Have you ever been afraid of or att

Have you ever been afraid of or attracted to someone just because of the
way the person looks? When you fi rst meet someone, it is not unusual to react
to his or her appearance. But these are fi rst impressions, and most people
assume that it takes time to fi nd out what someone is really like. It is possible,
however, that a person’s appearance reveals more than we realize. According
to some experts, a person’s face, head, and body can reveal a great deal about
personality.
Since ancient times, people have practiced the art of physiognomy, or
reading character from physical features. The ancient Greeks compared the
human face to the faces of various animals and birds, such as the eagle and the
horse. They believed people shared certain character traits with the animals
they resembled. A person with an equine, or horse-like, face was thought to
be loyal, brave, and stern. A person with an aquiline, or eagle-like, nose was
believed to be bold and courageous, as well as arrogant and self-centered.
Physiognomists study such features as the shape of the head, the length
and thickness of the neck, the color and thickness of the hair, and the shape
of the nose, mouth, eyes, and chin. They believe that round-faced people
are self-confi dent. Prominent cheekbones show strength of character,
while a pointed nose reveals curiosity. Heavy, arched eyebrows belong to a
decisive individual, while thin, arched eyebrows signal a restless and active
personality. Almond-shaped eyes reveal an artistic nature. Round, soft eyes
belong to dreamers. Down-turned lips reveal a proud character, while a long,
pointed chin indicates someone who likes to give orders.
A related—though not as ancient—art is phrenology, the study of the
bumps on the head. Phrenologists have identifi ed 40 bumps of various shapes
and sizes on the human head. They “read” these bumps to identify a person’s
talents and character. For example, a bump between the nose and forehead
is said to be present in people who have natural elegance and a love of
beauty. A bump behind the curve of the ear is the sign of a courageous and
adventurous person.
Phrenologists are not so much interested in health as they are in
character and personality. They believe, for example, that a bulge in the
center of the forehead is typical of people who have a good memory and
a desire for knowledge. A small bump at the top of the head indicates a
person who has strong moral character, while a bump just below this one
is a sign of generosity and a kind, good nature. Phrenologists say a bump
just above the tip of the eyebrow is found in people who love order and
discipline, and a rise at the very back of the head is evident in people who
are very attached to their families.
Phrenology was developed in the early eighteenth century by Franz
Joseph Gall, a doctor in Vienna. His interest began at school when he
noticed that boys with prominent eyes seemed to have the best memories.
This led him to believe that a connection existed between appearance and
ability. Dr. Gall’s research interested many people, but he was ridiculed by
other doctors. When he died in 1828, he was a poor and bitter man. It was
only many years later that Dr. Gall’s theories found support among some
doctors and scientists, and today the art of phrenology has become more
accepted

