At the coronation of William and Ma

At the coronation of William and Mary, a Declaration of Rights was read. This confirmed that the King would NI longer be able to raise taxes or administer justice without agreement from Parliament. The balance of power between monarch and Parliament had now permanently changed. The Bill of Rights, 1689, confirmed the right of Parliament and the limits of the king's power. Parliament took control of who could be monarch and declared that the king or queen must be a Protestant. A new Parliament had to be elected at least every three years (later this became seven years and now it is five years). Every year the monarch had to ask Parliament to renew funding for the army and the navy.
These changes meant that, to be able to govern effectively, the monarch needed to have advisers, or ministers, who would be able to ensure a majority of votes in the House of Commons and the House of Lords. There were two main groups in Parliament, known as the Whigs and the Tories. (The modern Conservative Party is still sometimes referred to as the Tories.) This was the beginning of party politics.
This was also an important time for the development of a free press (newspapers and other publications which are not controlled by the government). From 1695, newspapers were allowed to operate without a government license. Increasing numbers of newspapers began to be published.
The laws passed after the Glorious Revolution are the beginning of what is called 'constitutional monarchy'. The monarch remained very important but was no longer able to insist on particular policies or actions if Parliament did not agree. After William lll, the ministers gradually became more important than the monarch but this was not a democracy in the modern sense. The number of people who had the right to vote for members of Parliament was still very small. Only men who owned property of a certain value were able to vote. No women at all had the vote. Some constituencies were controlled by a single wealthy family. These were called 'pocket boroughs'. Other constituencies had hardly any voters and were called 'rotten boroughs'.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในวันฉัตรมงคลของ William และแมรี่ ถูกอ่านปฏิญญาว่าด้วยสิทธิ นี้ได้รับการยืนยันว่า กษัตริย์ NI อีกต่อไปจะต้องเพิ่มภาษี หรือดูแลความยุติธรรม โดยไม่มีข้อตกลงจากรัฐสภา สมดุลของพลังงานระหว่างพระมหากษัตริย์และรัฐสภาได้ขณะนี้เปลี่ยนแปลงอย่างถาวร รายการของสิทธิ ค.