Extant research provides a strong b

Extant research provides a strong basis for our representation of SRS. In particular,
the overload, complexity, and uncertainty dimensions are consistent with several
formal properties of stressful conditions (e.g., ambiguity, uncertainty, time sensitivity,
uncontrollability) identified in the psychological stress literature [37, 38] and with
several recognized negative work stressors, such as work overload, task difficulty,
environmental uncertainty, situational restraints, and administrative hassles [25, 39,
49]. The SRS dimensions also resemble stressful conditions brought on by technological
change [45] and incorporate research that points to ever increasing and constantly
evolving security requirements as stress creators [51]. Consistent with the technostress
creators construct, we conceptualize SRS as a second-order construct that is exhibited
through its first-order subconstructs.
Coping Theory
Coping theory [38] provides a framework for understanding how employees respond
to SRS. The theory describes cognitive and behavioral processes to manage psychological
stress, of which SRS can be considered an example. Although coping theory
is primarily concerned with an individual’s response to psychological stress after
it has been experienced (as opposed to the stress creation process described in the
transaction-based model of stress [37]), the cognitive appraisal of stress is the first step
in the coping process. Coping theory holds that individuals go through two interrelated
forms of appraisal—primary and secondary—in determining whether a particular
situation is stressful. In primary appraisal, the person evaluates the relevance of a
situation and whether it is benign or stressful. Stressful situations are those appraised
as harmful, threatening, or challenging. In secondary appraisal, the person evaluates
his/her control over the stressful situation. Despite their names, primary and secondary
appraisals often operate in unison [38]. Hence, we consider SRS an outcome of
combined primary and secondary appraisal processes.
The combination of primary and secondary appraisals gives rise to coping efforts
that aim to alleviate the felt stress. Although many classifications of coping exist in the
literature [38, 48], the most widely used distinction is between problem-focused and
emotion-focused coping. Problem-focused coping involves direct efforts to manage or
alter the stressful situation. In the work context, these efforts can include eliminating
obstacles that impede workflow or engaging in activities to increase one’s knowledge
and skills. Emotion-focused coping involves changing the way one thinks or feels about
the stressful situation. This form of coping is inward focused and involves cognitive
processes (e.g., reappraisals, distorting reality) directed at reducing emotional distress.
Emotion-focused coping is more likely when there has been an appraisal that little or
nothing can be done to modify the stressful situation (i.e., low controllability), whereas
problem-focused coping is more probable when stressful situations are appraised as
amenable to change (i.e., high controllability) [37, 38].
In couching SRS and its associated user response within coping theory, we augment
the stress literature with research that considers user adaptation strategies
when faced with significant IT events (e.g., technological change). User adaptation

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

งานวิจัยยังมีพื้นฐานแข็งแกร่งสำหรับ SRS แสดงของเรา โดยเฉพาะโอเวอร์โหลด ความซับซ้อน และความไม่แน่นอนขนาดเดียวกันด้วยคุณสมบัติเป็นสภาวะเครียด (เช่น ความคลุมเครือ ความไม่แน่นอน ความ ไวเวลาuncontrollability) ระบุ ในวรรณคดีจิตวิทยาความเครียด [37, 38] และมีหลายยอมรับยาก งานงานลบลด เช่นทำงานเกินพิกัดความไม่แน่นอนด้านสิ่งแวดล้อม restraints เมืองไทย และดูแลยุ่งยาก [25, 3949] . ขนาด SRS ยังคล้ายกับนำ โดยเทคโนโลยีในสภาพเครียดเปลี่ยน [45] และรวมงานวิจัยที่ชี้ ให้มีมาก และตลอดเวลาการพัฒนาความต้องการความปลอดภัยเป็นผู้สร้างความเครียด [51] สอดคล้องกับ technostressผู้สร้างโครงสร้าง เรา conceptualize SRS เป็นโครงสร้างลำดับที่สองที่มีการจัดแสดงโดย subconstructs เป็นลำดับแรกทฤษฎีเผชิญทฤษฎีเผชิญ [38] ให้กรอบงานสำหรับการทำความเข้าใจวิธีการตอบสนองของพนักงานการ SRS ทฤษฎีที่อธิบายกระบวนการรับรู้ และพฤติกรรมในการจัดการทางจิตวิทยาความเครียด ของ SRS สามารถพิจารณาตัวอย่าง แม้ว่าทฤษฎีการเผชิญหลักที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองของบุคคลกับความเครียดทางจิตใจหลังจากการมีประสบการณ์ (ตรงข้ามกับกระบวนการสร้างความเครียดที่อธิบายไว้ในการธุรกรรมตามรูปแบบของความเครียด [37]), ประเมินการรับรู้ความเครียดเป็นขั้นแรกin the coping process. Coping theory holds that individuals go through two interrelatedforms of appraisal—primary and secondary—in determining whether a particularsituation is stressful. In primary appraisal, the person evaluates the relevance of asituation and whether it is benign or stressful. Stressful situations are those appraisedas harmful, threatening, or challenging. In secondary appraisal, the person evaluateshis/her control over the stressful situation. Despite their names, primary and secondaryappraisals often operate in unison [38]. Hence, we consider SRS an outcome ofcombined primary and secondary appraisal processes.The combination of primary and secondary appraisals gives rise to coping effortsthat aim to alleviate the felt stress. Although many classifications of coping exist in theliterature [38, 48], the most widely used distinction is between problem-focused andemotion-focused coping. Problem-focused coping involves direct efforts to manage oralter the stressful situation. In the work context, these efforts can include eliminatingobstacles that impede workflow or engaging in activities to increase one’s knowledgeand skills. Emotion-focused coping involves changing the way one thinks or feels aboutthe stressful situation. This form of coping is inward focused and involves cognitiveprocesses (e.g., reappraisals, distorting reality) directed at reducing emotional distress.Emotion-focused coping is more likely when there has been an appraisal that little ornothing can be done to modify the stressful situation (i.e., low controllability), whereasproblem-focused coping is more probable when stressful situations are appraised asamenable to change (i.e., high controllability) [37, 38].In couching SRS and its associated user response within coping theory, we augmentthe stress literature with research that considers user adaptation strategieswhen faced with significant IT events (e.g., technological change). User adaptation

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิจัยที่ยังหลงเหลืออยู่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเป็นตัวแทนของ SRS โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เกินความซับซ้อนและขนาดความไม่แน่นอนมีความสอดคล้องกับหลาย
คุณสมบัติอย่างเป็นทางการของสภาวะเครียด (เช่นความคลุมเครือไม่แน่นอนไวเวลา
uncontrollability) ระบุในวรรณคดีความเครียด [37, 38] และ
ได้รับการยอมรับหลายกดดันการทำงานเชิงลบ เช่นการทำงานเกินความยากลำบากงาน
ไม่แน่นอนด้านสิ่งแวดล้อมพันธนาการสถานการณ์และยุ่งยากในการบริหาร [25, 39,
49] ขนาด SRS ยังมีลักษณะคล้ายกับสภาวะเครียดที่เกิดจากเทคโนโลยีที่
เปลี่ยนแปลง [45] และรวมการวิจัยที่ชี้ไปที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและ
การพัฒนาความต้องการความปลอดภัยเป็นผู้สร้างความเครียด [51] สอดคล้องกับ technostress
ผู้สร้างสร้างเราคิด SRS เป็นลำดับที่สองสร้างที่แสดง
ผ่าน subconstructs ลำดับแรกของ.
การเผชิญปัญหาทฤษฎี
ทฤษฎีการรับมือ [38] ให้กรอบสำหรับการทำความเข้าใจวิธีการตอบสนองต่อพนักงาน
เพื่อ SRS ทฤษฎีที่อธิบายถึงกระบวนการทางความรู้และพฤติกรรมในการจัดการทางด้านจิตใจ
ความเครียดที่ SRS ได้รับการพิจารณาเช่น แม้ว่าทฤษฎีการรับมือ
เป็นส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองของแต่ละบุคคลที่จะความเครียดหลังจากที่
มันได้รับประสบการณ์ (เมื่อเทียบกับกระบวนการสร้างความเครียดที่อธิบายไว้ใน
รูปแบบของการทำธุรกรรมตามของความเครียด [37]) การประเมินความรู้ความเข้าใจของความเครียดเป็นขั้นตอนแรก
ใน ขั้นตอนการรับมือ ทฤษฎีการรับมือถือได้ว่าบุคคลทั้งสองผ่านไปความสัมพันธ์
รูปแบบของการประเมินประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในการพิจารณาว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
สถานการณ์ที่เครียด ในการประเมินหลักคนประเมินความเกี่ยวข้องของ
สถานการณ์และไม่ว่าจะเป็นพิษเป็นภัยหรือเครียด สถานการณ์ที่เครียดเป็นผู้ประเมิน
เป็นอันตรายคุกคามหรือความท้าทาย ในการประเมินผลรองผู้ประเมิน
/ การควบคุมของเธอมากกว่าสถานการณ์ความตึงเครียดของเขา แม้จะมีชื่อของพวกเขาหลักและรอง
มักจะประเมินผลการดำเนินงานในเวลาเดียวกัน [38] ดังนั้นเราจะพิจารณา SRS ผลของการ
รวมกระบวนการประเมินประถมศึกษาและมัธยมศึกษา.
