-Atherosclerosis and heart diseaseI

-Atherosclerosis and heart disease
In one study, men with existing heart disease slowed down the progression of atherosclerosis by taking niacin along with colestipol. They experienced fewer heart attacks and deaths, as well.
people with heart disease and high cholesterol who took niacin along with simvastatin (Zocor) had a lower risk of having a first heart attack or stroke. Their risk of death was also lower. In another study, men who took niacin alone seemed to reduce the risk of having a second heart attack, although it did not reduce the risk of death.

-Diabetes
In type 1 diabetes, the body's immune system mistakenly attacks the cells in the pancreas that make insulin, eventually destroying them. Niacinamide may help protect those cells for a time. More research is needed.
Researchers have also looked at whether high-dose niacinamide might reduce the risk of type 1 diabetes in children at risk for the disease. One study found that it did. But another, larger study found it did not protect against developing type 1 diabetes. More research is needed.

The effect of niacin on type 2 diabetes is more complicated. People with type 2 diabetes often have high levels of fats and cholesterol in the blood. Niacin, often along with other medications, can lower those levels. However, niacin may also raise blood sugar levels, which is particularly dangerous for someone with diabetes. For that reason, if you have diabetes, you should take niacin only under the direction of your doctor, and you should be carefully monitored for high blood sugar.

-Osteoarthritis
One preliminary study suggested that niacinamide may improve arthritis symptoms, including increasing joint mobility and reducing the amount of non-steroidal anti-inflammatory drugs (NSAIDs) needed. More research is needed.







researchers are also studying the use of vitamin B3 in treating:

ADHD
Migraines
Dizziness
Depression
Motion sickness
Alcohol dependence
Dietary Sources

The best food sources of vitamin B3 are:

Beets
Brewer's yeast
Beef liver
Beef kidney
Fish
Salmon
Swordfish
Tuna
Sunflower seeds
Peanuts
Bread and cereals are usually fortified with niacin. In addition, foods that contain tryptophan, an amino acid the body coverts into niacin, include poultry, red meat, eggs, and dairy products.

Available Forms

Vitamin B3 is available in several different supplement forms:

Niacinamide
Niacin
Inositol hexaniacinate.
Niacin is available as a tablet or capsule in both regular and timed-release forms. The timed-release tablets and capsules may have fewer side effects than regular niacin. However, the timed-release versions are more likely to cause liver damage. Regardless of which form of niacin you are using, doctors recommend periodic liver function tests when using high doses (above 100 mg per day) of niacin.

How to Take It

Generally, high doses of niacin are used to control specific diseases. Such high doses must be prescribed by a doctor who will increase the amount of niacin slowly, over the course of 4 to 6 weeks. Take niacin with meals to avoid stomach irritation.

Daily recommendations for niacin in the diet of healthy individuals are:

Pediatric

Infants, birth to 6 months: 2 mg (adequate intake)
Infants, 7 months to 1 year: 4 mg (adequate intake)
Children, 1 to 3 years: 6 mg (RDA)
Children, 4 to 8 years: 8 mg (RDA)
Children, 9 to 13 years: 12 mg (RDA)
Boys, 14 to 18 years: 16 mg (RDA)
Girls, 14 to 18 years: 14 mg (RDA)
Adult

Men, 19 years and older: 16 mg (RDA)
Women, 19 years and older: 14 mg (RDA)
Pregnant women: 18 mg (RDA)
Breastfeeding women: 17 mg (RDA)
Precautions

Because of the potential for side effects and interactions with medications, you should take dietary supplements only under the supervision of a knowledgeable health care provider. Side effects may include diarrhea, headache, stomach discomfort, and bloating.

High doses (50 mg or more) of niacin can cause side effects. The most common side effect is called "niacin flush," which is a burning, tingling sensation in the face and chest, and red or flushed skin. Taking an aspirin 30 minutes prior to the niacin may help reduce this symptom.

At very high doses, used to lower cholesterol and treat other conditions, liver damage and stomach ulcers can occur. Your doctor will regularly check your liver function through a blood test.