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คุณเคยกลัวหรือดึงดูดให้คนเพียงเพราะของวิธีการที่คนดู? เมื่อคุณ fi
แรกพบใครบางคนก็ไม่ได้เป็นเรื่องผิดปกติที่จะตอบสนองกับการปรากฏตัวของเขาหรือเธอ แต่เหล่านี้เป็นไฟแสดงผลแรกและคนส่วนใหญ่คิดว่ามันต้องใช้เวลาใน fi ครั้งสิ่งที่คนจะชอบ มันเป็นไปได้อย่างไรที่การปรากฏตัวของบุคคลที่แสดงให้เห็นมากกว่าที่เราตระหนัก ตามที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนใบหน้าของบุคคลหัวและร่างกายสามารถที่จะเปิดเผยการจัดการที่ดีเกี่ยวกับบุคลิกภาพ. ตั้งแต่สมัยโบราณคนได้รับการฝึกฝนศิลปะของโหงวเฮ้งหรือการอ่านตัวอักษรจากลักษณะทางกายภาพ ชาวกรีกโบราณเปรียบเทียบใบหน้าของมนุษย์ให้กับใบหน้าของสัตว์ต่างๆและนกเช่นนกอินทรีและม้า พวกเขาเชื่อว่าคนที่ใช้ร่วมกันลักษณะนิสัยบางอย่างกับสัตว์ที่พวกเขาคล้ายกับ คนกับม้าหรือม้าเช่นใบหน้าเป็นความคิดที่จะซื่อสัตย์, กล้าหาญและท้ายเรือ คนที่มีงุ้มหรือนกอินทรีเหมือนจมูกเชื่อว่าจะเป็นตัวหนาและความกล้าหาญเช่นเดียวกับหยิ่งและเห็นแก่ตัว. physiognomists ศึกษาคุณสมบัติเช่นรูปทรงของหัวความยาวและความหนาของลำคอสีและความหนาของผมและรูปร่างของจมูกปากตาและคาง พวกเขาเชื่อว่าคนรอบเผือดมีบุ๋มตนเอง CONFI ที่โดดเด่นโหนกแก้มแสดงความแข็งแรงของตัวละคร, ในขณะที่จมูกแหลมเผยให้เห็นอยากรู้อยากเห็น หนักคิ้วโค้งอยู่ในแต่ละเด็ดขาดในขณะที่บางคิ้วโค้งส่งสัญญาณไม่สงบและการใช้งานบุคลิกภาพ ตาอัลมอนด์ที่มีรูปทรงเปิดเผยธรรมชาติศิลปะ รอบดวงตาที่อ่อนนุ่มเป็นฝัน ริมฝีปากลงแล้วหันมาเผยให้เห็นตัวละครที่มีความภาคภูมิใจในขณะที่มีความยาวชี้คางบ่งชี้ว่าคนที่ชอบที่จะให้คำสั่งซื้อ. ที่เกี่ยวข้อง-แต่ไม่เป็นโบราณศิลปะเป็น phrenology การศึกษาของการกระแทกบนหัว phrenologists ได้ identifi ed 40 กระแทกของรูปทรงต่างๆและขนาดบนศีรษะของมนุษย์ พวกเขา "อ่าน" กระแทกเหล่านี้เพื่อระบุบุคคลความสามารถและตัวอักษร ยกตัวอย่างเช่นชนระหว่างจมูกและหน้าผากกล่าวจะอยู่ในคนที่มีความสง่างามทางธรรมชาติและความรักของความงาม ชนหลังโค้งของหูเป็นสัญญาณของความกล้าหาญและคนที่รักการผจญภัย. phrenologists มีไม่มากที่สนใจในสุขภาพของพวกเขาอยู่ในตัวละครและบุคลิกภาพ พวกเขาเชื่อเช่นที่กระพุ้งในศูนย์กลางของหน้าผากเป็นเรื่องปกติของคนที่มีความทรงจำที่ดีและความปรารถนาสำหรับความรู้ ชนเล็ก ๆ ที่ด้านบนของหัวบ่งชี้ว่าคนที่มีศีลธรรมที่แข็งแกร่งในขณะที่ชนด้านล่างนี้เป็นสัญญาณของความเอื้ออาทรและชนิดธรรมชาติที่ดี phrenologists พูดชนเหนือปลายคิ้วที่พบในคนที่รักการสั่งซื้อและมีระเบียบวินัยและการเพิ่มขึ้นที่ด้านหลังสุดของหัวที่เห็นได้ชัดในผู้ที่จะผูกพันกับครอบครัวของพวกเขา. phrenology ได้รับการพัฒนาในช่วงต้นปีที่สิบแปด ศตวรรษโดยฟรานซ์โจเซฟGall แพทย์ในเวียนนา ความสนใจของเขาเริ่มที่โรงเรียนเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าชายที่โดดเด่นด้วยดวงตาที่ดูเหมือนจะมีความทรงจำที่ดีที่สุด. นี้ทำให้เขาเชื่อว่าการเชื่อมต่ออยู่ระหว่างลักษณะและความสามารถ การวิจัยดร. น้ำดีของหลาย ๆ คนที่สนใจ แต่เขาถูกเยาะเย้ยโดยแพทย์อื่นๆ เมื่อเขาเสียชีวิตในปี 1828 เขาเป็นคนยากจนและขมขื่น มันเป็นเวลาหลายปีหลังจากนั้นเพียงทฤษฎีดร. น้ำดีพบการสนับสนุนในบางส่วนแพทย์และนักวิทยาศาสตร์และในวันนี้ศิลปะของphrenology ได้มากขึ้นได้รับการยอมรับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คุณเคยกลัวหรือชอบใครเพราะเรื่อง
วิธีคนที่ดูดี เมื่อคุณ RST fi พบใครสักคน มันไม่ได้ผิดปกติเพื่อตอบสนอง
กับการปรากฏตัวของเขา หรือเธอ แต่เหล่านี้เป็น RST fi แสดงผล และคนส่วนใหญ่คิดว่ามันต้องใช้เวลา
fi nd สิ่งที่คนต้องการจริงๆ เป็นไปได้ ,
แต่ที่ลักษณะของคนแสดงมากกว่าที่เรารู้
ตามผู้เชี่ยวชาญบางคนนั้น ใบหน้า ศีรษะ และร่างกายสามารถที่จะเปิดเผยมากเกี่ยวกับบุคลิกภาพ
.
มาตั้งแต่สมัยโบราณ คนได้ฝึกศิลปะของโหงวเฮ้ง หรือ
อ่านอักขระจากคุณสมบัติทางกายภาพ ในสมัยกรีกโบราณเปรียบเทียบ
หน้ามนุษย์หน้าสัตว์ต่างๆและนก เช่น นกอินทรีและ
ม้า พวกเขาเชื่อว่าคนที่ใช้ร่วมกันคุณลักษณะอักขระบางอย่างกับสัตว์
พวกเขามี . คนกับม้าหรือม้า หน้าคิด