การรวมกันของการประเมินประถมศึกษาและมัธยมศึกษาก่อให้เกิดความพยายามในการเผชิญปัญหา
ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อบรรเทาความเครียดรู้สึก แม้ว่าการจำแนกประเภทจำนวนมากในการรับมืออยู่ใน
วรรณคดี [38, 48], ความแตกต่างที่ใช้กันอย่างแพร่หลายอยู่ระหว่างปัญหาที่มุ่งเน้นและ
อารมณ์ความรู้สึกที่มุ่งเน้นการเผชิญปัญหา การเผชิญปัญหาที่มุ่งเน้นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความพยายามโดยตรงในการจัดการหรือ
แก้ไขสถานการณ์ความตึงเครียด ในบริบทการทำงาน, ความพยายามเหล่านี้อาจรวมถึงการขจัด
อุปสรรคที่ขัดขวางขั้นตอนการทำงานหรือการมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อเพิ่มความรู้ของคน
และทักษะ การเผชิญปัญหาที่มุ่งเน้นอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดหรือรู้สึกเกี่ยวกับ
สถานการณ์ความตึงเครียด รูปแบบของการเผชิญปัญหานี้จะเน้นขาเข้าและองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับ
กระบวนการ (เช่น reappraisals บิดเบือนความเป็นจริง) กำกับในการลดความทุกข์ทางอารมณ์.
การเผชิญปัญหาที่มุ่งเน้นอารมณ์มีแนวโน้มมากขึ้นเมื่อได้มีการประเมินว่าน้อยหรือ
ไม่มีอะไรที่สามารถทำได้เพื่อแก้ไขสถานการณ์ความตึงเครียด (เช่นการควบคุมต่ำ) ในขณะที่
การเผชิญปัญหาที่มุ่งเน้นปัญหาน่าจะเป็นมากขึ้นเมื่อสถานการณ์ที่เครียดมีการประเมินเป็น
คล้อยตามการเปลี่ยนแปลง (เช่นการควบคุมสูง) [37, 38].
ใน couching SRS และการตอบสนองการใช้งานที่เกี่ยวข้องภายในทฤษฎีการรับมือเราเพิ่ม
วรรณกรรมความเครียดกับการวิจัยที่จะพิจารณากลยุทธ์การปรับตัวของผู้ใช้
เมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญไอที (เช่นการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี) การปรับตัวของผู้ใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิจัยยังให้พื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเป็นตัวแทนของ SRS . โดย
เกินพิกัด ความซับซ้อน และมิติความสอดคล้องกับหลาย
อย่างเป็นทางการคุณสมบัติของภาวะเครียด ( เช่น ความคลุมเครือ ความไม่แน่นอนของเวลา ความไว
uncontrollability ) ระบุในความเครียดวรรณกรรม [ 37 , 38 ] และได้รับการยอมรับทางทำงานความเครียด
หลาย ,เช่น เกินพิกัด งานยากงาน
สิ่งแวดล้อมความไม่แน่นอนใดๆ สถานการณ์ และเพิ่มการบริหาร [ 25 , 39 ,
49 ] SRS ขนาดยังคล้ายเครียดเงื่อนไขนำโดยเทคโนโลยี
เปลี่ยน [ 45 ] รวมวิจัยและจุดที่เคยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและ
พัฒนาความต้องการความปลอดภัยความเครียดผู้สร้าง [ 51 ] สอดคล้องกับ technostress
ผู้สร้างสร้าง เราคิดสร้าง SRS เป็นอันดับที่สองที่แสดงถึงความ subconstructs
.
