Background: Women in criminal justi

Background: Women in criminal justice settings have an increased prevalence of cervical cancer compared with the general population. However, little is known about abnormal cervical cancer screening results among women in jail and community-based criminal justice settings. Thus, the aims of this study were to compare the prevalence of self-reported abnormal Papanicolou (Pap) test results in women in jail and under community criminal justice supervision and to examine factors associated with abnormal Pap tests in these criminal justice settings. Methods: We analyzed data from two cross-sectional surveys of women in jails and community corrections in two Southern cities ( n=380) about their history of abnormal Pap tests and risk factors for cervical cancer. Univariate analyses (analysis of variance [ANOVA] and chi-square) and a binary logistic regression analysis were conducted to test associations between a history of abnormal Pap testing and factors known to be associated with cervical cancer. Results: Nearly half of the women surveyed ( n=163, 43%) reported ever having an abnormal Pap test. There was a high prevalence of risk factors for cervical cancer among women with and without an abnormal Pap test. After controlling for age and race, there were significant associations between an abnormal Pap test and inconsistent use of barrier protection (odds ratio [OR] 2.01, 95% confidence interval [CI] 1.18-3.43), having a history of gynecologic infections (OR 1.68, 95% CI 1.05-2.67), and having a history of sexually transmitted diseases (OR 1.92, 95% CI 1.17-3.15). Conclusions: Women in jail and under community justice supervision reported a high prevalence of risk factors for cervical cancer. Because of their high prevalence of abnormal Pap testing, women in criminal justice settings may be appropriate targets for improved cervical cancer screening, prevention with human papillomavirus (HPV) vaccination, risk reduction education, and treatment

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้นหลัง: ผู้หญิงในการตั้งค่าความยุติธรรมทางอาญามีความชุกที่เพิ่มขึ้นของมะเร็งปากมดลูกเมื่อเทียบกับประชากรทั่วไป แต่ไม่ค่อยมีใครรู้เกี่ยวกับความผิดปกติของผลการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในสตรีที่อยู่ในคุกและการตั้งค่าความยุติธรรมทางอาญาชุมชนตาม จึงจุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้มีการเปรียบเทียบความชุกของตนเองรายงาน papanicolou ผิดปกติ (PAP) ผลการทดสอบในผู้หญิงที่อยู่ในคุกและอยู่ภายใต้ความยุติธรรมทางอาญาชุมชนการกำกับดูแลและการตรวจสอบปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบอาหารเหลวผิดปกติในการตั้งค่าความยุติธรรมทางอาญาเหล่านี้ วิธีการ:เราวิเคราะห์ข้อมูลจากการสำรวจทั้งสองตัดขวางของผู้หญิงในคุกและการแก้ไขชุมชนในเมืองทั้งสองภาคใต้ (n = 380) เก​​ี่ยวกับประวัติศาสตร์ของพวกเขาของการทดสอบหัวนมผิดปกติและปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกการวิเคราะห์ univariate (การวิเคราะห์ความแปรปรวน [แปรปรวน] และไคสแควร์) และการวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติกไบนารีได้ดำเนินการในการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างประวัติศาสตร์ของการทดสอบหัวนมผิดปกติและปัจจัยที่รู้จักกันจะเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งปากมดลูก ผล: เกือบ (n = 163, 43%) ครึ่งหนึ่งของผู้หญิงที่สำรวจรายงานเคยมีการทดสอบหัวนมผิดปกติมีความชุกสูงของปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงที่มีและไม่มีการทดสอบหัวนมผิดปกติ หลังจากควบคุมอายุและการแข่งขันมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างการทดสอบอาหารเหลวผิดปกติและการใช้งานที่ไม่สอดคล้องกันของการป้องกันอุปสรรค (odds ratio [หรือ] 2.01, 95% confidence interval [CI] 1.18-3.43) มีประวัติของการติดเชื้อทางนรีเวช (หรือ 1.68, 95% CI 1.05-2.67)และมีประวัติของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (หรือ 1.92, 95% CI 1.17-3.15) ข้อสรุป: ผู้หญิงในคุกและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลความยุติธรรมชุมชนรายงานความชุกสูงของปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูก เพราะความชุกสูงของพวกเขาของการทดสอบหัวนมผิดปกติของผู้หญิงในการตั้งค่าความยุติธรรมทางอาญาอาจจะเป็นเป้าหมายที่เหมาะสมสำหรับการปรับปรุงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกการป้องกันด้วยมนุษย์ papillomavirus (HPV) การฉีดวัคซีนการศึกษาการลดความเสี่ยงและการรักษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พื้นหลัง: ผู้หญิงในการตั้งค่าความยุติธรรมทางอาญามีความชุกเพิ่มขึ้นของมะเร็งปากมดลูกเมื่อเทียบกับประชากรทั่วไป อย่างไรก็ตาม น้อยเป็นที่รู้จักเกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูกผิดปกติที่ตรวจผลสตรีในคุกและความยุติธรรมทางอาญาที่ชุมชนการตั้งค่า ดังนั้น จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้ได้เปรียบเทียบความชุกของรายงานด้วยตนเองผิดปกติ Papanicolou (บ) ผลการทดสอบในผู้หญิง ในคุก และภาย ใต้การดูแลของอาญายุติธรรมชุมชน และตรวจสอบปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบ Pap ปกติในการตั้งค่าเหล่านี้ความยุติธรรมทางอาญา วิธีการ: เราวิเคราะห์ข้อมูลจากการสำรวจเหลวสองสตรี jails และแก้ไขชุมชนในภาคใต้สองเมือง (n = 380) เกี่ยวกับประวัติของพวกเขาทดสอบ Pap ปกติและปัจจัยเสี่ยงสำหรับโรคมะเร็งปากมดลูก อย่างไร Univariate วิเคราะห์ (วิเคราะห์ผลต่างของ [การวิเคราะห์ความแปรปรวน] และ chi-square) และการวิเคราะห์ถดถอยโลจิสติกไบนารีได้ดำเนินการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างประวัติทดสอบ Pap ปกติและปัจจัยที่จะสามารถเชื่อมโยงกับมะเร็งปากมดลูก ผลลัพธ์: เกือบครึ่งหนึ่งของผู้หญิงที่สำรวจ (n = 163, 43%) รายงานว่า เคยมีการทดสอบ Pap ปกติ มีความชุกสูงของปัจจัยเสี่ยงสำหรับโรคมะเร็งปากมดลูกในกลุ่มผู้หญิงที่มี และไม่ มีการทดสอบ Pap ปกติ หลังจากการควบคุมอายุการแข่งขัน มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างการทดสอบผิดปกติและป้องกันอุปสรรคใช้ไม่สอดคล้องกัน (อัตราส่วนราคา [OR] ช่วงความเชื่อมั่น 95% 2.01 [CI] 1.18-3.43), มีประวัติติดเชื้อทางนรีเวช (หรือ 1.68, 95% CI 1.05 2.67), และมีประวัติการติดต่อทางเพศสัมพันธ์โรค (หรือ 1.92, 95% CI 3.15 ความ 1.17) บทสรุป: ผู้หญิง ในคุก และภาย ใต้การดูแลของยุติธรรมชุมชนรายงานความชุกสูงของปัจจัยเสี่ยงสำหรับโรคมะเร็งปากมดลูก เนื่องจาก มีความชุกสูงของ Pap ปกติทดสอบ ผู้หญิงในการตั้งค่าความยุติธรรมทางอาญาอาจเป็นเป้าหมายที่เหมาะสมสำหรับมะเร็งปากมดลูกปรับปรุงคัดกรอง ป้องกัน ด้วยวัคซีน papillomavirus มนุษย์ (HPV) การศึกษาการลดความเสี่ยง และรักษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การตั้งค่า ภาพ พื้นหลังสำหรับผู้หญิงในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาได้มีมากกว่าเพิ่มขึ้นของมะเร็งปากมดลูกเมื่อเทียบกับประชากรทั่วไป. แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังเป็นที่รู้จักกันดีเกี่ยวกับผลการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกผิดปกติในหมู่ผู้หญิงในเรือนจำและการตั้งค่ากระบวนการยุติธรรมทางอาญาฐานชุมชน ดังนั้นที่มีความมุ่งมั่นในการศึกษานี้ได้เพื่อทำการเปรียบเทียบที่มีมากกว่าในแบบบริการตัวเองรายงานความผิดปกติ papanicolou ( PAP )ผลการทดสอบในผู้หญิงในเรือนจำและตามชุมชนทางอาญาความยุติธรรมและการตรวจสอบในการตรวจสอบปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติ PAP การทดสอบในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาการตั้งค่า วิธีทำเราวิเคราะห์ข้อมูลจากการสำรวจความคิดเห็นทั้งสองแบบตัดขวางของผู้หญิงในการแก้ไขและชุมชนคุกในสองเมืองต่างๆทางตอนใต้( N = 380 )เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของความผิดปกติ PAP การทดสอบและปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งปากมดลูกการวิเคราะห์ univariate (การวิเคราะห์ในเรื่องความปรวนแปร[ anova ]และชี - Square )และการวิเคราะห์ด้านการขนส่งสินค้าไบนารีที่ได้ทำการทดสอบการเชื่อมโยงระหว่างประวัติศาสตร์ของปัจจัยและการทดสอบ PAP ผิดปกติเมื่อเป็นที่ทราบกันดีว่าเชื่อมโยงกับมะเร็งปากมดลูก ผลเกือบครึ่งหนึ่งของผู้หญิงได้ทำการสำรวจ( N = 16343% )รายงานว่าเคยมีการทดสอบความผิดปกติที่ PAPมีระดับสูงที่มีมากกว่าของปัจจัยความเสี่ยงสำหรับมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงด้วยและไม่มีการทดสอบความผิดปกติที่ PAP หลังจากการควบคุมสำหรับการแข่งขันและอายุมีการเชื่อมโยงอย่างมีนัยสำคัญระหว่างการทดสอบ PAP ความผิดปกติและใช้ไม่สอดคล้องกันในการป้องกันสิ่งกีดขวาง(อัตราโอกาส[หรือ] 2.01 95% ความเชื่อมั่นช่วงเวลา[ CI ] 1.18-3.43 )มีประวัติความเป็นมาของการติดเชื้อ gynecologic (หรือ 1.68 95% CI 1.05-2.67 )และมีประวัติความเป็นมาของทางเพศ(หรือ 1.92 95% CI 1.17-3.15 ) บทสรุปผู้หญิงในเรือนจำและอยู่ ภายใต้ การควบคุมดูแลกระบวนการยุติธรรมชุมชนรายงานมีมากกว่าความสูงของปัจจัยความเสี่ยงสำหรับมะเร็งปากมดลูก. เพราะมีมากกว่าระดับสูงของการทดสอบ PAP ผิดปกติผู้หญิงในการตั้งค่าความยุติธรรมทางอาญาอาจเป็นเป้าหมายที่เหมาะสมในการกลั่นกรองมะเร็งปากมดลูกได้ดียิ่งขึ้นการป้องกันด้วย papillomavirus มนุษย์( ภายใ จ)ฉีดวัคซีนการศึกษาการลดความเสี่ยงและการบำบัด