What are the symptoms of colon canc

What are the symptoms of colon cancer?

Colon cancer affects the stomach and bowels. Common symptoms include diarrhea or constipation, blood in the stool, vomiting, bloating, cramps, and unexplained weight loss.
How do doctors diagnose colon cancer?
Even before a patient shows symptoms of colon cancer, his or her doctor can screen for the disease using one of several tests:
• Fecal Occult Blood Test (FOBT) - Colon cancer can sometimes cause tiny dots of blood, too small for the eye to see, in the feces. The FOBT test uses a chemical to check the patient's stool sample for these traces of blood.
• Flexible-Sigmoidoscopy - Using a thin flexible tube called a simoidoscope, the doctor looks inside the patient's colon for growths called polyps.
• Double Contrast Barium Enema (DCBA) - A silvery-white metallic substance called barium is inserted into the patient's colon through the rectum. The barium outlines the patient's colon on an x-ray screen.
• Colonoscopy - Using a thin instrument called a colonoscope, the doctor looks inside the patient's colon. During the procedure, the doctor removes pieces of tissue (called a biopsy) to test them for cancer. If the doctor finds any polyps, he or she can also remove them. A newer method, called virtual colonoscopy, looks at the colon without going into the body, with an MRI or CT scan.
• DNA-Based stool test - This test examines DNA taken from a patient's stool sample to look for genetic defects associated with colon cancer.
How is colon cancer treated?
Colon cancer is very treatable. In fact, about 90 percent of patients survive the disease after treatment. First, doctors stage the disease to see how far it has progressed. If the cancer has not spread to other tissues of the body, it can be treated with chemicals (chemotherapy) or radiation (powerful x-rays) to kill all rapidly dividing cells in the body, including cancer cells or surgery to remove the polyps and/or cancerous part of the colon
Interesting facts about colon cancer
People who have FAP can develop hundreds and even thousands of polyps, whereas people with HNPCC develop relatively few.
The progression from a benign to a malignant cancer typically requires multiple mutations that allow cells to acquire new and abnormal characteristics, such as an increased growth rate, inability to adhere or stick to neighboring cells, and propensity to migrate to other places in the body. At least seven mutations are required to produce a malignant colon tumor.
Inherited cancers often provide clues about the genes mutated in noninherited (sporadic) cancers. For example, mutations in the APC gene are found not only in FAP tumors but in 85% of all sporadic colon tumors as well