=
= ทฤษฎีทฤษฎี [ 38 ] ให้กรอบสำหรับการทำความเข้าใจวิธีการพนักงานตอบด้วย
กับ SRS . ทฤษฎีที่อธิบายถึงกระบวนการจัดการความรู้ความเข้าใจและพฤติกรรมทางจิตวิทยา
ความเครียด ซึ่ง SRS สามารถพิจารณาเป็นตัวอย่าง แม้ว่าความเครียดทฤษฎี
เป็นหลักที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองของแต่ละคนมีความเครียดหลังจาก
ได้รับประสบการณ์ ( ตรงข้ามกับความเครียด การสร้างกระบวนการที่อธิบายไว้ในรายการตามรูปแบบของความเครียด
[ 37 ] ) , การประเมินทางปัญญาของความเครียดเป็นขั้นตอนแรกในการเผชิญ
กระบวนการ ทฤษฎีการถือว่าบุคคลที่ผ่านสองคาบ
รูปแบบของการประเมินผลประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในการพิจารณาว่า สถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจง
เป็นเคร่งเครียด ในการประเมินเบื้องต้น บุคคลประเมินความเกี่ยวข้องของ
สถานการณ์และไม่ว่าจะเป็นอ่อนโยนหรือเครียด สถานการณ์ที่เคร่งเครียดเป็นผู้ประเมิน
เป็นอันตราย คุกคามหรือท้าทาย ในการประเมินระดับบุคคลประเมิน
ของเขา / เธอสามารถควบคุมสถานการณ์ที่เคร่งเครียดแม้ว่าชื่อของพวกเขา , ประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
การประเมินมักใช้ในพร้อมเพรียงกัน [ 38 ] ดังนั้น เราต้องพิจารณาผลของ SRS
รวมกระบวนการหลักและการประเมินผลมัธยมศึกษา
การรวมกันของประถมศึกษาและมัธยมศึกษาให้สูงขึ้นเพื่อการประเมินผลความพยายาม
ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อบรรเทาความรู้สึกเครียด แม้ว่าหลายเรื่องที่เผชิญอยู่ในวรรณกรรม 38
[ 48 ]ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและความแตกต่างระหว่างปัญหาเน้น
อารมณ์เครียด . ปัญหาเครียดเกี่ยวข้องกับความพยายามโดยตรงในการจัดการหรือ
เปลี่ยนสถานการณ์ที่เคร่งเครียด ในบริบทของงาน ความพยายามเหล่านี้สามารถรวมถึงการขจัดอุปสรรคที่ขัดขวาง
เวิร์กโฟลว์ หรือมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ เพื่อเพิ่มความรู้และทักษะของ
.อารมณ์เครียดเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงวิธีคิด หรือรู้สึกกับ
สถานการณ์ที่เคร่งเครียด แบบฟอร์มนี้ของการเป็นขาเข้ามุ่งเน้นและเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางปัญญา ( เช่น reappraisals
, , บิดเบือนความจริง ) มุ่งไปที่การลดความทุกข์ทางอารมณ์ อารมณ์เครียด
มีแนวโน้มมากขึ้นเมื่อมีการประเมินที่น้อยหรือ
ไม่มีอะไรที่สามารถทำได้เพื่อแก้ไขสถานการณ์ตึงเครียด ( เช่นควบคุมต่ำ ) ส่วน
ปัญหาเครียดน่าจะเป็นมากขึ้นเมื่อสถานการณ์ตึงเครียดจะประเมินว่า
ซูฮกเปลี่ยนแปลง ( เช่น ควบคุมสูง ) [ 37 , 38 ] .
ในสอน SRS และที่เกี่ยวข้องการตอบสนองผู้ใช้ในการเผชิญความเครียด ทฤษฎี เราต่อเติม
วรรณกรรมกับงานวิจัยที่เห็นว่ากลยุทธ์การปรับตัวของผู้ใช้
เมื่อเผชิญ กับเหตุการณ์สำคัญมัน ( เช่นการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ) การปรับตัวของผู้ใช้