3.4. Genetic selection and agronomi

3.4. Genetic selection and agronomic conditions
Upstream, at the agronomic and genetic levels, several issues
also need to be addressed. It seems promising to attempt the
following:
1) To encourage the diversity of wheat varieties or cereal species
(ancient and/or pseudo-cereal grains) to benefit from the
greatest possible diversity of microconstituents and bioactive
compounds rather than to focus on a single grain component. Is
the introduction of new varieties and/or species (sorghum,
quinoa, millet and others) economically and agronomically
viable?
2) To screen varieties to seek those that have the best balance of
the largest number of bioactive compounds (e.g., via metabolomics
(Shewry et al., 2013). For example, regarding antioxidants,
focussing on only one antioxidant has little meaning
because more than 30 compounds in whole grains have antioxidant
activities: their synergistic action may be effective, not
the action of a single compound (Fardet, 2010; Thompson et al.,
2006). This concept holds true for all of the other compounds
with a given physiological effect, such as lipotropes, lipidlowering
compounds, anti-carcinogens, and anti-inflammatory
compounds. Thus, rather than focussing on improving the
content of a single component, genetic-selection research could
focus on ‘packages’ of compounds, such as antioxidants, lipotropes
or anti-inflammatory compounds, to develop varieties
with high antioxidant or lipotropic potential,
3) To measure the impact of organic agriculture on the health
potential of grain products via a prospective cohort study
(organic vs conventional cereal products), even though this type
of study is very difficult and expensive to conduct. Notably,
however, the products of organic agriculture do not appear to
have a better nutritional composition than those produced using
conventional agriculture, as was generally shown for crops
(Dangour et al., 2009, 2010) or more specifically, for maize
(R€ohlig and Engel, 2010) or wheat (Nitika et al., 2008) using the
identical grinding mode (Chaurand et al., 2006), although the
level of antioxidants and some mineral compounds might be
generally higher in some plant products (Lairon, 2010). However,
in vitro measurements of the levels of nutrients cannot
alone predict their nutritional effects in humans. Nevertheless,
the robustly demonstrated added value of organically grown

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3.4 การเลือกพันธุกรรมและลักษณะทางสภาพขั้นต้นน้ำ ในทางพันธุกรรม และลักษณะทางพืชไร่ระดับ ปัญหาหลายนอกจากนี้ยัง จำเป็นต้องได้รับการ เหมือนสัญญาพยายามต่อไปนี้:1) ส่งเสริมความหลากหลายของสายพันธุ์ข้าวสาลีหรือธัญพืชชนิด(โบราณ หรือ pseudo-cereal ธัญพืช) ได้ประโยชน์จากการความหลากหลายที่เป็นไปได้มากที่สุด ของ microconstituents และกรรมการกสารประกอบค่อนข้างมากกว่าการเน้นส่วนประกอบเมล็ดเดียว เป็นแนะนำสายพันธุ์ใหม่หรือพันธุ์ (ข้าวฟ่างquinoa ฟ่าง และอื่น ๆ) กาญจน์ และ agronomicallyทำงานได้หรือไม่2) กับพันธุ์หน้าจอเพื่อค้นหาผู้ที่มียอดดุลดีที่สุดของจำนวนสารประกอบกรรมการก (เช่น ผ่าน metabolomics(Shewry et al., 2013) ตัวอย่าง เกี่ยวกับสารต้านอนุมูลอิสระfocussing ในสารต้านอนุมูลอิสระที่เดียวมีความหมายน้อยเนื่องจาก 30 กว่าสารประกอบในธัญพืช มีสารต้านอนุมูลอิสระกิจกรรม: การกระทำของพลังอาจไม่มีประสิทธิภาพการกระทำของสารประกอบเดี่ยว (Fardet, 2010 ทอมป์สัน et al.,2006) แนวคิดนี้มีจริงทั้งหมดของสารประกอบอื่น ๆมีการกำหนดสรีรวิทยาผล เช่น lipotropes, lipidloweringสาร ต่อต้านสารก่อมะเร็ง และต้านการอักเสบสารประกอบ ดังนั้น แทน focussing ในการปรับปรุงการเนื้อหาของส่วนประกอบเดียว วิจัยเลือกทางพันธุกรรมได้เน้น 'แพคเกจ' สาร เช่นสารต้านอนุมูลอิสระ lipotropesสารแก้อักเสบ การพัฒนาพันธุ์มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงหรือศักยภาพ lipotropic3) การประเมินผลกระทบของเกษตรอินทรีย์กับสุขภาพศักยภาพของผลิตภัณฑ์ข้าวผ่านการศึกษา cohort ที่คาดหวัง(เทียบกับอินทรีย์ผลิตภัณฑ์ธัญพืชทั่วไป), แม้ว่าชนิดนี้การศึกษาเป็นเรื่องยาก และมีราคาแพงทำ ยวดอย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ของเกษตรอินทรีย์ไม่ปรากฏมีเขียนการโภชนาการกว่าผลิตโดยใช้ทั่วไปเกษตร โดยทั่วไปถูกแสดงสำหรับพืช(Dangour et al. ปี 2009, 2010) หรืออื่น ๆ โดยเฉพาะ ข้าวโพด(R€ ohlig และ Engel, 2010) หรือข้าวสาลี (Nitika et al., 2008) โดยใช้การเหมือนกันคัฟโหมด (Chaurand และ al., 2006), แม้ว่าการระดับของสารต้านอนุมูลอิสระและสารแร่บางอย่างอาจโดยทั่วไปสูงขึ้นในบางผลิตภัณฑ์พืช (Lairon, 2010) อย่างไรก็ตามระดับของสารอาหารในวัดไม่คนเดียวทำนายลักษณะของโภชนาการในมนุษย์ อย่างไรก็ตามสาธิตอย่างทนทานเพิ่มค่าเติบโต organically