People with a history of liver dise

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

-หลอดเลือดและโรคหัวใจในการศึกษา คนที่ มีโรคหัวใจอยู่แล้วชะลอตัวลงการลุกลามหลอดเลือด โดยการใช้ไนอาซินพร้อมกับ colestipol พวกเขามีประสบการณ์หัวใจน้อยลงและเสียชีวิต เช่น คนที่ มีไขมันสูงและโรคหัวใจที่มีไนอะซินพร้อมกับ simvastatin (Zocor) มีการลดความเสี่ยงของการมีหัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมองครั้งแรก ความเสี่ยงของการเสียชีวิตก็ลดลง ในการศึกษาอื่น ผู้ชายที่เอาไนอะซินเพียงอย่างเดียวดูเหมือนจะ ลดความเสี่ยงของการมีหัวใจสอง แม้ว่ามันไม่ได้ลดการเสี่ยงตาย-โรคเบาหวานในโรคเบาหวานประเภท 1 ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยไม่ได้ตั้งใจโจมตีเซลล์ในตับอ่อนที่ทำให้อินซูลิน ในที่สุดก็ทำลายพวกเขา Niacinamide อาจช่วยปกป้องเซลล์เหล่านั้นเป็นเวลา วิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นนักวิจัยได้ยังดูว่า niacinamide ขนาดสูงอาจลดความเสี่ยงของชนิด 1 โรคเบาหวานในเด็กที่มีความเสี่ยงการเกิดโรค การศึกษาพบว่า มันไม่ แต่อื่น ใหญ่ศึกษาพบว่า มันไม่สามารถป้องกันการพัฒนาโรคเบาหวานชนิด 1 วิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นผลของไนอาซินในเบาหวานชนิดที่ 2 มีความซับซ้อนมากขึ้น ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 มักจะมีไขมันและไขมันในเลือดในระดับสูง ไนอะซิน บ่อยครั้งพร้อมกับยาอื่น ๆ สามารถลดระดับ อย่างไรก็ตาม ไนอะซินอาจยังยกระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีโรคเบาหวาน สำหรับเหตุผลที่ หากคุณมีโรคเบาหวาน คุณควรใช้ไนอาซินเท่านั้นภายใต้การดูแลของแพทย์ของคุณ แล้วคุณควรจะตรวจสอบอย่างระมัดระวังสำหรับน้ำตาลในเลือดสูง-โรคข้อเข่าเสื่อมผลการศึกษาเบื้องต้นชี้ว่า niacinamide อาจปรับปรุงอาการของโรค รวมทั้งเพิ่มการเคลื่อนไหวร่วมกัน และลดจำนวนไม่ steroidal ยาต้านการอักเสบ (Nsaid) จำเป็น วิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นนักวิจัยยังได้ศึกษาการใช้วิตามิน B3 ในการรักษา:สมาธิสั้นอาการปวดหัวไมเกรนเวียนศีรษะภาวะซึมเศร้าเมาติดแอลกอฮอล์แหล่งอาหารแหล่งอาหารที่ดีที่สุดของวิตามินบี 3 คือ:หัวบีทต้มเบียร์ของยีสต์เนื้อตับเนื้อไตปลาปลาแซลมอนปลากระโทงดาบปลาทูน่าเมล็ดทานตะวันถั่วลิสงขนมปังและธัญพืชมักจะเสริม ด้วยไนอาซิน นอกจากนี้ อาหารที่ประกอบด้วยโพรไบโอ กรดอะมิโน coverts ร่างเป็นไนอะซิน รวมสัตว์ปีก เนื้อแดง ไข่ และผลิตภัณฑ์จากนมรูปแบบที่พร้อมใช้งานวิตามินบี 3 จะอยู่ในรูปแบบอาหารเสริมแตกต่างกันหลาย:NiacinamideไนอะซินHexaniacinate ทอเป็นแท็บเล็ตหรือแคปซูลในรูปแบบทั้งแบบธรรมดา และ timed-release มีไนอะซิน Timed-release เม็ดและยาแคปซูลอาจมีผลข้างเคียงน้อยกว่าปกติไนอะซิน อย่างไรก็ตาม รุ่น timed-release มีแนวโน้มทำให้เกิดความเสียหายของตับ โดยไม่คำนึงถึงการที่รูปแบบของไนอะซินที่คุณกำลังใช้ แพทย์แนะนำการทดสอบการทำงานของตับเป็นครั้งคราวเมื่อใช้ปริมาณสูง (มากกว่า 100 มิลลิกรัมต่อวัน) ของไนอาซินวิธีการใช้มันโดยทั่วไป ปริมาณที่สูงของไนอะซินที่ใช้เพื่อควบคุมโรคเฉพาะ ปริมาณสูงดังกล่าวต้องถูกกำหนด โดยแพทย์ที่จะเพิ่มจำนวนของไนอาซิช้า ช่วง 4 ถึง 6 สัปดาห์ ใช้ไนอาซินพร้อมอาหารเพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองกระเพาะอาหารแนะนำรายวันสำหรับไนอะซินในอาหารของบุคคลที่มีสุขภาพจะ:เด็กทารก แรกเกิดถึง 6 เดือน: 2 มิลลิกรัม (ปริมาณที่เพียงพอ)ทารก 7 เดือนถึง 1 ปี: 4 มิลลิกรัม (ปริมาณที่เพียงพอ)เด็ก 1-3 ปี: 6 มิลลิกรัม (RDA)เด็ก 4-8 ปี: 8 มิลลิกรัม (RDA)เด็ก 9-13 ปี: 12 mg (RDA)เด็กชาย 14-18 ปี: 16 มิลลิกรัม (RDA)สาว 14-18 ปี: 14 มิลลิกรัม (RDA)ผู้ใหญ่ผู้ชาย 19 ปี และมากกว่า: 16 มก. (RDA)ผู้หญิง 19 ปี และมากกว่า: 14 มิลลิกรัม (RDA)หญิงตั้งครรภ์: 18 mg (RDA)บุตร: 17 มิลลิกรัม (RDA)ข้อควรระวังเนื่องจากมีศักยภาพสำหรับผลข้างเคียงและการโต้ตอบกับยา คุณควรใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้การดูแลของผู้ให้บริการดูแลสุขภาพที่มีความรู้ ผลข้างเคียงที่อาจรวมถึงโรคท้องร่วง ปวดศีรษะ ไม่สบายท้อง และท้องอืดปริมาณที่สูง (50 มิลลิกรัมหรือมากกว่า) ของไนอะซินอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง ผลข้างเคียงทั่วไปเรียกว่า "ไนอะซินฟลัช ซึ่งเป็นการเผาไหม้ ชา ๆ ในใบหน้า และทรวงอก และสีแดง หรือล้างผิว ใช้แอสไพรินก่อนไนอะซิน 30 นาทีอาจช่วยลดอาการนี้ในปริมาณที่สูงมาก ใช้ในการลดคอเลสเตอร และเงื่อนไขอื่น ๆ รักษาแผลในกระเพาะอาหารและความเสียหายตับสามารถเกิดขึ้น แพทย์จะตรวจสอบทำงานของตับ โดยตรวจเลือดอย่างสม่ำเสมอคนที่ มีประวัติของการทำลายตับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