ซื่อสัตย์ กล้าหาญ และเข้มงวด คนเป็น AQUILINE หรือนกอินทรีเหมือนจมูก
เชื่อว่าจะเป็นตัวหนาและกล้าหาญเช่นเดียวกับหยิ่งและเอาแต่ใจตัวเอง
physiognomists ศึกษาคุณสมบัติ เช่น รูปร่างของหัว ความยาว
และความหนาของคอ สีและความหนาของขนและรูปร่าง
ของจมูก ปากตา และคาง พวกเขาเชื่อว่ารอบประสบคน
บุ๋มเป็นลงทะเบียนด้วยตนเอง โหนกแก้มเด่นแสดงความแรงของตัวละคร
ในขณะที่จมูกแหลมแสดงความอยากรู้อยากเห็น หนัก คิ้วโก่งเป็นของ
บุคคลเด็ดขาด ในขณะที่บาง คิ้วโก่งสัญญาณกระสับกระส่ายและบุคลิกปราดเปรียว

ตารูปอัลมอนด์เปิดเผยธรรมชาติของศิลปะ รอบดวงตาอ่อนโยน
เป็นของดรีมเมอร์ลงเปิดปากเปิดเผยตัวละครภูมิใจ ในขณะที่ยาว
คางแหลม ชี้ว่า คนที่ชอบออกคำสั่ง
ที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าจะไม่ได้เป็นศิลปะโบราณฟรีโนโลยีการศึกษาของ
การกระแทกบนหัว phrenologists มี identifi เอ็ด 40 กระแทกของ
รูปร่างและขนาดต่าง ๆ บนศีรษะของมนุษย์ พวกเขาจะ " อ่าน " การกระแทกเหล่านี้เพื่อระบุความสามารถของ
บุคคลและตัวอักษร ตัวอย่างเช่นชนระหว่างจมูกและหน้าผาก
กล่าวจะอยู่ในบุคคลที่มีความงดงามตามธรรมชาติ และความรักของ
ความงาม ชนหลังโค้งของหูเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญและ

คนชอบผจญภัย phrenologists ไม่ได้สนใจมากในสุขภาพเช่นที่พวกเขาอยู่ใน
และบุคลิก พวกเขาเชื่อว่าตัวอย่างเช่นที่กระพุ้งใน
กลางหน้าผาก เป็นปกติของผู้ที่มีความจำดีและ
ความปรารถนาสำหรับความรู้ ลูกโป่งขนาดเล็กที่ด้านบนของศีรษะ พบว่า คนที่แข็งแรง
ตัวละครคุณธรรม ในขณะที่ชนด้านล่างนี้
เป็นสัญญาณของความเอื้ออาทรและชนิดดี , ธรรมชาติ phrenologists พูดกระแทก
เหนือปลายคิ้ว จะพบในคนที่ชอบสั่ง
วินัยและเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในด้านหลังของหัวคนที่
มีมากที่แนบมากับครอบครัว
ฟรีโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นในศตวรรษที่สิบแปดต้นโดยฟรานซ์
โจเซฟ ถุงน้ำดี หมอในเวียนนา ความสนใจของเขาเริ่มที่โรงเรียน เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเด็กชายที่มีดวงตาโดดเด่น
ดูเหมือนจะมีความทรงจำที่ดีที่สุด .
นี้ทำให้เขาเชื่อว่าการเชื่อมต่อที่มีอยู่ระหว่างลักษณะและ
ความสามารถ ดร.การวิจัยหน้าสนใจหลายคน แต่เขาก็ถูกเยาะเย้ยโดย
แพทย์อื่น ๆ เมื่อเขาเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1828 เขาเป็นคนยากจน และขม มันมีหลายทฤษฎี
ปีต่อมาดร. ถุงน้ำดีพบการสนับสนุนในบาง
แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ และวันนี้ศิลปะฟรีโนโลยีกลายเป็น
ยอมรับ