MANAGERIAL SKILLS AND COMPETENCIEST

MANAGERIAL SKILLS AND COMPETENCIES

The skills of managers have now become an important factor to address global competitiveness at the organizational level and also at the national level. However, imparting skills through training and development is not yet recognized as an important initiative to be taken at the organizational level due to the problem of quantification of benefits. Skills developed through training are a coordinated series of actions that serve to attain some goal or accomplish a particular task. Operationally, skills are defined widely as overt responses and controlled stimulation. Overt responses may be verbal, motor, or perceptual. Verbal responses typically stress on speaking (which requires memorization of words), motor responses stress on movements of limbs and body, and perceptual responses stress on understanding of sensory responses.
It takes months to acquire motor skills which further require sustained practice. Through controlled stimulations, these acquired skills can be retained, as workers are exposed to the application of skill. When a machine operator is taken through the training and learning process involving new technology, they cannot make use of their knowledge unless they put the learned skills into operation. The process of controlled stimulation, that is, the irritation of the muscles, nerves, or sensory organs is used to evoke a response to particular activities, which gradually develops the skill of the workers in the post-learning phase. Therefore, controlled stimulations are energy inputs to workers, which are expressed in units of frequency, length, time, and weight.
Technological change and skill requirements have been made a subject of investigation in enormous studies across the world. There is a general consensus that technological change alters the job but the observations differ on the aspects of nature and form. The neo-classical economic theory stated that technological changes require a broader variety of skills and higher average skills from workers. New forms of skill and responsibility along with technological change have been studied in continuous process industry and chemical manufacturing units, petroleum refining, metal working industries, banking operations, and many other industries that use advanced mechanization. Another school of thought advocates that technology is instrumental in fractionating and de-skilling of jobs. Redesigning of jobs subsequent to technological change separates the planning and the concept of the job in its totality from the execution aspect of work. De-skilling and skill downgrading also occur due to differential growth of high-versus low-skill occupations and industries. The focal point of this hypothesis is that technology induces differential points of growth for sectors of the economy and produces skill polarization through eventual occupational shift to skilled jobs in some industries and unskilled jobs in many others. These phenomena are especially evident in India. From the 1981 Census onwards, one finds a major occupational shift of workers from the primary sector to the secondary sector and from the secondary sector to the tertiary sector. Simultaneous structural change in occupational patterns is also evident, as the number of blue-collar workers has been drastically reduced while the number of white-collar workers has significantly increased. In contrast, another school of thought argues that de-skilling is a secondary consequence of de-industrialization, which again is prompted by technological change. One other approach, which is the mixed change or conditional position, is more a characterization of the empirical evidence than a well-developed theory.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จัดการทักษะและความสามารถ