-Atherosclerosis และโรคหัวใจ
ในการศึกษาที่มีอยู่คนที่มีโรคหัวใจชะลอตัวลงความก้าวหน้าของหลอดเลือดโดยการใช้ไนอาซินพร้อมกับ colestipol พวกเขามีประสบการณ์การโจมตีหัวใจน้อยลงและเสียชีวิตเช่นกัน.
คนที่มีโรคหัวใจและคอเลสเตอรอลสูงที่เอาไนอาซินพร้อมกับ simvastatin (Zocor) มีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าของมีอาการหัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมองเป็นครั้งแรก ความเสี่ยงของการตายของ บริษัท ก็ลดลง ในการศึกษาอื่นคนที่เอาไนอาซินคนเดียวที่ดูเหมือนจะลดความเสี่ยงของการมีหัวใจวายที่สองแม้ว่ามันจะไม่ช่วยลดความเสี่ยงของการเสียชีวิต.

-Diabetes
ในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1, ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผิดพลาดโจมตีเซลล์ในตับอ่อนที่ ให้อินซูลินในที่สุดก็ทำลายพวกเขา Niacinamide อาจช่วยปกป้องเซลล์เหล่านั้นเป็นเวลา จำเป็นต้องวิจัยเพิ่มเติม.
นักวิจัยยังได้มองที่ไม่ว่าจะเป็นขนาดสูง Niacinamide อาจลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภท 1 ในเด็กที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค ผลการศึกษาพบว่ามันไม่ แต่อีกการศึกษาขนาดใหญ่พบว่ามันไม่ได้ป้องกันการพัฒนาโรคเบาหวานชนิดที่ 1 จำเป็นต้องวิจัยเพิ่มเติม.

