Laryngomalacia is the most common e

Laryngomalacia is the most common etiology of upper airway obstruction in infancy and early childhood, and is usually benign in nature.1 Carbon dioxide laser supraglottoplasty was considered an effective procedure to treat severe laryngomalacia.2,3 However, 0-29% of patients with severe laryngomalacia did not respond to laser supraglottoplasty, especially those with co-existing pharyngomalacia.2 Therefore, the concept of DPLM was introduced by Froehlich P. et al. in 1997. It was considered as a result of the discoordinate process of the upper airway muscles, and therefore persistent respiratory distress after laser supraglottoplasty.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Laryngomalacia เป็นวิชาการมากที่สุดของการอุดตันบนสินค้าในตราสินค้าและปฐมวัย และมักจะอ่อนโยนใน nature.1 คาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์ supraglottoplasty ถูกพิจารณาว่ามีประสิทธิภาพกระบวนการในการรักษา laryngomalacia.2,3 รุนแรงอย่างไรก็ตาม 0-29% ของผู้ป่วยที่มี laryngomalacia รุนแรงไม่ตอบสนองการเลเซอร์ supraglottoplasty โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ มี pharyngomalacia.2 ที่มีอยู่ร่วมกันดังนั้น แนวคิดของ DPLM ถูกนำโดย Froehlich P. et al. ในปี 1997 ถูกถือว่าเป็นผลมาจากกระบวนการทำบนกล้ามเนื้อ และทุกข์หายใจดังแบบ discoordinate หลังจากเลเซอร์ supraglottoplasty

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Laryngomalacia เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของการอุดตันทางเดินหายใจส่วนบนในวัยทารกและวัยเด็กและมักจะเป็นพิษเป็นภัยใน nature.1 คาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์ supraglottoplasty ได้รับการพิจารณาตามขั้นตอนที่มีประสิทธิภาพในการรักษา laryngomalacia.2,3 รุนแรงอย่างไรก็ตาม 0-29% ของผู้ป่วยที่มี laryngomalacia รุนแรงไม่ตอบสนองต่อเลเซอร์ supraglottoplasty โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มี pharyngomalacia.2 ร่วมที่มีอยู่ดังนั้นแนวคิดของ DPLM ถูกนำโดย Froehlich พีและคณะ ในปี 1997 มันได้รับการพิจารณาเป็นผลมาจากกระบวนการ discoordinate ของกล้ามเนื้อทางเดินหายใจส่วนบนและความทุกข์ทางเดินหายใจดังนั้นจึงถาวรหลังจากเลเซอร์ supraglottoplasty

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

laryngomalacia เป็นส่วนใหญ่สาเหตุบนทางเดินหายใจอุดตันในวัยทารกและวัยเด็ก และมักจะเป็นหนึ่งในธรรมชาติ supraglottoplasty เลเซอร์ 1 ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นขั้นตอนที่มีประสิทธิภาพในการรักษาที่รุนแรง laryngomalacia . 2 อย่างไรก็ตาม 0-29 % ของผู้ป่วยรุนแรง laryngomalacia ไม่ตอบสนองต่อเลเซอร์ supraglottoplasty , โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Co pharyngomalacia ที่มีอยู่2 ดังนั้น แนวคิดของ dplm แนะนำ froehlich หน้า et al . ในปี 1997 ก็ถือว่าเป็นผลของกระบวนการของกล้ามเนื้อทางเดินหายใจส่วนบน discoordinate และดังนั้นจึงหมั่นหายใจลำบากหลังจากเลเซอร์ supraglottoplasty .