Lisbon (/ˈlɪzbən/ liz-bən; Portugue

Lisbon (/ˈlɪzbən/ liz-bən; Portuguese: Lisboa, IPA: [liʒˈboɐ],[1] is the capital and the largest city of Portugal with a population of 547,631 within its administrative limits[2] on a land area of 84.8 square kilometres (32.7 sq mi). The urban area of Lisbon extends beyond the administrative city limits with a population of over 3 million[3] on an area of 958 square kilometres (370 sq mi),[3] making it the 11th most populous urban area in the European Union. About 3,035,000[4][5] people live in the Lisbon Metropolitan Area (which represents approximately 27% of the population of the country). Lisbon is the westernmost large city located in Europe, as well as its westernmost capital city and the only one along the Atlantic coast. It lies in the western Iberian Peninsula on the Atlantic Ocean and the River Tagus.
Lisbon is recognised as a global city because of its importance in finance, commerce, media, entertainment, arts, international trade, education and tourism.[6][7] It is one of the major economic centres on the continent, with a growing financial sector and the largest/second largest container port on Europe's Atlantic coast.[8] Lisbon Portela Airport serves over 15.3 million passengers annually (2012); the motorway network and the high-speed rail system of (Alfa Pendular) link the main cities of Portugal.[9] The city is the seventh-most-visited city in Southern Europe, after Istanbul, Rome, Barcelona, Madrid, Athens and Milan, with 1,740,000 tourists in 2009.[10] The Lisbon region is the wealthiest region in Portugal, GDP PPP per capita is 26,100 euros (4.7% higher than the average European Union's GDP PPP per capita). It is the tenth richest metropolitan area by GDP on the continent amounting to 110 billion euros and thus €39,375 per capita,[11] 40% higher than the average European Union's GDP per capita. The city occupies 32nd place of highest gross earnings in the world.[12] Most of the headquarters of multinationals in the country are located in the Lisbon area and it is the 9th city in the world in terms of quantity of international conferences.[13] It is also the political centre of the country, as seat of Government and residence of the Head of State. The seat of the district of Lisbon and the centre of the Lisbon region.
Lisbon is one of the oldest cities in the world, and the oldest city in Western Europe, predating other modern European capitals such as London, Paris and Rome by hundreds of years. Julius Caesar made it a municipium called Felicitas Julia, adding to the name Olissipo. Ruled by a series of Germanic tribes from the 5th century, it was captured by the Moors in the 8th century. In 1147, the Crusaders under Afonso Henriques reconquered the city and since then it has been a major political, economic and cultural centre of Portugal. Unlike most capital cities, Lisbon's status as the capital of Portugal has never been granted or confirmed officially – by statute or in written form. Its position as the capital has formed through constitutional convention, making its position as de facto capital a part of the Constitution of Portugal.
Lisbon hosts two agencies of the European Union: the European Monitoring Centre for Drugs and Drug Addiction (EMCDDA) and the European Maritime Safety Agency (EMSA). Called the "Capital of the Lusophone world", the Community of Portuguese Language Countries has its headquarters in the city, in the Palace of the Counts of Penafiel.
Lisbon has two sites listed by UNESCO as a World Heritage Site: Belém Tower and Jerónimos Monastery. Furthermore, in 1994, Lisbon was the European Capital of Culture and in 1998 organised the Expo '98 (1998 Lisbon World Exposition).