ผลของไนอาซินเกี่ยวกับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มักจะมีระดับสูงของไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือด ไนอาซินมักจะมาพร้อมกับยาอื่น ๆ ที่สามารถลดระดับผู้ อย่างไรก็ตามไนอาซินอาจเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีโรคเบาหวาน ด้วยเหตุผลว่าถ้าคุณมีโรคเบาหวานคุณควรใช้ไนอาซินเฉพาะภายใต้การดูแลของแพทย์ของคุณและคุณควรจะตรวจสอบอย่างระมัดระวังน้ำตาลในเลือดสูง.

-Osteoarthritis
หนึ่งการศึกษาเบื้องต้นชี้ให้เห็นว่า Niacinamide อาจปรับปรุงอาการโรคข้ออักเสบรวมทั้งการเพิ่มการเคลื่อนไหวร่วมกันและ การลดปริมาณของไม่ steroidal ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) ที่จำเป็น จำเป็นต้องวิจัยเพิ่มเติม.







นักวิจัยยังได้ศึกษาการใช้งานของวิตามินบี 3 ในการรักษา:

สมาธิสั้น
ไมเกรน
อาการ
ซึมเศร้า
เมา
แอลกอฮอล์พึ่งพา
แหล่งอาหาร

ที่ดีที่สุดของแหล่งอาหารของวิตามิน B3 คือ

หัวผักกาด
ต้มเบียร์ของยีสต์
ตับเนื้อวัว
เนื้อไต
ปลา
แซลมอน
นาก
ปลาทูน่า
เมล็ดทานตะวัน
ถั่วลิสง
ขนมปังและธัญพืชมักจะมีการเสริมด้วยไนอาซิน นอกจากนี้อาหารที่มีโพรไบโอกรดอะมิโนที่ร่างกายขนอ่อนลงในไนอาซิน ได้แก่ ไก่เนื้อแดงไข่และผลิตภัณฑ์นม.

รูปพร้อม

วิตามิน B3 สามารถใช้ได้ในหลายรูปแบบอาหารเสริมที่แตกต่างกัน:

Niacinamide
ไนอาซิน
. Inositol hexaniacinate
ไนอาซินสามารถใช้ได้เป็น แท็บเล็ตหรือแคปซูลทั้งในรูปแบบปกติและหมดเวลาการวางจำหน่าย แท็บเล็ตหมดเวลาการปล่อยและแคปซูลอาจมีผลข้างเคียงน้อยกว่าปกติไนอาซิน แต่รุ่นหมดเวลาปล่อยมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดความเสียหายของตับ โดยไม่คำนึงถึงรูปแบบของไนอาซินที่คุณใช้แพทย์แนะนำการทดสอบการทำงานของตับเป็นระยะ ๆ เมื่อใช้ในปริมาณสูง (สูงกว่า 100 มิลลิกรัมต่อวัน) ของไนอาซิน.

วิธีการใช้มัน

โดยทั่วไปปริมาณสูงของไนอาซินที่ใช้ในการควบคุมโรคที่เฉพาะเจาะจง ปริมาณสูงดังกล่าวจะต้องได้รับการกำหนดโดยแพทย์ที่จะเพิ่มปริมาณของไนอาซินช้าในช่วง 4-6 สัปดาห์ที่ผ่านมา . ใช้ไนอาซินกับอาหารเพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองกระเพาะอาหาร

คำแนะนำรายวันสำหรับไนอาซินในอาหารของบุคคลที่มีสุขภาพที่มี:

กุมารเวชศาสตร์

ทารกแรกเกิดถึง 6 เดือน: 2 mg (ปริมาณที่เพียงพอ)
ทารก 7 เดือนถึง 1 ปี 4 มก. (ปริมาณที่เพียงพอ)
เด็ก 1 ถึง 3 ปี: 6 mg (RDA)
เด็ก 4-8 ปี: 8 มิลลิกรัม (RDA)
เด็ก 9-13 ปี: 12 mg (RDA)
Boys, 14 ถึง 18 ปี: 16 mg (RDA)
สาว 14 18 ปี: 14 mg (RDA)
ผู้ใหญ่

ชาย, 19 ปีและผู้สูงอายุ: 16 mg (RDA)
ผู้หญิง 19 ปีและผู้สูงอายุ: 14 mg (RDA)
หญิงตั้งครรภ์: 18 mg (RDA)
ผู้หญิงที่เลี้ยงลูกด้วยนม 17 mg (RDA)
ข้อควรระวัง

เพราะการที่มีศักยภาพสำหรับผลข้างเคียงและการมีปฏิสัมพันธ์กับยาคุณควรใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้การดูแลของผู้ให้บริการดูแลสุขภาพที่มีความรู้ ผลข้างเคียงที่อาจรวมถึงโรคท้องร่วง, ปวดหัว, ความรู้สึกไม่สบายท้องและท้องอืด.