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่คืออะไร มะเร็งลำไส้ใหญ่มีผลต่อกระเพาะอาหารและลำไส้ อาการที่พบบ่อยได้แก่โรคอุจจาระร่วง หรือท้องผูก เลือดในอุจจาระ อาเจียน ท้องอืด ปวด และสูญเสียน้ำหนักที่ไม่คาดหมายของวิธีแพทย์วินิจฉัยมะเร็งลำไส้ใหญ่ก่อนที่ผู้ป่วยแสดงอาการของโรคมะเร็งลำไส้ หมอของเขา หรือเธอสามารถหน้าจอสำหรับโรคที่ใช้ทดสอบหลายอย่างใดอย่างหนึ่ง:•อุจจาระไสยตรวจเลือด (FOBT) - มะเร็งลำไส้ใหญ่บางครั้งอาจทำให้เกิดจุดเล็ก ๆ ที่เล็กเกินไปสำหรับตาเห็น ในอุจจาระ เลือด การทดสอบ FOBT ใช้เป็นสารเคมีเพื่อตรวจสอบตัวอย่างอุจจาระของผู้ป่วยสำหรับร่องรอยของเลือดเหล่านี้•ยืดหยุ่น-Sigmoidoscopy - ใช้หลอดมีความยืดหยุ่นบางที่เรียกว่าเป็น simoidoscope หมอดูภายในลำไส้ของผู้ป่วยสำหรับการเจริญเติบโต เรียกว่าติ่ง•เตียงใหญ่คมชัดแบเรียมยาสวนทวารหนัก (DCBA) - สีเงิน-ขาวสารโลหะที่เรียกว่าแบเรียมถูกแทรกลงในลำไส้ของผู้ป่วยผ่านทางทวารหนัก แบเรียมแสดงลำไส้ใหญ่ของผู้ป่วยบนหน้าจอเอ็กซเรย์• Colonoscopy - ใช้เครื่องมือบางที่เรียกว่า colonoscope หมอดูภายในลำไส้ของผู้ป่วย ในระหว่างกระบวนการ คุณหมอเอาชิ้นส่วนของเนื้อเยื่อ (เรียกว่าการตรวจชิ้นเนื้อ) เพื่อทดสอบพวกเขาสำหรับโรคมะเร็ง หากคุณหมอพบติ่งใด ๆ เขาหรือเธอยังอีกไป วิธีที่ใหม่กว่า เรียกว่า colonoscopy เสมือน มองไปที่ลำไส้ใหญ่โดยไม่ต้องเข้าไปในร่างกาย ด้วย MRI หรือ CT scan•ดีเอ็นเอตามสตูลทดสอบ - ทดสอบนี้ตรวจสอบดีเอ็นเอที่นำมาจากตัวอย่างอุจจาระของผู้ป่วยเพื่อค้นหาข้อบกพร่องทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งลำไส้ใหญ่มะเร็งลำไส้ถือว่าอย่างไรมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นมากรักษา ในความเป็นจริง รอดประมาณร้อยละ 90 ของผู้ป่วยโรคหลังการรักษา ครั้งแรก แพทย์ระยะโรคเพื่อดูว่ามันก้าวหน้า ถ้ามะเร็งลุกลามขึ้นกับเนื้อเยื่ออื่น ๆ ของร่างกาย มันสามารถรักษาได้ ด้วยสารเคมี (เคมีบำบัด) หรือรังสี (รังสีเอกซ์มีประสิทธิภาพ) เพื่อฆ่าเซลล์ที่แบ่งอย่างรวดเร็วทั้งหมดในร่างกาย รวมทั้งเซลล์มะเร็งหรือการผ่าตัดเอาติ่งหรือส่วนที่เป็นมะเร็งของลำไส้ใหญ่ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับมะเร็งลำไส้ใหญ่คนที่มีวิชาชีพบัญชีสามารถพัฒนาหลายร้อยและหลายพันของ polyps ในขณะที่คนที่ มี HNPCC พัฒนาค่อนข้างน้อยความก้าวหน้าจากความอ่อนโยนจะงอกโดยทั่วไปต้องการกลายพันธุ์หลายที่ช่วยให้เซลล์รับใหม่ และผิดปกติลักษณะ เช่นมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น ไม่ยึดมั่น หรือยึดติดกับเซลล์ข้างเคียง และนิสัยชอบการโยกย้ายไปยังสถานอื่น ๆ ในร่างกาย พันธุ์น้อยเจ็ดจะต้องผลิตเนื้องอกมะเร็งลำไส้ใหญ่สืบทอดมะเร็งมักจะให้เบาะแสเกี่ยวกับยีนที่กลายพันธุ์ในมะเร็ง noninherited (ประปราย) เช่น พบการกลายพันธุ์ในยีน APC ไม่เพียงแต่ ในเนื้องอกสภา แต่ 85% ของทั้งหมดประปรายลำไส้เนื้องอกเช่นกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สิ่งที่มีอาการของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่?

มะเร็งลำไส้ใหญ่มีผลต่อกระเพาะอาหารและลำไส้ อาการที่พบบ่อย ได้แก่ โรคท้องร่วงหรือท้องผูกเลือดในอุจจาระอาเจียนท้องอืดปวดและการสูญเสียน้ำหนักไม่ได้อธิบาย.
ทำอย่างไรให้แพทย์วินิจฉัยมะเร็งลำไส้ใหญ่?
แม้กระทั่งก่อนที่ผู้ป่วยจะแสดงอาการของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ของเขาหรือแพทย์ของเธอสามารถคัดกรองโรคโดยใช้ หนึ่งในหลาย ๆ การทดสอบ:
การตรวจเลือด•อุจจาระไสย (FOBT) - มะเร็งลำไส้ใหญ่บางครั้งอาจทำให้เกิดจุดเล็ก ๆ ของเลือดขนาดเล็กเกินไปสำหรับตาที่จะเห็นในอุจจาระ การทดสอบ FOBT ใช้สารเคมีในการตรวจสอบตัวอย่างอุจจาระของผู้ป่วยร่องรอยเหล่านี้เลือด.