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3.4 ตัวเลือกทางพันธุกรรมและสภาพทางการเกษตร
ขั้นต้นที่ระดับทางการเกษตรและทางพันธุกรรมหลายประเด็นที่
ยังต้องได้รับการแก้ไข ดูเหมือนว่ามีแนวโน้มที่จะพยายาม
ต่อไปนี้:
1) เพื่อส่งเสริมความหลากหลายของพันธุ์ข้าวสาลีหรือสายพันธุ์ธัญพืช
(โบราณและ / หรือธัญพืชหลอกธัญพืช) จะได้รับประโยชน์จาก
ความหลากหลายที่เป็นไปได้มากที่สุดของ microconstituents ออกฤทธิ์ทางชีวภาพและ
สารมากกว่าที่จะมุ่งเน้นไปที่เม็ดเดียว องค์ประกอบ เป็น
การนำพันธุ์ใหม่และ / หรือสปีชีส์ (ข้าวฟ่าง
quinoa, ข้าวฟ่างและอื่น ๆ ) เศรษฐกิจและ agronomically
ทำงานได้?
2) พิจารณากลั่นกรองพันธุ์เพื่อหาผู้ที่มีสมดุลที่ดีที่สุดของ
จำนวนมากที่สุดของสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ (เช่นผ่าน metabolomics
( .. Shewry, et al, 2013) ตัวอย่างเช่นเกี่ยวกับสารต้านอนุมูลอิสระ
มุ่งเน้นเพียงหนึ่งสารต้านอนุมูลอิสระที่มีความหมายเล็ก ๆ น้อย ๆ
เพราะกว่า 30 สารประกอบในธัญพืชมีสารต้านอนุมูลอิสระ
กิจกรรม: การกระทำของพวกเขาทำงานร่วมกันอาจจะมีประสิทธิภาพไม่
การกระทำของสารประกอบเดียว (Fardet 2010; ธ อมป์สัน, et al.
2006) แนวคิดนี้ถือเป็นจริงสำหรับทุกสารประกอบอื่น ๆ .
ที่มีผลทางสรีรวิทยาที่กำหนดเช่น lipotropes, lipidlowering
สารต่อต้านสารก่อมะเร็งและต้านการอักเสบ
สารดังนั้นแทนที่จะมุ่งเน้น. การปรับปรุง
เนื้อหาขององค์ประกอบเดียว, การวิจัยทางพันธุกรรมที่เลือกจะ
มุ่งเน้นไปที่ 'แพคเกจ' ของสารเช่นสารต้านอนุมูลอิสระ lipotropes
หรือสารต้านการอักเสบ, การพัฒนาสายพันธุ์
ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงหรือที่มีศักยภาพ lipotropic,
3) เพื่อประเมินผลกระทบของสารอินทรีย์ การเกษตรที่มีต่อสุขภาพ
ที่มีศักยภาพของผลิตภัณฑ์จากธัญพืชผ่านการศึกษาการศึกษาในอนาคต
(อินทรีย์ vs ผลิตภัณฑ์จากธัญพืชธรรมดา) ถึงแม้ว่าประเภทนี้
ของการศึกษาเป็นเรื่องยากมากและมีราคาแพงในการดำเนินการ ยวด
แต่ผลิตภัณฑ์ของเกษตรอินทรีย์จะไม่ปรากฏ
มีองค์ประกอบทางโภชนาการที่ดีกว่าผู้ผลิตโดยใช้
การเกษตรแบบเดิมตามที่ได้แสดงให้เห็นโดยทั่วไปสำหรับพืช
(Dangour et al., 2009, 2010) หรือมากขึ้นโดยเฉพาะสำหรับข้าวโพด
(R € Ohlig และ Engel, 2010) หรือข้าวสาลี (Nitika et al., 2008) โดยใช้
โหมดบดเหมือนกัน (Chaurand et al., 2006) แม้ว่า
ระดับของสารต้านอนุมูลอิสระและสารบางอย่างอาจจะมีแร่ธาตุที่
มักจะสูงในผลิตภัณฑ์พืชบางชนิด (Lairon, 2010) อย่างไรก็ตาม
ในหลอดทดลองการวัดระดับของสารอาหารที่ไม่สามารถ
อยู่คนเดียวทำนายผลกระทบทางโภชนาการของพวกเขาในมนุษย์ แต่
แสดงให้เห็นถึงมูลค่าที่แข็งแรงเพิ่มของการปลูกอินทรีย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3.4 . การเลือกและเงื่อนไขทางพันธุกรรม
ขั้นต้นในระดับและทางพันธุกรรมหลายประเด็น
ยังต้อง addressed ดูเหมือนว่ามีแนวโน้มที่จะพยายาม