ปริมาณที่สูง (50 มิลลิกรัมหรือมากกว่า) ของไนอาซินสามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียง ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดคือที่เรียกว่า "ล้างไนอาซิน" ซึ่งเป็นการเผาไหม้รู้สึกเสียวซ่าในใบหน้าและหน้าอกและผิวสีแดงหรือสีแดง การแอสไพรินเป็นเวลา 30 นาทีก่อนที่จะมีไนอาซินอาจช่วยลดอาการนี้.

ในปริมาณที่สูงมากที่ใช้ในการลดคอเลสเตอรอลและรักษาเงื่อนไขอื่น ๆ ความเสียหายของตับและแผลในกระเพาะอาหารสามารถเกิดขึ้นได้ แพทย์ของคุณอย่างสม่ำเสมอจะตรวจสอบการทำงานของตับของคุณผ่านการทดสอบเลือด.

คนที่มีประวัติของ dise ตับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

- หลอดเลือด และโรคหัวใจในการศึกษาหนึ่ง คนที่มีโรคหัวใจที่มีอยู่ชะลอความก้าวหน้าของหลอดเลือดโดยการใช้ไนอาซินพร้อมกับโคเลสติพอล . พวกเขามีประสบการณ์น้อย หัวใจวาย และเสียชีวิตได้เช่นกันผู้ที่เป็นโรคหัวใจและคอเลสเตอรอลสูงที่เอาไน พร้อมกับทิฟฟานี่ ฮวัง ( โซคอร์ ) มีความเสี่ยงต่ำของการมีจิตใจก่อนหัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมอง ความเสี่ยงของการตายก็ลดลง ในการศึกษาอื่น คนที่เอาไน คนเดียวที่ดูเหมือนจะลดความเสี่ยงของการมีหัวใจวายที่สอง แม้ว่าจะไม่ได้ลดความเสี่ยงของการตาย- โรคเบาหวานในโรคเบาหวานชนิดที่ 1 , ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผิดโจมตีเซลล์ในตับอ่อนที่สร้างอินซูลินในที่สุดทำลายพวกเขา Niacinamide อาจช่วยปกป้องเซลล์เหล่านั้นเป็นเวลา การวิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นนักวิจัยยังมองว่า ยา Niacinamide อาจลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ในเด็กที่เสี่ยงต่อโรค การศึกษาหนึ่งพบว่ามันทำ แต่อื่น การศึกษาขนาดใหญ่พบว่ามันไม่ได้ป้องกันการพัฒนาโรคเบาหวานชนิดที่ 1 . การวิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นผลของไนอาซินในเบาหวานชนิดที่ 2 คือ ที่ซับซ้อนมากขึ้น ผู้ที่มีเบาหวานชนิดที่ 2 มักจะมีระดับสูงของไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือด ไนอาซินมักพร้อมกับโรคอื่นๆ สามารถลดระดับนั้น อย่างไรก็ตามนมถั่วเหลืองอาจเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งจะเป็นอันตรายโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีโรคเบาหวาน สำหรับเหตุผลที่ หากคุณมีโรคเบาหวานคุณควรใช้ไนอาซินภายใต้ทิศทางของแพทย์ของคุณ และคุณควรตรวจสอบอย่างละเอียดสำหรับน้ำตาลในเลือดสูง- Osteoarthritisการศึกษาหนึ่งพบว่า Niacinamide อาจปรับปรุงอาการของโรคไขข้ออักเสบ รวมถึงการร่วมการเคลื่อนไหว และการลดปริมาณของยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ( NSAIDs ) ต้องการ การวิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นนักวิจัยยังศึกษาการใช้งานของ B3 