p 6 4s2 3d 1 สังเกตที่ 2s2 2p 6 และ 3s2 3p 6 มาจาก eights บนแผนภูมิ (2 + 6) สังเกตว่า อิเล็กตรอนที่ต้องดำเนินการให้ไปจุดบนแผนภูมิ และว่าจุดต่อไปจุดแรกทางด้านซ้ายในแถวถัดไป มันเป็น 3d เนื่องจาก "10" มี และอิเล็กตรอนเดียวเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำ เป็น ดังนั้น 3 d 1ผลรวมทางด้านขวาระบุใช้ทั้งแถว ถ้าองค์มีหมายเลขอะตอม กว่าสามสิบแปด ใช้สองแถวและสิ่งเพิ่มเติมจากแถวสาม ไอโอดีนเป็นเลขสิบสาม สำหรับการจัดเรียงอิเล็กตรอนของ คุณจะใช้อิเล็กตรอนทั้งหมดในแถวสองและอิเล็กตรอนมากกว่า 15 1s2 2s2 2p 6 3s2 3p 6 4s2 3d 10 6 p 4 5s2 จากแถว 2 และ 4d 10 5 5 p จากแถวสาม คุณสามารถเพิ่มค่าผลรวมสำหรับแต่ละเชลล์ที่ด้านล่าง เปลือกหอยเต็มจะให้ยอดรวมด้านล่างเราได้รวมการเชลล์ R (#8) แม้ว่าไม่มีสิ่งดังกล่าว ได้พิสูจน์การมีอยู่ แผนภูมิปรากฏมากสมมาตรกับเชลล์ที่รวม อิเล็กตรอนจากเปลือก R สองอยู่ในวงเล็บ เราไม่ได้แม้ทำองค์ประกอบที่มีอิเล็กตรอนใน subshell p ของเปลือก Q

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ใช้รูปแบบดังต่อไปนี้ ก่อนอื่นคุณต้องรู้ orbitals s โคจรมีเพียง 2 อิเล็กตรอน พีโคจรอิเล็กตรอนมีหก d โคจรมี 10 อิเล็กตรอน เอฟมี 14 วงโคจรอิเล็กตรอน คุณสามารถบอกสิ่งที่ประเภทของการโคจรมันเป็นจำนวนที่อยู่บนชาร์ต ยกเว้นเพียงว่านั่นคือ "8" ในชาร์ตเป็น "2" บวก "6" ที่เป็นและ AP โคจร แผนภูมิอ่านจากซ้ายไปขวาและจากนั้นลงไปที่บรรทัดถัดไปเช่นเดียวกับที่เขียนภาษาอังกฤษ องค์ประกอบใด ๆ ที่มีมากกว่า 20 อิเล็กตรอนในอะตอมโสดเป็นกลางทางไฟฟ้าจะมีอิเล็กตรอนทั้งหมดในแถวแรกในชาร์ต ยกตัวอย่างเช่นแคนองค์ประกอบ # 21 จะมีอิเล็กตรอนทั้งหมดในแถวแรกและหนึ่งจากสอง อิเล็กตรอนของแคนคือ: 2S2 1s2 2p6 3s2 3p6 4s2 3d1 สังเกตว่าการ 2S2 และ 2p6 3s2 3p6 มาจากแปดในชาร์ต (2 + 6) ขอให้สังเกตว่าอิเล็กตรอนอื่น ๆ ที่จะต้องดำเนินการจากจุดต่อไปในชาร์ตและจุดต่อไปเป็นจุดแรกทางด้านซ้ายในแถวถัดไป มันเป็นจุด 3d เนื่องจาก "10" มีเพียงคนเดียวและอิเล็กตรอนมากขึ้นเป็นสิ่งจำเป็นจึง 3d1.