ต่อไปนี้ : 1 ) สนับสนุนความหลากหลายของสายพันธุ์ข้าวสาลีชนิดเมล็ดธัญพืช
( โบราณและ / หรือปลอมซีเรียลธัญพืช ) จะได้รับประโยชน์จากความหลากหลายของ microconstituents มากที่สุด

และ สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพสารประกอบมากกว่าที่จะมุ่งเน้นไปที่ส่วนประกอบ เม็ดเดียว คือ
แนะนำพันธุ์ใหม่และ / หรือสปีชีส์ ( ข้าวฟ่าง , ข้าวฟ่าง quinoa
, และอื่น ๆ ) ซึ่ง agronomically
ได้ ?
2 ) หน้าจอพันธุ์หาผู้ที่มีความสมดุลที่ดีที่สุดของ
หมายเลขที่ใหญ่ที่สุดของสารที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ ( เช่นผ่านทางเมตะโบโลมิก
( shewry et al . , 2013 ) ตัวอย่างเช่น , เกี่ยวกับสารต้านอนุมูลอิสระ
มุ่งเน้นเพียงหนึ่งสารต้านอนุมูลอิสระมีความหมาย
เพราะ 30 กว่าสารประกอบในธัญพืชมีกิจกรรมต้านออกซิเดชัน
: การกระทำที่พวกเขาอาจจะมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่
การกระทําของสารประกอบเดี่ยว ( fardet 2010 ;
Thompson et al . , 2006 ) แนวคิดนี้ถือเป็นจริงสำหรับทั้งหมดของสารประกอบอื่น
กับได้รับผลกระทบทางสรีรวิทยา เช่น lipotropes lipidlowering
, สารประกอบ , ต่อต้านสารก่อมะเร็งและแก้อักเสบ
สารประกอบ ดังนั้น แทนที่จะมุ่งเน้นการปรับปรุง
เนื้อหาของส่วนประกอบเดียว การวิจัย การเลือกทางพันธุกรรมอาจ
เน้น ' แพคเกจ ' ของสารประกอบ เช่น สารต้านอนุมูลอิสระหรือสารต้านการอักเสบ lipotropes

เพื่อพัฒนาสายพันธุ์ที่มีศักยภาพต้านอนุมูลอิสระสูงหรือ Lipotropic
3 ) , การวัดผลกระทบของการเกษตรอินทรีย์ต่อสุขภาพ
ศักยภาพของผลิตภัณฑ์ข้าวผ่านอนาคตการศึกษาไปข้างหน้า
( อินทรีย์ VS ปกติผลิตภัณฑ์จากธัญพืช ) , แม้ว่านี้ชนิด
เรียนยากมาก และราคาแพง เช่น ยวด ,
แต่ผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ไม่ปรากฏ
มีโภชนาการที่ดีกว่าที่ผลิตโดยใช้
การเกษตรแบบดั้งเดิมตามที่ปรากฏโดยทั่วไปสำหรับพืช
( dangour et al . , 20092010 ) หรือมากขึ้นโดยเฉพาะข้าวโพด
( r และด้าน ohlig แองเจล , 2010 ) หรือข้าวสาลี ( nitika et al . , 2008 ) โดยใช้
เหมือนกันคัฟ โหมด ( chaurand et al . , 2006 ) แม้ว่าระดับของสารต้านอนุมูลอิสระและสาร

โดยทั่วไปแร่อาจจะสูงกว่าในโรงงานผลิตภัณฑ์บางอย่าง ( lairon 2010 ) อย่างไรก็ตาม ,
ในหลอดทดลองการวัดระดับของสารอาหารที่ไม่สามารถทำนายผลของโภชนาการ
คนเดียวในมนุษย์อย่างไรก็ตาม ,
) เพิ่มมูลค่าของข้อมูลที่ปลูกอินทรีย์