Lisbon enjoys a Mediterranean climate. Among all the metropolises in Europe, it has the warmest winters, with average temperatures 15 °C (59 °F) during the day and 8 °C (46 °F) at night from December to February. The typical summer season lasts about six months, from May to October, although also in November, March and April temperatures sometimes reach around 20 °C (68.0 °F).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลิสบอน (/ lɪzbən / liz-bən; โปรตุเกส: Lisboa, IPA: [liʒboɐ], [1] เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโปรตุเกสมีประชากร 547,631 ภายในขอบเขตการบริหาร [2] ในพื้นที่ของ 84.8 ตาราง กิโลเมตร (32.7 ตารางไมล์). เขตเมืองลิสบอนขยายเกินขอบเขตเมืองการบริหารมีประชากรกว่า 3 ล้าน [3] บนพื้นที่ 958 ตารางกิโลเมตร (370 ตารางไมล์),[3] ทำให้มันเป็น 11 เขตเมืองมีประชากรมากที่สุดในสหภาพยุโรป ประมาณ 3,035,000 [4] [5] คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่มหานครลิสบอน (ซึ่งหมายถึงประมาณ 27% ของประชากรของประเทศ) ลิสบอนเป็นเมืองตะวันตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในยุโรปเช่นเดียวกับที่เมืองหลวงของตะวันตกและเป็นคนเดียวตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกมันตั้งอยู่ในคาบสมุทรไอบีเรียทางตะวันตกในมหาสมุทรแอตแลนติกและ Tagus แม่น้ำ.
ลิสบอนได้รับการยอมรับในฐานะที่เป็นเมืองที่ทั่วโลกเพราะความสำคัญในด้านการเงินการค้าการสื่อความบันเทิง, ศิลปะ, การศึกษาการค้าระหว่างประเทศและการท่องเที่ยวของ. [6] [ 7] มันเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญในทวีปยุโรป. กับภาคการเงินที่เพิ่มขึ้นและใหญ่ที่สุดพอร์ตภาชนะ / สองที่ใหญ่ที่สุดบนชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของยุโรป [8] ลิสบอน Portela สนามบินที่ให้บริการกว่า 15,300,000 ผู้โดยสารเป็นประจำทุกปี (2012); เครือข่ายทางด่วนและระบบรถไฟความเร็วสูงของการเชื่อมโยง (อัลฟ่า pendular) เมืองหลักของโปรตุเกส. [9] เมืองเป็นเจ็ดส่วนใหญ่เดินทางไปเยี่ยมชมเมืองในภาคใต้ของยุโรปหลังจากที่อิสตันบูล, โรม, บาร์เซโลนา, มาดริด,athens และมิลานที่มี 1,740,000 นักท่องเที่ยวในปี 2009. [10] ภูมิภาคลิสบอนเป็นภูมิภาคท​​ี่ร่ำรวยในโปรตุเกส, PPP ของ GDP ต่อหัวเป็น€ 26,100 (4.7% สูงกว่าจีดีพี PPP ของสหภาพยุโรปเฉลี่ยต่อหัว) มันเป็นหนึ่งในสิบเขตปริมณฑลที่ร่ำรวยที่สุดโดยจีดีพีในทวีปยุโรปจำนวน 110,000,000,000 €และ€ 39,375 ต่อหัว[11] 40% สูงกว่าจีดีพีของสหภาพยุโรปเฉลี่ยต่อหัว เมืองตรงบริเวณสถานที่ที่ 32 ของกำไรขั้นต้นที่สูงที่สุดในโลก. [12] ส่วนใหญ่ของสำนักงานใหญ่ของ บริษัท ข้ามชาติในประเทศที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ลิสบอนและเป็นเมืองที่ 9 ในโลกในแง่ของปริมาณของการประชุมระหว่างประเทศ. [13 ] ก็ยังเป็นศูนย์กลางทางการเมืองของประเทศเป็นที่นั่งของรัฐบาลและที่พำนักของประมุขแห่งรัฐ ที่นั่งของอำเภอลิสบอนและเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคลิสบอน.
ลิสบอนเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในโลกและเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปตะวันตก, predating เมืองหลวงอื่น ๆ ในยุโรปที่ทันสมัย​​เช่นลอนดอน, ปารีสและโรมโดยหลายร้อย ปี Julius Caesar ทำให้มัน municipium เรียก julia Felicitas,การเพิ่มชื่อ Olissipo ปกครองโดยชุดของชนเผ่าดั้งเดิมจากศตวรรษที่ 5 มันก็ถูกจับโดยทุ่งในศตวรรษที่ 8 ใน 1147, แซ็กซอนภายใต้ Henriques Afonso reconquered เมืองและตั้งแต่นั้นมาก็ได้รับการเป็นศูนย์กลางทางการเมืองเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่สำคัญของโปรตุเกส แตกต่างมากที่สุดเมืองหลวงสถานะลิสบอนเป็นเมืองหลวงของโปรตุเกสไม่เคยได้รับอนุญาตหรือได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ - โดยพระราชบัญญัติหรือในรูปแบบที่เป็นลายลักษณ์อักษร ตำแหน่งเป็นเมืองหลวงได้เกิดขึ้นผ่านรัฐธรรมนูญทำให้ตำแหน่งเป็นพฤตินัยเงินทุนส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญของโปรตุเกส
ลิสบอนเจ้าภาพสองหน่วยงานของสหภาพยุโรป.ศูนย์ตรวจสอบยุโรปสำหรับยาเสพติดและติดยาเสพติดยาเสพติด (EMCDDA) และหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางทะเลของยุโรป (Emsa) เรียกว่า "เมืองหลวงของโลก Lusophone" ชุมชนของประเทศที่ใช้ภาษาโปรตุเกสมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองอยู่ในพระราชวังของการนับของ Penafiel
ลิสบอนมีสองเว็บไซต์ที่จดทะเบียนโดยยูเนสโกเป็นมรดกโลก. หอBelémและ Jeronimos พระอาราม ยิ่งไปกว่านั้นในปี 1994, ลิสบอนเป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรมของยุโรปและในปี 1998 การจัดงานแสดงสินค้า 98 (1998 ลิสบอนนิทรรศการโลก).
ลิสบอนสนุกกับสภาพภูมิอากาศเมดิเตอร์เรเนียน ในมหานครทั้งหมดที่อยู่ในยุโรปก็มีฤดูหนาวที่อบอุ่นที่มีอุณหภูมิเฉลี่ย 15 ° C (59 ° F) ในระหว่างวันและ 8 ° C (46 ° F) ในเวลากลางคืนจากธันวาคม-กุมภาพันธ์ ฤดูร้อนโดยทั่วไปเวลาประมาณหกเดือนจากพฤษภาคม-ตุลาคมแม้ว่ายังอยู่ในอุณหภูมิพฤศจิกายนเดือนมีนาคมและเมษายนบางครั้งถึง 20 ° C (68.0 ° F)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลิสบอน (ˈlɪzbən/ลิซ-bən โปรตุเกส: ลิสบัว IPA: [liʒˈboɐ], [1] เป็นเมืองหลวงและใหญ่ที่สุดเมืองของโปรตุเกส มีประชากร 547,631 ภายในวงเงินของบริหาร [2] บนพื้นที่ที่ดิน 84.8 ตารางกิโลเมตร (32.7 sq mi) เมืองของลิสบอนเกินวงเงินบริหารเมืองมีประชากรมากกว่า 3 ล้าน [3] ในพื้นที่ 958 ตารางกิโลเมตร (370 sq mi),[3] ทำเมืองหลัง 11 มีประชากรมากที่สุดในสหภาพยุโรป ประมาณ 3,035,000 [4] [5] คนสดในพื้นที่นครลิสบอน (ซึ่งแสดงถึงประมาณ 27% ของประชากรของประเทศ) ลิสบอนเป็นเมืองขนาดใหญ่ westernmost อยู่ในยุโรป เป็นเมืองหลวงของ westernmost และหนึ่งเดียวริมฝั่งทะเลแอตแลนติก มันอยู่ในสมุทรตะวันตกในมหาสมุทรแอตแลนติกและแม่น้ำเทกัสแม่น้ำ