ผลรวมด้านขวาระบุใช้ทั้งแถว ถ้าองค์ประกอบที่มีเลขอะตอมมากกว่าสามสิบแปด, ใช้เวลาทั้งหมดสองแถวแรกและสิ่งที่เพิ่มเติมจากแถวที่สาม ไอโอดีนเป็นจำนวนห้าหมื่นสาม สำหรับการตั้งค่าอิเล็กตรอนที่คุณจะใช้อิเล็กตรอนทั้งหมดในครั้งแรกที่สองแถวและสิบห้าอิเล็กตรอนมากขึ้น 1s2 2p6 2S2 3s2 3p6 4s2 4p6 5s2 3d10 จากครั้งแรกที่สองแถวและ 4d10 5p5 จากแถวที่สาม คุณสามารถเพิ่มผลรวมของเปลือกแต่ละที่ด้านล่าง เปลือกหอยเต็มจะให้ผลรวมที่ด้านล่าง.
เราได้รวมเปลือก r (# 8) แม้ว่าจะไม่มีสิ่งดังกล่าวได้รับการพิสูจน์ยังมีอยู่ แผนภูมิจะปรากฏสมมาตรมากขึ้นด้วยเปลือกที่รวม ทั้งสองอิเล็กตรอนจากเปลือก R ที่อยู่ในวงเล็บ เรายังไม่ได้ทำแม้องค์ประกอบที่มีอิเล็กตรอนในพี subshell ของเปลือก Q

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ใช้โครงการนี้ดังนี้ ก่อนอื่นคุณต้องทราบวงโคจร . s ออร์บิทัลมี 2 อิเล็กตรอน P โคจรมี 6 อิเล็กตรอน D 10 โคจรอิเล็กตรอน F 14 โคจรอิเล็กตรอน คุณสามารถบอกชนิดของเบ้าตามัน ด้วยหมายเลขบนแผนภูมิ เท่านั้นที่เป็นข้อยกเว้นที่ " 8 " บนแผนภูมิเป็น " 2 " บวก " 6 " ที่เป็น S และ P โคจรแผนภูมิที่อ่านจากซ้ายไปขวาแล้วลงบรรทัดถัดไป เช่นเดียวกับการเขียนภาษาอังกฤษ องค์ประกอบใด ๆ กว่า 20 อิเล็กตรอนในอะตอมอิสระเป็นกลางไฟฟ้าจะมีอิเล็กตรอนทั้งหมดในแถวแรกบนแผนภูมิ ตัวอย่าง สแกนเดียม องค์ประกอบ# 21 จะมีอิเล็กตรอนทั้งหมดในแถวแรกและหนึ่งจากสอง ที่อิเล็กตรอนสแกนเดียมเป็น :1s2 2s2 2p6 3s2 3p6 4s2 3d1 สังเกตเห็นว่า 2s2 2p6 และ 3s2 3p6 มาจากแปดบนแผนภูมิ ( 2 6 ) สังเกตได้ว่าอิเล็กตรอนต้องถ่ายจากจุดถัดไปบนแผนภูมิและที่จุดถัดไป คือจุดแรกที่ด้านซ้ายในแถวถัดไป มันเป็นจุดที่ 3 จาก " 10 " และมีเพียงหนึ่งอิเล็กตรอนเป็นสิ่งจำเป็น ดังนั้น 3d1 .
ผลรวมที่ถูกต้องระบุการใช้ทั้งแถวถ้าเป็นธาตุที่มีเลขอะตอมมากกว่าสามสิบแปด ใช้เวลาทั้งหมด 2 แถวและสิ่งที่เพิ่มเติมจากแถวที่สาม ไอโอดีนเป็นหมายเลข 53 สำหรับการจัดเรียงอิเล็กตรอนของคุณจะใช้อิเล็กตรอนทั้งหมดในแถวแรก และอีกสิบห้าอิเล็กตรอน 1s2 2s2 2p6 3s2 3p6 4s2 3d10 4p6 5s2 จาก แรก สองแถวและ 4d10 5p5 จากแถวที่สาม