•มีความยืดหยุ่น sigmoidoscopy. - ใช้หลอดมีความยืดหยุ่นบางเรียกว่า simoidoscope แพทย์ที่มีลักษณะภายในลำไส้ใหญ่ของผู้ป่วยสำหรับการเจริญเติบโตที่เรียกว่าติ่ง
•คมชัดดับเบิลแบเรียมทวารหนัก ( DCBA) - สารโลหะสีเงินสีขาวที่เรียกว่าแบเรียมถูกแทรกเข้าไปในลำไส้ใหญ่ของผู้ป่วยผ่านทางทวารหนัก แบเรียมแสดงลำไส้ใหญ่ของผู้ป่วยบนหน้าจอ X-ray.
• Colonoscopy - การใช้เครื่องมือที่เรียกว่าบาง colonoscope แพทย์ที่มีลักษณะภายในลำไส้ใหญ่ของผู้ป่วย ในระหว่างขั้นตอนหมอเอาชิ้นส่วนของเนื้อเยื่อ (เรียกว่าการตรวจชิ้นเนื้อ) เพื่อทดสอบพวกเขาสำหรับโรคมะเร็ง หากแพทย์พบติ่งใด ๆ ที่เขาหรือเธอยังสามารถลบออก วิธีการใหม่ที่เรียกว่า colonoscopy เสมือนมีลักษณะที่ลำไส้ใหญ่โดยไม่ต้องไปเข้าสู่ร่างกายโดยมี MRI หรือ CT scan.
•ทดสอบอุจจาระดีเอ็นเอ - การทดสอบนี้จะตรวจสอบดีเอ็นเอที่นำมาจากอุจจาระของผู้ป่วยที่จะมองหาข้อบกพร่องทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับลำไส้ใหญ่ ราศีกรกฎ.
เป็นวิธีการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่?
มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็น treatable มาก ในความเป็นจริงประมาณร้อยละ 90 ของผู้ป่วยโรคความอยู่รอดหลังการรักษา ครั้งแรกแพทย์ระยะของโรคเพื่อดูว่าจนถึงขณะนี้ก็มีความก้าวหน้า ถ้ามะเร็งยังไม่ได้แพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่ออื่น ๆ ของร่างกายก็สามารถรับการรักษาด้วยสารเคมี (ยาเคมีบำบัด) หรือการฉายรังสี (ที่มีประสิทธิภาพ x-ray) เพื่อฆ่าเซลล์อย่างรวดเร็วหารทั้งหมดในร่างกายรวมทั้งเซลล์มะเร็งหรือผ่าตัดเอาติ่งและ / หรือบางส่วนมะเร็งของลำไส้ใหญ่
ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
คนที่มีสภาวิชาชีพบัญชีสามารถพัฒนาร้อยและพันของติ่งในขณะที่คนที่มี HNPCC พัฒนาค่อนข้างน้อย.
ความก้าวหน้าจากพิษเป็นภัยกับโรคมะเร็งร้ายมักจะต้องกลายพันธุ์หลายตัวที่ช่วยให้เซลล์ ได้รับลักษณะใหม่และที่ผิดปกติเช่นมีอัตราการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นไม่สามารถที่จะปฏิบัติตามหรือติดกับเซลล์ข้างเคียงและความโน้มเอียงที่จะโยกย้ายไปยังสถานที่อื่น ๆ ในร่างกาย อย่างน้อยเจ็ดกลายพันธุ์จะต้องก่อให้เกิดเนื้องอกในลำไส้ใหญ่มะเร็ง.
