An average, or typical, case is oft

An average, or typical, case is often not the richest in information. In clarifying lines of history and causation it is more useful to select subjects that offer an interesting, unusual or particularly revealing set of circumstances. A case selection that is based on representativeness will seldom be able to produce these kinds of insights. When selecting a subject for a case study, researchers will therefore use information-oriented sampling, as opposed to random sampling. Outlier cases (that is, those which are extreme, deviant or atypical) reveal more information than the potentialy representative case. Alternatively, a case may be selected as a key case, chosen because of the inherent interest of the case or the circumstances surrounding it. Or it may be chosen because of researchers' in-depth local knowledge; where researchers have this local knowledge they are in a position to “soak and poke” as Fenno[5] puts it, and thereby to offer reasoned lines of explanation based on this rich knowledge of setting and circumstances.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กรณีที่ค่าเฉลี่ยหรือโดยทั่วไปมักจะไม่ร่ำรวยที่สุดในข้อมูล ชัดเจนในบรรทัดของประวัติศาสตร์และสาเหตุมันเป็นประโยชน์มากขึ้นเพื่อเลือกหัวข้อที่นำเสนอชุดที่น่าสนใจผิดปกติหรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดเผยจากสถานการณ์ เลือกกรณีที่เป็นไปตามมูลไม่ค่อยจะสามารถผลิตสินค้าทุกชนิดเหล่านี้ของข้อมูลเชิงลึก เมื่อเลือกเรื่องกรณีศึกษา,นักวิจัยจึงจะใช้การสุ่มข้อมูลเชิงตรงข้ามกับการใช้วิธีการสุ่ม กรณีค่าผิดปกติ (นั่นคือผู้ที่มีมากผิดปกติหรือผิดปกติ) เปิดเผยข้อมูลมากขึ้นกว่ากรณีที่ตัวแทน potentialy ฉะนั้นกรณีที่อาจจะถูกเลือกเป็นกรณีที่สำคัญได้รับการแต่งตั้งเพราะความสนใจโดยธรรมชาติของกรณีหรือสถานการณ์รอบมันหรือมันอาจจะเลือกเพราะความรู้ท้องถิ่นของนักวิจัยในเชิงลึก; นักวิจัยที่มีความรู้ท้องถิ่นนี้พวกเขาอยู่ในฐานะที่จะ "แช่และกระตุ้น" ขณะที่ Fenno [5] ทำให้มันและจึงจะนำเสนอสายของการอธิบายเหตุผลบนพื้นฐานของ นี้ความรู้ที่อุดมไปด้วยการตั้งค่าและสถานการณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กรณีค่าเฉลี่ย หรือทั่ว ไป มักจะไม่ได้รวยที่สุดในข้อมูล ในการทำรายการประวัติและ causation เป็นประโยชน์เพื่อเลือกเรื่องที่นำเสนอเป็นชุดที่น่าสนใจ ปกติ หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง revealing สถานการณ์ การเลือกกรณีตาม representativeness แทบจะสามารถผลิตความเข้าใจต่าง ๆ เหล่านี้ เมื่อเลือกหัวข้อสำหรับกรณีศึกษา นักวิจัยดังนั้นจะใช้ข้อมูลเชิงสุ่ม ตรงข้ามกับการสุ่มตัวอย่างแบบสุ่ม กรณี outlier (นั่นคือ ผู้ที่มีมาก deviant หรืออักเสบ) เปิดเผยข้อมูลมากขึ้นกว่ากรณีพนักงานอาจ หรือ กรณีอาจเลือกเป็นกรณีสำคัญ เลือก เพราะสนใจแต่กำเนิดของกรณีและปัญหาหรือสถานการณ์โดยรอบ หรืออาจจะเลือก เพราะการวิจัยเชิงลึกความเป็นท้องถิ่น นักวิจัยมี ความรู้ท้องถิ่นนี้จะอยู่ในตำแหน่ง "แช่ และโผล่" เป็น Fenno [5] ทำให้มัน แล้วจึงให้ reasoned บรรทัดคำอธิบายตามความรู้นี้อุดมไปด้วยการตั้งค่าและสถานการณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โดยเฉลี่ยแล้วกรณีหรือตามแบบอย่างที่เป็นอยู่ไม่ได้ร่ำรวยที่สุดในข้อมูล ในวิธีการต่างๆของสายประวัติศาสตร์และความเป็นเหตุผลมันจะเป็นประโยชน์อยู่มากที่จะเลือกหัวข้อที่จัดให้บริการตั้งค่าผิดปกติหรือโดยเฉพาะซึ่งจะเผยให้เห็นที่น่าสนใจของสถานการณ์ การเลือกเคสที่มีอยู่ในเท่ากับจะสามารถผลิต ประเภท นี้แทบจะไม่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เมื่อมีการเลือกชื่อเรื่องสำหรับกรณีศึกษานักวิจัยจะใช้การสุ่มตัวอย่างข้อมูล - ตามทิศทางตรงข้ามกับการสุ่มตัวอย่างดังนั้น กรณี outlier (ที่เป็นผู้ที่มี Extreme ออกนอกลู่นอกทางเช่นนี้หรือรูสึกปลอดโปร่งโล่งสบาย)เปิดเผยข้อมูลมากกว่า potentialy กรณีตัวแทน มีทางเลือกสำหรับกรณีที่อาจจะได้รับเลือกให้เป็นคดีสำคัญที่ได้รับการเลือกสรรเพราะของดอกเบี้ยที่มีอยู่ของกรณีหรือสถานการณ์อยู่โดยรอบหรืออาจจะเลือกเพราะความรู้ในด้านของท้องถิ่นความลึกของนักวิจัยที่นักวิจัยมีความรู้ท้องถิ่นแห่งนี้ห้องพักมีอยู่ในตำแหน่งที่"แช่ตัวและสะกิดเรียก"เป็น fenno [ 5 ]จะทำให้ได้และจะให้บริการสายเหตุผลของคำอธิบายบนพื้นฐานความรู้ที่หลากหลายนี้ของสถานการณ์และการตั้งค่า