ลิสบอนเป็นยังเป็นเมืองทั่วโลกเนื่องจากความสำคัญเงิน พาณิชย์ สื่อ บันเทิง ศิลปะ การค้าระหว่างประเทศ การศึกษา และท่องเที่ยว[6][7] มันเป็นหนึ่งในศูนย์กลางเศรษฐกิจสำคัญในทวีป กับภาคการเงินเติบโตและท่าเรือคอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุด/อันดับสองบนชายฝั่งแอตแลนติกของยุโรป[8] ลิสบอน Portela สนามบินให้บริการผู้โดยสารกว่า 15.3 ล้านปี (2012); ระบบรถไฟความเร็วสูง (อัลฟาโรเม Pendular) และเครือข่ายมอเตอร์เวย์เชื่อมโยงเมืองหลักของโปรตุเกส[9] เมืองคือ เมืองเจ็ดส่วนใหญ่ชมในยุโรปใต้ อิสตันบูล โรม บาร์เซโลนา มาดริด เอเธนส์และมิลาน นักท่องเที่ยว 1,740,000 ในปี 2009[10] ลิสบอนเป็นภูมิภาคร่ำรวยที่สุดในโปรตุเกส GDP PPP ต่อ capita 26,100 ยูโร (สูงกว่าค่าเฉลี่ยสหภาพยุโรปของ GDP PPP ต่อหัว 4.7%) เป็นพื้นที่นครบาลรวยที่สุดสิบ โดย GDP ใน continent เกิน 110 พันล้านยูโร และปอนด์ต่อหัว 39,375[11] 40% สูงกว่าสหภาพยุโรปเฉลี่ยของ GDP capita ต่อ เมืองใช้ 32 ทำรายได้รวมสูงที่สุดในโลก[12] ส่วนใหญ่สำนักงานใหญ่ของบริษัทในประเทศอยู่ในลิสบอน และเป็นเมือง 9 ในโลกในด้านปริมาณการประชุมนานาชาติ[13] จึงเป็นศูนย์กลางทางการเมืองของประเทศ เป็นที่นั่งของประมุขแห่งรัฐและรัฐบาล นั่งเขตลิสบอนและศูนย์ของลิสบอนภูมิภาค
ลิสบอนเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และเมืองเก่าแก่ที่สุดในยุโรปตะวันตก predating เมืองหลวงอื่น ๆ ยุโรปสมัยใหม่เช่นลอนดอน ปารีส และโรม โดยร้อยปี จูเลียทำ municipium เรียกว่าจูเลีย Felicitas เพิ่มชื่อ Olissipo ปกครอง โดยชุดของชนเผ่าตระกูลจากศตวรรษ 5 มันถูกจับ โดย Moors ที่ในศตวรรษ 8 ใน 1147, Crusaders ภายใต้ Afonso Henriques reconquered เมือง และตั้งแต่นั้น ได้รับศูนย์การทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมสำคัญของโปรตุเกส ซึ่งแตกต่างจากเมืองหลวงมากที่สุด ไม่เคยถูกรับ หรือยืนยันทาง – โดยกฎหมาย หรือ ในแบบฟอร์มการเขียนสถานะของลิสบอนเป็นเมืองหลวงของโปรตุเกส เป็นเมืองหลวงได้ก่อตั้งขึ้น โดยรัฐธรรมนูญประชุม ทำเป็นทุนเดิมเป็นส่วนหนึ่งของการรัฐธรรมนูญของโปรตุเกส
ลิสบอนเป็นสองหน่วยงานของสหภาพยุโรป: ยุโรปตรวจสอบศูนย์ยาเสพติดและยาเสพติดยาเสพติด (EMCDDA) และที่ยุโรปทะเลความปลอดภัยหน่วย (EMSA) เรียกว่าการ "ทุนของโลก Lusophone" ชุมชนของโปรตุเกสภาษาประเทศมีสำนักงานใหญ่ในเมือง ในวังนับของ Penafiel
ลิสบอนมีสองเว็บไซต์ที่แสดง โดยองค์การยูเนสโกเป็นมรดกของโลก: Belém ทาวเวอร์และวัด Jerónimos นอกจากนี้ ในปี 1994 ลิสบอนเป็นเมืองหลวงวัฒนธรรม ยุโรป และในปีค.ศ. 1998 จัด Expo ' 98 (1998 ลิสบอนโลกนิทรรศการ) .
