This study was conducted (i) to dev

This study was conducted (i) to develop computer-assisted musical pronunciation course ware for teaching English word stress, sentence stress and intonation; (ii) to enhance learners’ abilities in proper English word stress, sentence stress and intonationpatterns by using computer-assisted musical pronunciation courseware; and (iii) to investigate learners’ attitudes toward computer-assisted musical pronunciation
courseware. To achieve the first purpose, the Computer-Assisted Musical Pronunciation
was constructed. It consisted of the pre-pronunciation test, 10 lessons about English suprasegmentals, and the post pronunciation test. The lessons in the computer- assisted musical pronunciation courseware consisted of content about English
suprasegmentals, exercises, and songs. The contents were studied and selected. Then,
the words and sentences were selected by 3 teachers who teach Business English. After
that, the contents were checked for content validity by 3 experts. The music and songs
were written and composed based on the content of each lesson. The next step was conducting trials of the courseware with the one-to-one testing and small group testing. The courseware was then used with the sample group. The sample took the pronunciation test. The students then registered and logged in to learn the English suprasegmentals lessons in their own time. The students studied each lesson for one hour. After the students finished all lessons, the questionnaire was sent by e-mail. The efficiency of the CAMP courseware was found to be 83.57/91.33 and the effectiveness index was 0.86. For the second purpose, the pronunciation test constructed by the researcher was used both for pre-test and post-test but each was arranged in different order. The pronunciation test was used to test both students’ perception and production. The perception was tested by listening test with 40 items of 40 points. The students had to listen to the audio sounds on the CAMP course ware, and then they had to choose the suitable answer. The listening test was in a multiple choice format. The students’ production was tested by pronunciation test with 20 items of
40 points. The students were asked to read the words with the suitable stress and read
the sentences with the suitable intonation. The post-pronunciation test mean score was
73.07 higher than the pre-pronunciation test mean score of 41.47.
This difference was found to be significant at the level 0.05 level. For the third purpose, the questionnaire was constructed. There were 30 items which were divided into three parts as follows: 1) Part 1 asked about the students’ demographic data. 2) Part 2 asked about students’ experiential information about their English experience, music experience, and computer experience. 3) Part 3 asked about the students’ attitude toward the CAMP courseware. The questions in this part used Likert’s scale. The students’ attitude toward the CAMP courseware was found to be positive. The students can learn a lot from the CAMP courseware. Their expressed their opinions about the explanation of the content, the sequence, the lyrics and music could help them learn a lot. In addition, they were satisfied with the CAMP courseware. They felt that the lessons made them learn well and they also thought that the exercises helped them to have self-confidence about using English suprasegmentals.