ศ. 1689 ยืนยันสิทธิของรัฐสภาและการจำกัดอำนาจของพระมหากษัตริย์ รัฐสภาใช้ควบคุมที่อาจเป็นพระมหากษัตริย์ และประกาศว่า คิงหรือควีนต้องเป็น Protestant รัฐสภาใหม่ได้รับเลือกอย่างน้อยทุก 3 ปี (ภายหลังนี้กลายเป็น 7 ปี และตอนนี้ ก็ห้าปี) ทุกปีพระมหากษัตริย์ที่มีขอรัฐสภาอายุทุนกองทัพบกและกองทัพเรือเปลี่ยนแปลงเหล่านี้หมายถึง ที่ เพื่อให้สามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ พระมหากษัตริย์ต้องมีประการ รัฐมนตรี ผู้ที่จะให้แน่ใจว่าส่วนใหญ่ของโหวดในสภาและในสภาขุนนาง มี 2 กลุ่มหลักในรัฐสภา เป็น Tories และ Whigs (พรรคอนุรักษนิยมสมัยใหม่บางครั้งยังเรียกว่า Tories) นี่คือจุดเริ่มต้นของพรรคการเมืองนี้ยังเป็นเวลาสำคัญสำหรับการพัฒนาข่าวฟรี (หนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์อื่น ๆ ที่ไม่ได้ถูกควบคุม โดยรัฐบาล) จาก 1695 หนังสือพิมพ์ได้รับอนุญาตให้ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตของรัฐบาล เพิ่มจำนวนหนังสือพิมพ์เริ่มถูกเผยแพร่กฎหมายผ่านไปหลังจากการปฏิวัติที่รุ่งโรจน์เป็นต้นที่เรียกว่า "ระบอบรัฐธรรมนูญ' พระมหากษัตริย์จะยังคงสำคัญมาก แต่ก็ไม่สามารถที่จะยืนยันในนโยบายใดหรือการดำเนินการหากรัฐสภาไม่เห็น หลังจาก William lll รัฐมนตรีค่อย ๆ เป็นสำคัญมากกว่าทุกข์ แต่นี้ไม่ใช่ประชาธิปไตยในความรู้สึกทันสมัย จำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงให้สมาชิกสภาผู้แทนยังเล็กมาก คนที่เป็นเจ้าของคุณสมบัติของค่ากำหนดสามารถลงได้ ผู้หญิงไม่ได้ลงคะแนนทั้งหมด บางชุมชนถูกควบคุม โดยครอบครัวรวยเดียว เหล่านี้ถูกเรียกว่า 'กระเป๋า boroughs" ชุมชนต่าง ๆ มีผู้ลงคะแนนยัง และถูกเรียกว่า 'rotten boroughs"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในพิธีบรมราชาภิเษกของวิลเลียมและแมรี่, ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนได้อ่าน นี้ยืนยันว่าพระมหากษัตริย์จะ NI สามารถที่จะขึ้นภาษีหรือความยุติธรรมโดยไม่มีข้อตกลงจากรัฐสภา ความสมดุลของอำนาจระหว่างพระมหากษัตริย์และรัฐสภาในขณะนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวร บิลสิทธิ 1689 ได้รับการยืนยันขวาของรัฐสภาและข้อ จำกัด ของอำนาจของกษัตริย์ รัฐสภาเอาการควบคุมของผู้ที่จะเป็นพระมหากษัตริย์และประกาศว่ากษัตริย์หรือพระราชินีจะต้องเป็นโปรเตสแตนต์ รัฐสภาใหม่จะต้องได้รับการเลือกตั้งอย่างน้อยทุกสามปี (ต่อมากลายเป็นเจ็ดปีและตอนนี้ก็เป็นเวลาห้าปี) ทุกปีพระมหากษัตริย์ต้องถามรัฐสภาที่จะต่ออายุเงินทุนสำหรับการทหารและกองทัพเรือ.
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้หมายความว่าจะสามารถที่จะควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ, พระมหากษัตริย์จำเป็นต้องมีที่ปรึกษาหรือรัฐมนตรีที่จะสามารถที่จะให้แน่ใจว่าเสียงข้างมาก ในสภาและสภาขุนนาง มีสองกลุ่มหลักในรัฐสภาเป็นที่รู้จักและวิกส์ดังสนั่น (พรรคอนุรักษ์นิยมที่ทันสมัยยังคงบางครั้งเรียกว่าดังสนั่น.) นี่คือจุดเริ่มต้นของพรรคการเมือง.
นี่ก็เป็นเวลาที่สำคัญสำหรับการพัฒนาของฟรีกด (หนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์อื่น ๆ ที่ไม่ได้ถูกควบคุมโดยรัฐบาล) 1695 จากหนังสือพิมพ์ได้รับอนุญาตให้ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตของรัฐบาล ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของหนังสือพิมพ์เริ่มที่จะได้รับการเผยแพร่.