สืบทอดโรคมะเร็งมักจะให้เบาะแสเกี่ยวกับยีนกลายพันธุ์ใน noninherited การเกิดโรคมะเร็ง (ประปราย) ยกตัวอย่างเช่นการกลายพันธุ์ในยีน APC จะพบว่าไม่เพียง แต่ในเนื้องอกที่สภาวิชาชีพบัญชี แต่ 85% ของเนื้องอกลำไส้ใหญ่เป็นระยะ ๆ เช่นกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อะไรคืออาการของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ?มะเร็งลําไส้ใหญ่ มีผลต่อกระเพาะอาหารและลำไส้ . อาการที่พบบ่อย ได้แก่ โรคท้องร่วงหรือท้องผูก เลือดในอุจจาระ อาเจียน ท้องอืด ปวดท้อง และการสูญเสียน้ำหนักไม่ได้อธิบาย .ทำไมแพทย์วินิจฉัยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ?ก่อนที่ผู้ป่วยจะแสดงอาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่ หมอของเขาหรือเธอสามารถคัดกรองโรคโดยใช้หนึ่งในการทดสอบหลาย- ถ่ายอุจจาระมีเลือด ( fobt ) มะเร็งลําไส้ใหญ่ บางครั้งสามารถทำให้เกิดจุดเล็ก ๆของเลือด เล็กเกินไปสำหรับสายตาเห็นในอุจจาระ การ fobt ทดสอบใช้เคมีเพื่อตรวจสอบตัวอย่างอุจจาระของผู้ป่วยเหล่านี้ร่องรอยของเลือด- มีความยืดหยุ่นซิกมอยโดสโคป - ใช้บางยางยืดหยุ่นเรียกว่า simoidoscope หมอดูภายในลำไส้ของผู้ป่วยสำหรับการเจริญเติบโตที่เรียกว่า polyps .แต่ละคู่ตรงกันข้ามความเชื่อปรัมปรา ( dcba ) - สีขาวเงินโลหะ สารที่เรียกว่าแบเรียมแทรกเข้าไปในลําไส้ใหญ่ของผู้ป่วยผ่านทางทวารหนัก แบเรียม ร่างของผู้ป่วยลำไส้ใหญ่ในทะลุจอcolonoscopy - - ใช้บางเครื่องมือที่เรียกว่าโคโลโนสโคป หมอดูภายในลำไส้ของผู้ป่วย ในระหว่างขั้นตอนที่หมอเอาชิ้นเนื้อเยื่อ ( เรียกว่า biopsy ) เพื่อทดสอบพวกเขาสำหรับโรคมะเร็ง ถ้าแพทย์พบว่ามีติ่งเนื้อ เขาหรือเธอยังสามารถลบออก วิธีใหม่ที่เรียกว่า Virtual colonoscopy ดูลําไส้ใหญ่โดยไม่ต้องเข้าสู่ร่างกาย ด้วย MRI หรือ CT สแกน- ทดสอบ - ทดสอบดีเอ็นเอจากแป้นนี้ตรวจสอบดีเอ็นเอจากตัวอย่างอุจจาระของผู้ป่วยเพื่อค้นหาข้อบกพร่องทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งลําไส้ใหญ่วิธีการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ ?มะเร็งลำไส้ใหญ่รักษามาก . ในความเป็นจริงประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยอยู่รอดโรคหลังการรักษา ขั้นตอนแรก แพทย์ โรค เพื่อดูว่ามันเริ่มเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้ามะเร็งยังไม่แพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่ออื่นๆ ของร่างกาย มันสามารถรักษาได้ด้วยสารเคมี ( ยาเคมีบำบัดหรือการฉายรังสี ( X-ray ) มีประสิทธิภาพ ) เพื่อฆ่าอย่างรวดเร็ว การแบ่งเซลล์ในร่างกาย รวมทั้งเซลล์มะเร็ง หรือผ่าตัดเอาติ่งเนื้อและ / หรือมะเร็งของลำไส้ใหญ่ส่วนข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ผู้ที่มีสภาวิชาชีพบัญชีสามารถพัฒนาหลายร้อยและพันของ polyps ในขณะที่คนที่มีเลือดพัฒนาค่อนข้างน้อยครับการก้าวหน้าจากเนื้องอกกับมะเร็งมะเร็งโดยปกติจะต้องสร้างหลายที่ให้เซลล์ที่จะได้รับลักษณะใหม่และผิดปกติ เช่น การเพิ่มอัตราการเติบโต ไม่ยึดติดหรือติดเซลล์เพื่อนบ้าน และความโน้มเอียงที่จะโยกย้ายไปยังสถานที่อื่น ๆในร่างกาย อย่างน้อยเจ็ดการกลายพันธุ์จะต้องผลิตเนื้องอกลำไส้ใหญ่เนื้อร้ายถ่ายทอดโรคมะเร็งมักจะให้เบาะแสเกี่ยวกับยีนกลายพันธุ์ใน noninherited ( เป็นระยะ ) มะเร็ง ตัวอย่างเช่นการกลายพันธุ์ในยีน APC จะพบไม่เพียง แต่ในเนื้องอก fap แต่ 85% ของทั้งหมดกระจัดกระจายลำไส้ใหญ่เนื้องอกเช่นกัน