วิตามินในการรักษา :สมาธิสั้นอาการไมเกรนหน้ามืดภาวะซึมเศร้าคลื่นเหียนการพึ่งพาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แหล่งที่มาของอาหารแหล่งที่ดีที่สุดของวิตามิน B3 : อาหารบีตส์บริวเวอร์ยีสต์ตับเนื้อวัวเนื้อไตปลาปลาแซลมอนปลาดาบทูน่าเมล็ดดอกทานตะวันถั่วลิสงขนมปังและธัญพืชมักจะเสริมไนอาซิน นอกจากนี้ อาหารที่ประกอบด้วยทริปโตเฟนเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกาย coverts เป็นไนอาซินรวมถึงสัตว์ปีก เนื้อแดง ไข่ และนมรูปแบบของวิตามิน B3 สามารถใช้ได้ในรูปแบบต่าง ๆเสริมหลายไนอะซินาไมด์ไนไอโนซิทอล hexaniacinate .ไนอาซินสามารถใช้ได้เป็นยาเม็ดหรือแคปซูล ทั้งแบบปกติและแบบตั้งเวลารุ่น เวลาปล่อยยาเม็ดและแคปซูลอาจมีลักษณะพิเศษด้านที่น้อยกว่าปกติไนอาซิน อย่างไรก็ตาม เวลาปล่อยรุ่นมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดความเสียหายตับ ไม่ว่าคุณจะใช้รูปแบบของไนอาซิน แพทย์แนะนำให้ตรวจการทำงานของตับเป็นระยะ ๆเมื่อใช้ในปริมาณที่สูง ( สูงกว่า 100 มิลลิกรัมต่อวัน ) ของไนอาซินวิธีที่จะใช้มันโดยทั่วไป ปริมาณสูงของไนอาซินจะใช้ในการควบคุมโรคที่เฉพาะเจาะจง ในปริมาณสูง เช่น ต้องกำหนดโดยแพทย์ที่จะเพิ่มปริมาณไนอาซินช้าๆ ผ่านหลักสูตรของ 4 ถึง 6 สัปดาห์ ใช้ไนอาซินกับอาหารเพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองกระเพาะอาหารข้อเสนอรายวันสำหรับไนอาซินในอาหารของบุคคลเพื่อสุขภาพ :กุมารเวชศาสตร์ทารกที่คลอดถึง 6 เดือน : 2 มิลลิกรัม ( ปริมาณที่เพียงพอ )ทารก 7 เดือนถึง 1 ปี : 4 มิลลิกรัม ( ปริมาณที่เพียงพอ )เด็ก 1 ปี : 6 มิลลิกรัม ( RDA )เด็ก , 4 ถึง 8 ปี : 8 มิลลิกรัม ( RDA )เด็ก 9 ปี 13 : 12 มิลลิกรัม ( RDA )เด็ก 14 ถึง 18 ปี 16 มก. ( RDA )สาว 14 ถึง 18 ปี 14 มิลลิกรัม ( RDA )ผู้ใหญ่ชาย 19 ปีและอายุ : 16 มก. ( RDA )ผู้หญิง , อายุ 19 ปีและอายุ : 14 มิลลิกรัม ( RDA )หญิงตั้งครรภ์ : 18 มก. ( RDA )หญิงเลี้ยงลูกด้วยนม : 17 มิลลิกรัม ( RDA )ข้อควรระวังเพราะศักยภาพสำหรับผลข้างเคียงและปฏิกิริยากับยา คุณควรใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ภายใต้การดูแลของผู้ให้บริการดูแลสุขภาพความรู้ ผลข้างเคียงที่อาจรวมถึงท้องเสีย ปวดหัว ไม่สบายท้อง ท้องอืดปริมาณสูง ( 50 มิลลิกรัม หรือมากกว่า ) ของไนอาซินสามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียง ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุด เรียกว่า " ไนอาซินล้าง , " ซึ่งเป็นการเขียนเหน็บ ความรู้สึกบนใบหน้าและหน้าอก และสีแดง หรือล้างผิว กินยาแอสไพริน 30 นาทีก่อนที่ไนอาซินจะช่วยลดอาการนี้ได้ที่ปริมาณสูงมาก ใช้เพื่อลดคอเลสเตอรอลและรักษาเงื่อนไขอื่น ๆ , ความเสียหายของตับและกระเพาะสามารถเกิดขึ้นได้ แพทย์จะหมั่นตรวจตับของคุณผ่านการทดสอบเลือดคนที่มีประวัติของโรคตับ