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานี้ได้ดำเนินการ (i) การพัฒนาเครื่องคอมพิวเตอร์ช่วยการออกเสียงดนตรีหลักสูตรการสอนภาษาอังกฤษคำความเครียด ความเครียดประโยค และ สำเนียง (ii) เพื่อเพิ่มความสามารถของผู้เรียนในคำภาษาอังกฤษที่ถูกความเครียด ความเครียดประโยค และ intonationpatterns โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยการออกเสียงดนตรี courseware และ (iii) การตรวจสอบของผู้เรียนเจตคติคอมพิวเตอร์ช่วยการออกเสียงดนตรี
courseware เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์แรก ออกเสียงดนตรี Computer-Assisted
ถูกสร้างขึ้น มันประกอบด้วยการทดสอบก่อนการออกเสียง 10 บทเรียนเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ suprasegmentals และการทดสอบการออกเสียงลง บทเรียนในคอมพิวเตอร์-ช่วยออกเสียงดนตรี courseware ได้ประกอบด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ
suprasegmentals ออกกำลังกาย และเพลง เนื้อหาได้ศึกษา และเลือก แล้ว,
เลือกคำและประโยค โดยครูผู้สอนภาษาอังกฤษธุรกิจ 3 หลังจาก
ว่า เนื้อหาถูกตรวจสอบเริ่มตั้งแต่เนื้อหา โดยผู้เชี่ยวชาญ 3 เพลงและเพลง
เขียน และประกอบตามเนื้อหาของแต่ละบทเรียน ขั้นตอนต่อไปดำเนินการทดลองของ courseware ด้วยการทดสอบแบบหนึ่งต่อหนึ่งและการทดสอบกลุ่มเล็ก Courseware แล้วใช้กับกลุ่มตัวอย่าง ตัวอย่างใช้ทดสอบการออกเสียง นักเรียนลงทะเบียน และเข้าสู่ระบบในการเรียนบทเรียนภาษาอังกฤษ suprasegmentals ในเวลาของตนเองแล้ว นักเรียนศึกษาบทเรียนแต่ละชั่วโมงหนึ่ง หลังจากเรียนจบทุกบทเรียน แบบสอบถามที่ส่งทางอีเมล์ มีการค้นพบประสิทธิภาพของ courseware แคมป์จะ 83.57/91.33 และดัชนีประสิทธิผลคือ 0.86 วันที่สอง การทดสอบการออกเสียงที่ถูกสร้างขึ้น โดยนักวิจัยใช้ทั้ง สำหรับทดสอบก่อนและหลังการทดสอบ แต่ละถูกจัดเรียงในลำดับ ทดสอบออกเสียงถูกใช้เพื่อทดสอบนักเรียนรู้และผลิต การรับรู้ได้รับการทดสอบ โดยการฟังทดสอบสินค้า 40 คะแนน 40 นักเรียนได้ฟังเสียงในเครื่องหลักสูตรค่าย แล้ว พวกเขาต้องเลือกคำตอบที่เหมาะสม การทดสอบการฟังในรูปแบบทางเลือกหลาย ผลิตนักเรียนที่ได้รับการทดสอบ โดยทดสอบออกเสียง 20 รายการ
40 คะแนน นักเรียนก็ขอให้อ่านคำที่ มีความเครียดที่เหมาะสม และอ่าน
ประโยค ด้วยโทนเสียงที่เหมาะสม คะแนนเฉลี่ยทดสอบหลังการออกเสียงถูก
73.07 สูงกว่าการทดสอบก่อนการออกเสียงหมายถึง คะแนนของ 41.47.
พบเป็นอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 ระดับความแตกต่างนี้ แบบสอบถามถูกสร้างขึ้นสำหรับวัตถุประสงค์ที่สาม มี 30 รายการซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนดังนี้: 1) ส่วนที่ 1 ถามเกี่ยวกับประชากรของนักเรียน ส่วนที่ 2) 2 ถามเกี่ยวกับข้อมูลผ่านนักเรียนเกี่ยวกับภาษาอังกฤษจากประสบการณ์ของพวกเขา เพลงประสบการณ์ และคอมพิวเตอร์ประสบการณ์ 3) ส่วนที่ 3 ถามเกี่ยวกับทัศนคติของนักศึกษาต่อ courseware แคมป์ คำถามในส่วนนี้ใช้สเกลของ Likert ทัศนคติของนักศึกษาต่อ courseware ค่ายพบต้องเป็นค่าบวก นักเรียนสามารถเรียนรู้มากจาก courseware แคมป์ ผู้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำอธิบายของเนื้อหา ลำดับที่ เพลง และดนตรีช่วยให้เรียนรู้มาก นอกจากนี้ เขาพอกับ courseware แคมป์ พวกเขารู้สึกว่า การเรียนทำให้พวกเขาเรียนรู้กัน และพวกเขายังคิดว่า ออกกำลังกายช่วยให้มีความมั่นใจเกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษ suprasegmentals.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้ได้ดำเนินการ (i) การพัฒนาเครื่องแน่นอนออกเสียงดนตรีคอมพิวเตอร์ช่วยการเรียนการสอนภาษาอังกฤษคำว่าความเครียดความเครียดประโยคและน้ำเสียง; (ii) เพื่อเพิ่มความสามารถในการเรียนที่เหมาะสมในความเครียดคำภาษาอังกฤษความเครียดประโยคและ intonationpatterns โดยใช้บทเรียนการออกเสียงดนตรีคอมพิวเตอร์ช่วย; และ (iii) การตรวจสอบทัศนคติของผู้เรียนที่มีต่อการออกเสียงคอมพิวเตอร์ช่วยดนตรี