ผ่านกฎหมายหลังการปฏิวัติอันรุ่งโรจน์เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่เรียกว่า 'ระบอบรัฐธรรมนูญ' พระมหากษัตริย์ยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่ก็ไม่สามารถที่จะยืนยันในนโยบายหรือการกระทำโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ารัฐสภาไม่เห็นด้วย หลังจากที่วิลเลียม lll รัฐมนตรีค่อย ๆ กลายเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าพระมหากษัตริย์ แต่ตอนนี้ไม่เป็นประชาธิปไตยในความรู้สึกที่ทันสมัย จำนวนของผู้ที่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนสำหรับสมาชิกของรัฐสภาก็ยังมีขนาดเล็กมาก เฉพาะคนที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินของค่าบางอย่างก็สามารถที่จะออกเสียงลงคะแนน ผู้หญิงที่ทุกคนไม่ได้มีการลงคะแนนเสียง การเลือกตั้งบางคนถูกควบคุมโดยครอบครัวที่ร่ำรวยเดียว เหล่านี้ถูกเรียกว่า 'กระเป๋าเมือง' หน่วยงานอื่น ๆ แทบจะไม่ได้มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งและถูกเรียกว่า 'เมืองเน่า'

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในพิธีราชาภิเษกของวิลเลียมและแมรี่ คำประกาศสิทธิได้อ่าน นี้ยืนยันว่ากษัตริย์จะผมยาวสามารถที่จะเพิ่มภาษีหรือให้ความยุติธรรมโดยไม่มีข้อตกลงจากรัฐสภา ความสมดุลของอำนาจระหว่างพระมหากษัตริย์และรัฐสภาได้อย่างถาวร เปลี่ยนไป บิลสิทธิ , 615 , ยืนยันสิทธิของรัฐสภาและจำกัดพระราชอำนาจของกษัตริย์รัฐสภาควบคุมที่สามารถเป็นกษัตริย์และประกาศว่ากษัตริย์หรือราชินีต้องเป็นโปรเตสแตนต์ . รัฐสภาใหม่จะต้องเลือกอย่างน้อยทุกสามปี ( ต่อมาเป็นเจ็ดปีและตอนนี้มันเป็นห้าปี ) ทุก ๆ ปี พระมหากษัตริย์ต้องขอให้รัฐสภาต่ออายุทุนกองทัพบกและกองทัพเรือ
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้หมายความว่า สามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพพระมหากษัตริย์ต้องมีที่ปรึกษา หรือรัฐมนตรี ใครจะสามารถมั่นใจได้คะแนนเสียงข้างมากในสภา และที่บ้านของลอร์ด มีอยู่สองกลุ่มหลักในรัฐสภา เรียกว่าพรรควิกและดังสนั่น . ( พรรคอนุรักษ์นิยมสมัยใหม่ยังบางครั้งเรียกว่าดังสนั่น ) นี้คือจุดเริ่มต้นของพรรคการเมือง
นี้ยังเป็นเวลาที่สำคัญสำหรับการพัฒนาฟรีข่าว ( หนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์อื่น ๆที่ไม่ได้ถูกควบคุมโดยรัฐบาล ) จาก 1695 , หนังสือพิมพ์ได้รับอนุญาตให้ใช้งานโดยไม่ต้องมีรัฐบาลอนุญาต ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของหนังสือพิมพ์เริ่มถูกเผยแพร่ .
กฎหมายผ่านหลังจากการปฏิวัติเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่เรียกว่า " ระบอบรัฐธรรมนูญ "พระมหากษัตริย์ยังคงสำคัญมาก แต่ยังไม่สามารถยืนยันในนโยบายที่เฉพาะเจาะจงหรือการกระทำ ถ้ารัฐสภาไม่เห็นด้วย หลังจากที่วิลเลียม lll รัฐมนตรีค่อยๆกลายเป็นสำคัญมากกว่าพระมหากษัตริย์ แต่นี้ไม่ได้เป็นประชาธิปไตยในความหมายสมัยใหม่ จำนวนประชาชนที่มีสิทธิลงคะแนนให้สมาชิกของรัฐสภาก็ยังคงมีขนาดเล็กมากผู้ชายที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินของค่าบางอย่างสามารถที่จะโหวต ไม่มีผู้หญิงที่ทุกคนได้โหวต บางองค์กรเดียวที่ร่ำรวย ถูกควบคุมโดยครอบครัว เหล่านี้ถูกเรียกว่า ' กระเป๋าเมือง ' องค์กรอื่น ๆ มีแทบทุก ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และถูกเรียกว่า ' ไอ้เมือง '