ทักษะของผู้จัดการตอนนี้ได้กลายเป็น ปัจจัยสำคัญการแข่งขันทั่วโลกที่อยู่ ในระดับองค์กร และระดับชาติ อย่างไรก็ตาม imparting ทักษะผ่านการฝึกอบรมและพัฒนาไม่ได้รู้จักเป็นความคิดริเริ่มสำคัญที่จะใช้ในระดับองค์กรเนื่องจากปัญหาของการนับผลประโยชน์ ทักษะที่พัฒนาขึ้นผ่านการฝึกอบรมชุดประสานการดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายบางอย่าง หรือทำงานเฉพาะ ได้ Operationally ทักษะไว้อย่างกว้างขวางเป็นคำตอบที่แจ่มแจ้งและกระตุ้นควบคุมการ ตอบสนองแจ่มแจ้งได้ด้วยวาจา มอเตอร์ หรือ perceptual ตอบด้วยวาจาโดยทั่วไปความเครียดพูด (ที่ต้องท่องจำคำ), รถตอบสนองความเครียดเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของแขนขาและร่างกาย และ perceptual ตอบสนองความเครียดในความเข้าใจของการตอบสนองทางประสาทสัมผัส
ก็เดือนเพื่อซื้อมอเตอร์ทักษะที่ต้องฝึกหัด sustained เพิ่มเติม โดยดึงควบคุม ทักษะเหล่านี้ได้รับสามารถถูกรักษา เป็นคนที่มีสัมผัสเพื่อการประยุกต์ใช้ทักษะไว้ เมื่อตัวเครื่องถูกนำมาผ่านการฝึกอบรมและกระบวนการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใหม่ พวกเขาไม่สามารถทำให้ใช้ความรู้จนกว่าจะนำทักษะเรียนรู้ไปดำเนินการ ใช้กระบวนการควบคุมกระตุ้น นั่นคือ การระคายเคืองของกล้ามเนื้อ เส้นประสาท หรืออวัยวะรับความรู้สึกให้เรามอบให้การตอบรับกิจกรรมเฉพาะ ซึ่งค่อย ๆ พัฒนาทักษะของผู้ปฏิบัติงานในระยะหลังเรียน ดังนั้น ควบคุมดึงมีพลังงานอินพุตกับแรง ซึ่งแสดงในหน่วยของความถี่ ความยาว เวลา และน้ำหนัก
ความเปลี่ยนแปลงและทักษะเทคโนโลยีได้ทำเรื่องสอบสวนในการศึกษาขนาดใหญ่ทั่วโลก มีฉันทามติทั่วไปว่า เปลี่ยนเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป แต่ข้อสังเกตที่แตกต่างกันในด้านธรรมชาติและแบบฟอร์ม นีโอคลาสสิกทฤษฎีเศรษฐกิจระบุว่า เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงต้องการกว้างขึ้นหลากหลายทักษะทักษะเฉลี่ยสูงขึ้นจากผู้ปฏิบัติงาน มีการศึกษารูปแบบใหม่ของทักษะและความรับผิดชอบพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมกระบวนการอย่างต่อเนื่อง และหน่วยผลิตสารเคมี กลั่นปิโตรเลียม อุตสาหกรรมงานโลหะ งานธนาคาร และอุตสาหกรรมอื่น ๆ มากมายที่ใช้ mechanization ขั้นสูง ความคิดของโรงเรียนอื่นสนับสนุนให้ เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือใน fractionating และเดอทักษะของงาน Redesigning งาน subsequent to เปลี่ยนเทคโนโลยีแยกการวางแผนและแนวคิดของงานในผลของมันจากด้านการดำเนินงาน เดอทักษะและทักษะนักการยังเกิดขึ้นเนื่องจากการเจริญเติบโตส่วนสูง-เทียบกับต่ำทักษะอาชีพและอุตสาหกรรม จุดเด่นของสมมติฐานนี้คือ เทคโนโลยีจุดแตกต่างของการเติบโตในภาคเศรษฐกิจแท้จริง และสร้างทักษะโพลาไรซ์ผ่านกะในอาชีพการงานฝีมือในบางอุตสาหกรรมและงานอื่น ๆ อีกมากมายไร้ฝีมือ ปรากฏการณ์เหล่านี้จะเห็นได้ชัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอินเดีย จากสำมะโนปี 1981 เป็นต้นไป หนึ่งพบหลักอาชีวกะแรงงาน จากภาคหลักกับภาคสอง และภาคสองภาคต่อ พร้อมเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในรูปแบบอาชีพก็ชัด เป็นจำนวนแรงงาน blue-collar ได้อย่างรวดเร็วลดลงในขณะที่จำนวนแรงงาน white-collar ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในทางตรงกันข้าม ความคิดของโรงเรียนอื่นจนทักษะเดที่เป็นเวรรองชื่นทวีความรุนแรงมาก ซึ่งอีกครั้ง เตือนตามการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี หนึ่งอื่น ๆ วิธี ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงผสมหรือตำแหน่งตามเงื่อนไข เป็นมากกว่าการจำแนกหลักฐานประจักษ์กว่าทฤษฎีพัฒนาห้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทักษะการจัดการและความสามารถ

ทักษะของผู้จัดการมีตอนนี้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่อยู่ในการแข่งขันระดับโลกในระดับองค์กรและระดับประเทศ อย่างไรก็ตาม ด้านทักษะที่ผ่านการฝึกอบรมและพัฒนาคือยังไม่รับรู้เป็นความคิดริเริ่มที่สำคัญที่จะต้องดำเนินการในระดับขององค์กร เนื่องจากปัญหาของปริมาณของผลประโยชน์ทักษะพัฒนาผ่านการฝึกอบรมเป็นชุดของการกระทำที่ประสานงานให้บรรลุเป้าหมายหรือทำงานโดยเฉพาะ ดี ทักษะ มีการกำหนดกันอย่างแพร่หลายเป็นคำตอบชัดเจน และควบคุมการกระตุ้น การตอบสนองที่ชัดเจน อาจจะด้วยวาจา , มอเตอร์ , หรือ ฯลฯ การตอบสนองทางวาจาโดยทั่วไปความเครียดในการพูด ( ซึ่งต้องใช้ความจำของคำ )ความเครียดการตอบสนองการเคลื่อนไหวของแขนขา และตัวมอเตอร์ และตอบสนองต่อความเครียดในความเข้าใจของการรับรู้ทางประสาทสัมผัส
มันใช้เวลาเป็นเดือนที่จะได้รับทักษะยนต์ซึ่งต่อไปจะต้องได้รับการปฏิบัติ ผ่านควบคุมตัวกระตุ้นเหล่านี้ทักษะที่ได้มาจะถูกเก็บไว้เป็นคนงานสัมผัสกับการใช้ทักษะเมื่อเครื่องถูกผู้ประกอบการผ่านการฝึกอบรมและการเรียนรู้กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใหม่ที่พวกเขาไม่สามารถใช้ประโยชน์จากความรู้ของพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะวางได้เรียนรู้ทักษะในการดำเนินงาน กระบวนการควบคุม การกระตุ้น คือ การระคายเคืองของกล้ามเนื้อ เส้นประสาท อวัยวะ หรือประสาทสัมผัสที่ใช้เพื่อทำให้เกิดการตอบสนองต่อกิจกรรมที่เฉพาะเจาะจงซึ่งค่อย ๆ พัฒนาทักษะของแรงงานในการโพสต์ขั้นตอนการเรียนรู้ . ดังนั้น ตัวกระตุ้นควบคุมเป็นพลังงานปัจจัยแรงงาน ซึ่งจะแสดงในหน่วยของความถี่ ความยาว เวลา น้ำหนัก การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและความต้องการทักษะ
ได้ทําเรื่องของการสืบสวนในมหาศาลการศึกษาทั่วโลกมีฉันทามติทั่วไปที่เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป แต่สังเกตงานแตกต่างกันในด้านลักษณะและรูปแบบ นีโอคลาสสิกทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีต้องกว้างความหลากหลายของทักษะ และมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าทักษะจากคนงานรูปแบบใหม่ของทักษะและความรับผิดชอบ พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีได้รับการศึกษาในหน่วยการผลิตทางเคมีกระบวนการอุตสาหกรรมต่อเนื่องปิโตรเคมี อุตสาหกรรมโลหะ งานธนาคาร และหลายอื่น ๆ อุตสาหกรรมที่ใช้ในขั้นสูง อีกหนึ่งโรงเรียนแห่งความคิดที่สนับสนุนว่า เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือใน fractionating เดอ skilling และอาชีพการปรับปรุงงานภายหลังการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่แยกการวางแผนและแนวคิดของงานในของผลจากการดำเนินการด้านงาน เดอ skilling และปรับลดทักษะ ยังเกิดขึ้นเนื่องจากความแตกต่างเติบโตสูงเมื่อเทียบกับระดับทักษะอาชีพและอุตสาหกรรมจุดโฟกัสของสมมติฐานนี้เป็นเทคโนโลยีที่ก่อให้เกิดความแตกต่างจุดของการเจริญเติบโตในภาคเศรษฐกิจ และสร้างทักษะด้านอาชีพผ่านในที่สุดกะงานมีฝีมือในบางอุตสาหกรรม และงานไร้ฝีมือในอื่น ๆอีกมากมาย ปรากฏการณ์เหล่านี้จะเห็นได้ชัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอินเดีย จากการสำรวจสำมะโนประชากร 1981 เป็นต้นมาจะเปลี่ยนอาชีพหลักของแรงงานจากภาคหลักกับภาครองจากภาครองภาคตติยภูมิ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพร้อมกันในรูปแบบอาชีพ ยังปรากฏชัด เช่น จำนวนคนงานปกเสื้อสีฟ้าได้ลดลงอย่างมากในขณะที่จํานวนคนงานคอปกขาว มีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ ในทางตรงกันข้ามอีกหนึ่งโรงเรียนแห่งความคิดแย้งว่า เดอ สกิลลิงเป็นผลทุติยภูมิของอุตสาหกรรมอีกครั้งซึ่งจะได้รับการพร้อมท์ โดยการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี อีกวิธีหนึ่ง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบผสม หรือตำแหน่งที่มีเงื่อนไข เป็นลักษณะเฉพาะของหลักฐานเชิงประจักษ์มากกว่าทฤษฎีการพัฒนา