บทเรียน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์แรกที่คอมพิวเตอร์ช่วยการออกเสียงดนตรี
ถูกสร้างขึ้น มันเป็นผลการทดสอบก่อนการออกเสียง, 10 บทเรียนเกี่ยวกับ suprasegmentals ภาษาอังกฤษและการทดสอบการโพสต์การออกเสียง บทเรียนในบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยการออกเสียงดนตรีที่ประกอบไปด้วยเนื้อหาที่เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ
suprasegmentals การออกกำลังกายและเพลง เนื้อหาที่ได้รับการศึกษาและเลือก จากนั้น
คำและประโยคที่ถูกเลือกโดย 3 ครูที่สอนภาษาอังกฤษเชิงธุรกิจ หลังจาก
ที่เนื้อหาที่ได้รับการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาโดยผู้เชี่ยวชาญ 3 เพลงและเพลงที่
ได้รับการประกอบและเขียนตามเนื้อหาของแต่ละบทเรียน ขั้นตอนต่อไปคือการดำเนินการทดลองของบทเรียนที่มีอย่างใดอย่างหนึ่งต่อหนึ่งการทดสอบและการทดสอบกลุ่มเล็ก ๆ บทเรียนที่ได้รับนำไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ทดสอบการออกเสียง นักเรียนที่ลงทะเบียนแล้วและเข้าสู่ระบบการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ suprasegmentals บทเรียนในเวลาของตัวเอง นักเรียนเรียนแต่ละบทเรียนเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง หลังจากที่นักเรียนจบบทเรียนทั้งหมดแบบสอบถามที่ถูกส่งทางอีเมล์ ประสิทธิภาพของบทเรียน CAMP พบว่า 83.57 / 91.33 และดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.86 เพื่อจุดประสงค์ที่สองการทดสอบการออกเสียงผู้วิจัยสร้างขึ้นถูกนำมาใช้ทั้งสำหรับการทดสอบก่อนและหลังการทดสอบ แต่แต่ละคนถูกจัดอยู่ในลำดับที่แตกต่างกัน การทดสอบการออกเสียงที่ถูกใช้ในการทดสอบการรับรู้และการผลิตทั้งนักเรียน การรับรู้ที่ได้รับการทดสอบโดยการทดสอบการฟังที่มี 40 รายการ 40 คะแนน นักเรียนจะต้องฟังเสียงเสียงในเครื่องแน่นอน CAMP และจากนั้นพวกเขาจะต้องเลือกคำตอบที่เหมาะสม การทดสอบการฟังเป็นในรูปแบบทางเลือกหลาย ผลิตนักเรียนที่ได้รับการทดสอบโดยการทดสอบการออกเสียงที่มี 20 รายการ
40 คะแนน นักเรียนถูกถามในการอ่านคำที่มีความเครียดที่เหมาะสมและอ่าน
ประโยคด้วยน้ำเสียงที่เหมาะสม การทดสอบการโพสต์การออกเสียง-หมายถึงคะแนนเป็น
73.07 สูงกว่าผลการทดสอบก่อนการออกเสียงเฉลี่ยของคะแนน 41.47
ความแตกต่างนี้ก็จะพบว่ามีความสำคัญในระดับที่ระดับ 0.05 เพื่อจุดประสงค์ที่สามแบบสอบถามที่สร้างขึ้น มี 30 รายการที่ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนดังนี้คือ 1) ส่วนที่ 1 ถามเกี่ยวกับข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ของนักเรียน 2) ส่วนที่ 2 ถามเกี่ยวกับข้อมูลประสบการณ์ของนักศึกษาเกี่ยวกับประสบการณ์ของพวกเขาภาษาอังกฤษประสบการณ์ทางดนตรีและประสบการณ์คอมพิวเตอร์ 3) ส่วนที่ 3 ถามเกี่ยวกับทัศนคติของนักเรียนที่มีต่อบทเรียน CAMP คำถามในส่วนนี้ใช้มาตราส่วนประมาณค่าของ ทัศนคติของนักเรียนที่มีต่อบทเรียน CAMP ถูกพบว่าเป็นบวก นักเรียนสามารถเรียนรู้มากจากบทเรียน CAMP พวกเขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำอธิบายของเนื้อหาลำดับเนื้อเพลงและดนตรีสามารถช่วยให้พวกเขาได้เรียนรู้มาก นอกจากนี้พวกเขามีความพึงพอใจกับบทเรียน CAMP พวกเขารู้สึกว่าบทเรียนที่ทำให้พวกเขาเรียนรู้ได้ดีและพวกเขายังคิดว่าการออกกำลังกายช่วยให้พวกเขามีความมั่นใจในตนเองเกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษ suprasegmentals