ลิสบอนแห่งนี้สภาพภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน จากทั้งหมด metropolises ในยุโรป มันได้หนาวอบอุ่น มีค่าเฉลี่ยอุณหภูมิระหว่าง 15 ° C (59 ° F) ในระหว่างวันและ 8 ° C (46 ° F) ในเวลากลางคืนจากเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ฤดูร้อนโดยทั่วไปเวลาประมาณหกเดือน จากเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม แม้ว่านอกจากนี้ในเดือนพฤศจิกายน เดือนมีนาคมและเมษายนอุณหภูมิบางครั้งถึงประมาณ 20 ° C (68.0 ° F)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Lisbon (/ ˈlɪzbən / liz - ลิสบอนโปรตุเกส bən IPA [ liʒˈboɐ ]:[ 1 ]เป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโปรตุเกสพร้อมด้วยประชากรของ 547,631 ภายใน ศาลปกครองการจำกัด[ 2 ]ของโรงแรมบนพื้นที่ที่มี 84.8 ตารางกิโลเมตร(คิดเป็น 32.7 ตร.ไมล์) บริเวณพื้นที่ในเมืองของ Lisbon ขยายมากกว่าเมืองจำกัดผู้ดูแลระบบที่มีประชากรมากกว่า 3 ล้านบาท[ 3 ]บนพื้นที่ 958 ตารางกิโลเมตร( 370 ตารางไมล์)[ 3 ]ทำให้พื้นที่ในเมืองที่มีประชากรมากที่สุด 11 ใน สหภาพ ยุโรป. เกี่ยวกับ 3,035,000 [ 4 ]:[ 5 ]คนอาศัยอยู่ในพื้นที่เมือง Lisbon (ซึ่งแสดงถึงประมาณ 27% ของจำนวนประชากรของประเทศ) Lisbon เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในส่วนพื้นที่ด้านทิศตะวันตกสุดในยุโรปเป็นอย่างดีในฐานะที่เป็นเมืองทุนส่วนพื้นที่ด้านทิศตะวันตกสุดของพื้นที่และเป็นเพียงหนึ่งเดียวที่อยู่ตามแนวชายฝั่งแอตแลนติกได้โรงแรมทอดตัวอยู่ใน Iberian บนคาบสมุทรทางด้านตะวันตกในมหาสมุทรแอตแลนติกและแม่น้ำแม่น้ำ Tagus ได้.
Lisbon ได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองแห่งโลกเนื่องจากมีความสำคัญในด้านการเงินการค้าสื่อเพื่อความบันเทิงจัดแสดงผลงานทางศิลปะและการศึกษาการค้าระหว่างประเทศการท่องเที่ยว.[ 6 ][ 7 ]เป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญในยุโรปได้ด้วยการเติบโตทางการเงิน ภาค รัฐและที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่สองท่าเรือในยุโรปของชายฝั่งแอตแลนติก.[ 8 ] Lisbon Portela ,สนามบินจัดให้บริการมากกว่า 15.3 ล้านคนต่อปี( 2012 );เครือข่ายมอร์เตอร์เวย์สาย A และที่ความเร็วสูงระบบรางของ( Alfa Production pendular )ที่เมืองหลักของโปรตุเกส.[ 9 ]ที่เมืองเป็นที่เจ็ด - เที่ยวชมมากที่สุดในยุโรปตอนใต้,หลังจาก Istanbul ,โรม,บาร์เซโลนา,มาดริด,Athens และ Milan พร้อมด้วย 1,740,000 นักท่องเที่ยวใน 2009 .[ 10 ]พื้นที่ Lisbon ที่เป็นพื้นที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ( GDP )โปรตุเกส PPP ต่อหัวของประชากรมี 26,100 ยูโร( PPP 4.7% สูงกว่าประเทศ( GDP )ของ สหภาพ ยุโรปโดยเฉลี่ยต่อหัวของประชากร) โรงแรมคือพื้นที่ Metropolitan ร่ำรวยที่สุดในสิบโดยของจีดีพีในทวีปที่มีมูลค่าถึง 110 ล้านยูโรและทำให้บริษัทเดมเลอร์ไครสเลอร์ 39,375 ต่อหัว[ 11 ]สูงกว่า 40% โดยเฉลี่ยมากกว่า GDP ของ สหภาพ ยุโรปที่ต่อหัวของประชากร. เมืองที่ครอบคลุมพื้นที่ที่ 32 ของกำไรขั้นต้นสูงที่สุดในโลก.[ 12 ]สำนักงานใหญ่ของบริษัทข้ามชาติในประเทศส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์กลาง Lisbon และเป็นเมืองที่ 9 ในโลกที่อยู่ในเงื่อนไขของปริมาณของการประชุมนานาชาติ.[ 13 ]นอกจากนั้นยังเป็นศูนย์กลางทางการเมืองของประเทศได้เป็นที่นั่งของที่พักและรัฐบาลของรัฐ. ที่นั่งของเขตพื้นที่ของ Lisbon และศูนย์กลางของเขตพื้นที่ Lisbon .
