Based on this view, Inoue (1972, 19

Based on this view, Inoue (1972, 1973) developed a different ERCLMD that worked through the principle of electrical resistance but was modified by the addition of an audible ‘marker tone’.
The principle of measuring root canal length by this device is based on the assumption that the low frequency oscillation, as produced by the resistance and capacity between the oral mucous membrane and the gingival sulcus, is the same as the frequency between the periodontal ligament (at the canal terminus) and the oral mucous membrane

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตามมุมมองนี้ โนะอุเอะ (1972, 1973) พัฒนา ERCLMD ต่าง ๆ ที่ทำงานโดยใช้หลักการของความต้านทานไฟฟ้า แต่ถูกปรับเปลี่ยน โดยการเพิ่มของการเสียง 'เครื่องหมายเสียง' .
หลักการวัดความยาวรากฟันโดยอุปกรณ์นี้เป็นไปตามสมมติฐานที่สั่นความถี่ต่ำ ผลิต โดยความต้านทานและความจุระหว่างเยื่อบุช่องปากและร่อง gingival เป็นเหมือนกับความถี่ระหว่างเอ็นโรคเหงือก (ที่นัสคลอง) และเยื่อบุช่องปาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขึ้นอยู่กับมุมมองนี้อิโนอุเอะ (1972, 1973) การพัฒนา ERCLMD แตกต่างกันที่ทำงานผ่านหลักการของความต้านทานไฟฟ้า แต่มีการปรับเปลี่ยนโดยนอกเหนือจากเสียง 'เครื่องหมายเสียง'
หลักการของการวัดความยาวของคลองรากฟันโดยอุปกรณ์นี้จะขึ้นอยู่กับ สันนิษฐานว่าความถี่ต่ำที่ผลิตโดยความต้านทานและความจุระหว่างเยื่อเมือกในช่องปากและร่องเหงือกเป็นเช่นเดียวกับความถี่ระหว่างเอ็นปริทันต์ (ที่สถานีคลอง) และเยื่อเมือกในช่องปาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากมุมมองนี้ , อิโนะอุเอะ ( 1972 , 1973 ) การพัฒนาที่แตกต่างกัน erclmd ที่ทำงานผ่านหลักการของความต้านทาน ไฟฟ้า แต่ก็แก้ไขโดยการเพิ่มของเครื่องหมายเสียง ' โทน ' .
หลักการของการวัดความยาวรากฟัน โดยอุปกรณ์นี้มีพื้นฐานอยู่บนสมมติฐานว่า การสั่นความถี่ต่ำผลิตโดยความต้านทานและความจุระหว่างเยื่อบุช่องปากและร่องเหงือกจะเหมือนกับความถี่ระหว่างเอ็นยึดปริทันต์ ( คลองปลายทาง ) และเยื่อบุช่องปาก