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ( 1 ) เพื่อพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน สำหรับสอนภาษาอังกฤษเครื่องดนตรีการออกเสียงเน้นคำ , เน้นประโยคและน้ำเสียง ; ( 2 ) เพื่อเพิ่มความสามารถของผู้เรียนในคำภาษาอังกฤษที่เหมาะสม ความเครียด ความเครียด และ intonationpatterns ประโยคโดยใช้ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องดนตรี การออกเสียง ;และ ( 3 ) เพื่อศึกษาเจตคติที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ผู้เรียนดนตรีสำเนียง
บทเรียนคอมพิวเตอร์ เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์แรก บทเรียนคอมพิวเตอร์ดนตรีสำเนียง
ถูกสร้างขึ้น มันประกอบด้วย 10 บทเรียนที่เกี่ยวกับการทดสอบก่อนการออกเสียง , ภาษาอังกฤษและการออกเสียง suprasegmentals , หลังการทดสอบบทเรียนในบทเรียนคอมพิวเตอร์ บทเรียนมีเนื้อหาเกี่ยวกับดนตรี การออกเสียงภาษาอังกฤษ
suprasegmentals แบบฝึกหัด และเพลง เนื้อหาศึกษาและเลือก งั้น
คำและประโยคได้ถูกเลือกโดย 3 ครูที่สอนภาษาอังกฤษธุรกิจ หลังจาก
, เนื้อหาการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาโดยผู้เชี่ยวชาญ 3 . เพลง เพลง
ถูกเขียนและแต่งตามเนื้อหาของแต่ละบทเรียน ขั้นตอนต่อไปคือการดำเนินการทดลองของโปรแกรมด้วยแบบทดสอบและการทดสอบกลุ่มเล็ก เรื่องนั้นก็ใช้กับกลุ่มตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการออกเสียงแบบ นักศึกษาที่ลงทะเบียนแล้วและเข้าสู่ระบบเพื่อเรียนรู้บทเรียนภาษาอังกฤษ suprasegmentals ของตัวเองในเวลานี้นักเรียนที่เรียนแต่ละบทเรียนเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง หลังจากเรียนจบบทเรียนทั้งหมด ส่งแบบสอบถามทางอีเมลล์ ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน พบว่า อยู่ในค่าย 83.57/91.33 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ . สำหรับวัตถุประสงค์ประการที่สอง การออกเสียงแบบทดสอบที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเอง ทั้งก่อนและหลังการทดลอง แต่แต่ละมีเพื่อที่แตกต่างกันการออกเสียงทดสอบทั้งนักเรียนมีการรับรู้ และการผลิต การรับรู้ถูกทดสอบโดยแบบทดสอบการฟังกับ 40 ข้อ 40 คะแนน นักเรียนต้องฟังเสียงเสียงในค่าย คอร์สแวร์ แล้วพวกเขาก็จะเลือกคำตอบที่เหมาะสม ทดสอบการฟังเป็นทางเลือกหลายรูปแบบการผลิตนักศึกษาจะถูกทดสอบโดยการออกเสียงแบบ 20 รายการ
40 คะแนน ให้นักเรียนอ่านคำกับความเครียดที่เหมาะสมและอ่าน
ประโยคด้วยน้ำเสียงที่เหมาะสม โพสต์ทดสอบค่าเฉลี่ยคะแนนการออกเสียงถูก
73.07 สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยของการทดสอบก่อนการออกเสียง 41.47 .
ความแตกต่างนี้ พบว่ามีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ระดับสำหรับวัตถุประสงค์ที่สาม โดยใช้แบบสอบถามที่สร้างขึ้น จำนวน 30 ข้อซึ่งแบ่งเป็น 3 ส่วนดังนี้ 1 ) ส่วนที่ 1 ถามเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของนักศึกษา 2 ) ส่วนที่ 2 ถามเกี่ยวกับนักศึกษาประสบการณ์ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ ภาษาอังกฤษ ประสบการณ์ของพวกเขาเพลงและประสบการณ์คอมพิวเตอร์ 3 ) ส่วนที่ 3 ถามเกี่ยวกับเจตคติของผู้เรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ ค่าย .คำถามในส่วนนี้ใช้คนเป็นมาตราส่วน ทัศนคติของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน พบว่า ค่ายที่เป็นบวก นักเรียนสามารถเรียนรู้มากจากค่าย บทเรียนคอมพิวเตอร์ ของพวกเขาแสดงความคิดเห็นของตนเกี่ยวกับการอธิบายเนื้อหา ลำดับ เนื้อเพลงและดนตรีสามารถช่วยให้พวกเขาได้เรียนรู้มาก นอกจากนี้ พวกเขามีความพึงพอใจกับค่ายบทเรียนคอมพิวเตอร์พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาได้เรียนรู้บทเรียน ทำดี และพวกเขาก็คิดว่าแบบฝึกหัดที่ช่วยให้พวกเขามีความมั่นใจเกี่ยวกับการใช้

suprasegmentals ภาษาอังกฤษ