Lisbon เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่มากที่สุดในโลกและเมืองที่เก่าแก่มากที่สุดในยุโรป predating เงินทุนในแบบยุโรปที่ทันสมัยอื่นๆเช่นลอนดอนปารีสกรุงโรมและโดยหลายร้อยปี Julius Caesar ทำให้ municipium ที่เรียกว่า felicitas จูเลียการเพิ่มชื่อ olissipo Series ถูกปกครองโดยที่ของตระกูลเยอรมันจากช่วงศตวรรษที่ 5 ที่เป็นจับโดยเรือในศตวรรษที่ 8 ใน 1147 ครูเสดตาม afonso henriques reconquered เมืองและมันก็มีอยู่ในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมทางการเมืองที่สำคัญของประเทศโปรตุเกส ไม่เหมือนกับเมืองเงินทุนมากที่สุดสถานะของ Lisbon เป็นเมืองหลวงของโปรตุเกสไม่เคยได้รับหรือได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วโดยเป็นกฎเกณฑ์หรือในรูปของลายลักษณ์อักษร ที่ตั้งของโรงแรมเป็นเงินทุนหมุนเวียนที่ได้จากศาลรัฐธรรมนูญประชุมทำให้ตำแหน่งของตนเป็นเงินทุนหมุนเวียนตามความจริงเป็นส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญของประเทศโปรตุเกส.
Lisbon โฮสต์สองหน่วยงานของ สหภาพ ยุโรปการตรวจสอบที่ยุโรปศูนย์กลางสำหรับยาการเสพติดและสิ่งเสพติด( emcdda )และ สหภาพ ยุโรปด้านความ ปลอดภัย ทางทะเลหน่วยงาน( emsa ) เรียกว่า"เงินทุนของโลก lusophone "ชุมชนของประเทศโปรตุเกส ภาษา มีสำนักงานใหญ่ในเมืองในพระราชวังของนับถอยหลังของ penafiel .
Lisbon มีสองสถานที่อยู่ในรายการโดยองค์การยูเนสโกให้เป็นเสมือนดังสถานที่ทางมรดกโลกเบเลง Tower และ jerónimos วัด ยิ่งไปกว่านั้นในปี 1994 เมือง Lisbon เป็นเงินทุนที่ชาวยุโรปของวัฒนธรรมและในปี 1998 จัดงาน EXPO ' 98 ( 1998 Lisbon โลกเปิด)..
Lisbon มอบความเพลิดเพลินใจไปกับ สภาพ อากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน เสริม ศักยภาพ ในระหว่างที่ทุกคนในยุโรปมีฤดูหนาวที่อบอุ่นมากที่สุดพร้อมด้วยโดยเฉลี่ยมี อุณหภูมิ 15 ° C ( 59 ° C )ในระหว่างวันและ 8 ° C ( 46 ° C )ในเวลากลางคืนตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือน กุมภาพันธ์ ช่วงฤดูร้อนโดยทั่วไปจะใช้ระยะวเลาประมาณหกเดือนตั้งแต่เดือน พฤษภาคม ถึงตุลาคมแต่ถึงอย่างไรก็ตามยังอยู่ในเดือนมีนาคมเมษายน อุณหภูมิ และบางครั้งประมาณ 20 ° C ( 68.0 ° F )