Financial risk protection is determ

Financial risk protection is determined by how funds are raised, and whether and how they are pooled to spread the risk across population groups. Direct user-charges, for example, are regressive, i.e. the rich pay the same fees as the poor, which deters some people from seeking or continuing care. The funds also do not provide financial risk protection, in that people pay when they are sick and do not pay when they are healthy. As a result of this lack of solidarity, some people incur financial hardships and may even be pushed below the poverty line. A f inancing policy must grapple with the question of how to raise funds equitably, which usually implies a degree of progressivity (where the rich contribute a higher proportion of their income than the poor). It also needs to consider how to ensure access to needed services while protecting people against the more severe financial consequences of paying for care. These goals cannot be achieved without some form of prepayment and the subsequent pooling of the collected revenues, i.e. people pay into a pool when they are healthy and can draw on these funds when they are sick. Pooled funds can be derived from tax or health insurance contributions and in most countries they come from a mix of sources. Indicators in this area need to capture the extent to which people are protected from the financial risks associated with ill health. It would also be valuable to measure the extent of progressivity in the way that prepaid funds for health (e.g. taxes and insurance premiums) are raised.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การป้องกันความเสี่ยงทางการเงินถูกกำหนด โดยวิธียกเงิน และ และวิธีที่พวกเขาถูกพูเพื่อกระจายความเสี่ยงในกลุ่มประชากร ค่าผู้ใช้โดยตรง เช่น ถอยหลัง เช่นรวยจ่ายค่าธรรมเนียมเดียวกันเป็นคนยากจน ที่ deters บางคนแสวงหา หรือการดูแลที่ต่อเนื่องกัน เงินยังให้การป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน ค่าจ้างคนที่เมื่อป่วย และไม่ต้องจ่ายเมื่อพวกเขามีสุขภาพดี เป็นผลมาจากขาดความเป็นปึกแผ่นนี้ บางคนเกิดความยากลำบากทางการเงิน และอาจแม้กระทั่งถูกผลักต่ำกว่าเส้นความยากจน F inancing นโยบายต้องต่อสู้กับคำถามของวิธีการระดมทุนอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งมักจะหมายถึงระดับของ progressivity (ที่รวยนำสัดส่วนที่สูงขึ้นของรายได้มากกว่าคนยากจน) จะต้องพิจารณาอย่างไรให้เข้าถึงบริการที่จำเป็นในขณะที่ปกป้องคนกับผลทางการเงินรุนแรงมากขึ้นของการจ่ายเงินสำหรับการดูแล เป้าหมายเหล่านี้ไม่สามารถทำได้ โดยรูปแบบของการชำระเงินล่วงหน้าและในเวลาต่อมารวมรายได้รวบรวม เช่นค่าจ้างคนลงสระเมื่อพวกเขามีสุขภาพดี และสามารถวาดบนเงินทุนเหล่านี้เมื่อพวกเขาป่วย กองทุน pooled ที่ได้มาจากเงินภาษีหรือประกันสุขภาพ และประเทศส่วนใหญ่ มาจากหลากหลายแหล่ง ตัวชี้วัดในพื้นที่นี้จำเป็นต้องจับขอบเขตที่มีป้องกันท่านจากความเสี่ยงทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ มันจะมีคุณค่าในการวัดขอบเขต progressivity ที่เงินกองทุนเพื่อสุขภาพ (เช่นภาษีและเบี้ยประกัน) จะยก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การป้องกันความเสี่ยงทางการเงินถูกกำหนดโดยวิธีการระดมทุนและไม่ว่าและวิธีการที่พวกเขาจะถูกรวบรวมเพื่อกระจายความเสี่ยงในกลุ่มประชากร ใช้ค่าใช้จ่ายโดยตรงเช่นมีถอยหลังคือคนรวยจ่ายค่าเช่นเดียวกับคนยากจนซึ่งสกัดกั้นบางคนจากการแสวงหาหรือการดูแลต่อเนื่อง เงินยังไม่ได้ให้การป้องกันความเสี่ยงทางการเงินในคนจ่ายว่าเ​​มื่อพวกเขากำลังป่วยและไม่ต้องจ่ายเมื่อพวกเขามีสุขภาพดี อันเป็นผลมาจากการขาดความเป็นปึกแผ่นนี้บางคนต้องเสียความยากลำบากทางการเงินและอาจจะมีการผลักดันที่ต่ำกว่าเส้นความยากจน นโยบาย F จัดหาเงินต้องต่อสู้กับคำถามของวิธีการระดมทุนอย่างเท่าเทียมกันซึ่งมักจะหมายถึงระดับของ progressivity A (ที่อุดมไปด้วยมีส่วนร่วมในสัดส่วนที่สูงขึ้นของรายได้ของพวกเขามากกว่าคนยากจน) นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาวิธีการที่จะให้สามารถเข้าถึงบริการที่จำเป็นในขณะที่ปกป้องคนกับผลกระทบทางการเงินที่รุนแรงมากขึ้นในการจ่ายเงินสำหรับการดูแล เป้าหมายเหล่านี้ไม่สามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้แบบฟอร์มการชำระเงินล่วงหน้าและร่วมกันตามมาของรายได้ที่เก็บรวบรวมบางคนเช่นจ่ายเงินเข้าสระว่ายน้ำเมื่อพวกเขามีสุขภาพดีและสามารถวาดบนเงินเหล่านี้เมื่อพวกเขาจะป่วย กองทุนสำรองจะได้รับจากภาษีหรือการประกันสุขภาพและการมีส่วนร่วมในประเทศส่วนใหญ่พวกเขามาจากการผสมผสานของแหล่งที่มา ตัวชี้วัดในพื้นที่นี้ต้องจับขอบเขตที่ผู้คนได้รับความคุ้มครองจากความเสี่ยงทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ นอกจากนี้ยังจะเป็นประโยชน์ในการวัดขอบเขตของ progressivity ในวิธีการที่เงินที่ชำระล่วงหน้าเพื่อสุขภาพ (เช่นภาษีและเบี้ยประกัน) ถูกยกสูงขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ป้องกันความเสี่ยงทางการเงินจะถูกกำหนดโดยวิธีการที่กองทุนฟื้นและว่าและวิธีการที่พวกเขาจะรวมเพื่อกระจายความเสี่ยงในกลุ่มประชากร ค่าธรรมเนียม ผู้ใช้โดยตรง ตัวอย่างเช่น จะถอยหลัง คือ คนรวยจ่ายค่าธรรมเนียมเหมือนคนจน ซึ่งซื้อบางคนแสวงหาหรือการดูแลอย่างต่อเนื่อง เงินยังไม่ได้ให้การป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน ที่คนจ่ายเมื่อพวกเขาป่วย และไม่ต้องจ่ายเมื่อพวกเขามีสุขภาพดี ผลของการขาดเอกภาพ บางคนต้องลำบากทางการเงิน และอาจถูกผลักด้านล่างเส้นความยากจน A F inancing นโยบายต้องเผชิญกับคำถามของวิธีการระดมทุนอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งมักจะหมายถึงระดับของความก้าวหน้า ( ที่อุดมไปด้วยประโยชน์สูงกว่าสัดส่วนของรายได้ของพวกเขามากกว่าคนจน ) นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาวิธีการให้เข้าถึงความต้องการการบริการในขณะที่ปกป้องประชาชนจากผลกระทบทางการเงินที่รุนแรงมากขึ้นของการจ่ายเงินสำหรับการดูแล เป้าหมายเหล่านี้จะเกิดขึ้นโดยไม่มีบางรูปแบบของการชำระเงินล่วงหน้าและต่อมารวมรวบรวมรายได้ เช่น คนจ่ายเข้าไปในสระว่ายน้ำเมื่อพวกเขามีสุขภาพดีและสามารถดึงเงินเหล่านี้เมื่อพวกเขาป่วย รวมเงินที่ได้มาจากภาษีอากรหรือเงินสมทบประกันสุขภาพในประเทศส่วนใหญ่มาจากส่วนผสมของแหล่งที่มา ตัวชี้วัดในพื้นที่นี้ต้องยึดขอบเขตที่ประชาชนได้รับการคุ้มครองจากความเสี่ยงทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพที่ไม่ดี มันก็จะมีค่าวัดระดับความก้าวหน้าในทางที่เติมเงินกองทุนเพื่อสุขภาพ ( เช่นภาษีและเบี้ยประกัน ) จะยก