In the brewery, the malted grain mu

In the brewery, the malted grain must first be milled to produce relatively fine particles, which are for the most part starch. The particles are then intimately mixed with hot water in a process called mashing. The water must possess the right mix of salts. For example fine ales are produced from waters with high levels of calcium. Famous pilsners are from waters with low levels of calcium. Typically mashes have a thickness of three parts water to one part malt and contain a stand at around 65 deg C, at which temperature the granules of starch are converted from an indigestible granular state into a ‘melted’ form which is much more susceptible to enzymatic digestion.

The enzymes which break down the starch are called the amylases. They are developed during the malting process, but only start to act once the gelatinization of the starch has occurred in the mash tun. Some brewers will have added starch from other sources, such as maize or rice, to supplement that from malt. These other sources are called adjuncts.

After perhaps an hour of mashing, the liquid portion of the mash, known as wart, is recovered, either by straining through the residual spent grains or by filtering through plates. The wort is run to the kettle (sometimes known as the copper, even though they are nowadays fabricated from stainless steel) where it is boiled, usually for I hour. Boiling serves various functions, including sterilisation of wort, precipitation of proteins (which would otherwise come out of solution in the finished beer and cause cloudiness), and the driving away of unpleasant grainy characters originating in the barley. Many brewers also add some adjunct sugars at this stage and at least a proportion of their hops.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในโรงเบียร์ ธัญพืชเชื้อหมักต้องแป้งงานแรกในการผลิตค่อนข้างอนุภาค ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแป้ง อย่างใกล้ชิดแล้วที่ผสมอนุภาคน้ำร้อนในกระบวนการเรียกว่า mashing น้ำต้องมีการผสมผสานที่เหมาะสมของเกลือ ตัวอย่างเช่น เบียร์ชั้นดีที่ผลิตจากน้ำทะเลมีระดับสูงของแคลเซียม Pilsners ที่มีชื่อเสียงได้จากน้ำมีแคลเซียมในระดับต่ำ โดยปกติมีความหนาของน้ำสามส่วนส่วนหนึ่งมอลต์ mashes และประกอบด้วยขาตั้งที่ประมาณ 65 องศาเซลเซียส อุณหภูมิที่เม็ดแป้งจะแปลงจากสถานะย่อยเม็ดรูปแบบ 'ละลาย' ซึ่งจะต่อกับเอนไซม์ย่อยอาหารเอนไซม์ที่ทำลายลงแป้งเรียกว่าการ amylases พวกเขาพัฒนาขึ้นในระหว่างกระบวนการ malting แต่เริ่มทำเมื่อ gelatinization ของแป้งเกิดขึ้นในถุนหน่วยผ่าเท่านั้น ผู้ผลิตบางรายจะมีเพิ่มแป้งจากแหล่งอื่น ๆ เช่นข้าวโพดหรือข้าว เสริมที่ได้จากมอลต์ แหล่งข้อมูลเหล่านี้จะเรียกว่า adjunctsหลังบางทีชั่วโมง mashing ส่วนของเหลวของคลุกเคล้า ที่รู้จักกันเป็นหูด จะกู้คืน โดยรัดผ่านเมล็ดใช้เวลาเหลือ หรือ โดยการกรองผ่านแผ่น Wort การทำกาต้มน้ำ (บางครั้งเรียกว่าทองแดง แม้ว่าพวกเขาจะประดิษฐ์จากเหล็กสแตนเลสในปัจจุบัน) ที่มันเดือด ปกติสำหรับผมชั่วโมงนี้ ต้มให้บริการฟังก์ชั่นต่าง ๆ รวมทั้งฆ่าเชื้อของเวิร์ท ฝนของโปรตีน (ซึ่งมิฉะนั้นจะมาจากในเบียร์เสร็จแล้ว และทำให้เกิดเมฆ), และการขับขี่ออกไปตัวอักษรมัวไม่พึงประสงค์ที่เกิดในข้าวบาร์เลย์ ผู้ผลิตหลายรายยังเพิ่มน้ำตาลบางช่วยที่เวทีนี้และสัดส่วนน้อยของตน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในโรงเบียร์, เมล็ด malted ก่อนอื่นจะต้องผ่านการขัดสีในการผลิตอนุภาคค่อนข้างดีซึ่งเป็นที่สำหรับแป้งส่วนใหญ่ อนุภาคจะแล้วผสมอย่างใกล้ชิดกับน้ำร้อนในกระบวนการที่เรียกว่ากระดูก น้ำจะต้องมีส่วนผสมที่เหมาะสมของเกลือ ยกตัวอย่างเช่นเบียร์ดีผลิตจากน้ำทะเลมีระดับสูงของแคลเซียม pilsners ที่มีชื่อเสียงจากน้ำที่มีระดับต่ำของแคลเซียม โดยปกติ mashes มีความหนาของน้ำสามส่วนที่จะเป็นส่วนหนึ่งมอลต์หนึ่งและมีขาตั้งที่ประมาณ 65 องศาเซลเซียสซึ่งอุณหภูมิเม็ดแป้งที่มีการดัดแปลงมาจากรัฐเม็ดย่อยเป็น 'ละลาย' รูปแบบซึ่งเป็นมากขึ้นความเสี่ยงที่จะเอนไซม์ การย่อยอาหาร. เอนไซม์ที่ทำลายลงแป้งจะเรียกว่าอะมัยเลส พวกเขาได้รับการพัฒนาในระหว่างกระบวนการ malting แต่เพียงการเริ่มต้นที่จะทำหน้าที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดเจลของแป้งที่ได้เกิดขึ้นใน Tun บด เบียร์บางคนจะได้เพิ่มแป้งจากแหล่งอื่น ๆ เช่นข้าวโพดหรือข้าวเพื่อเสริมว่าจากมอลต์ แหล่งข้อมูลอื่น ๆ เหล่านี้เรียกว่าอันเป็น. หลังจากที่บางทีอาจจะเป็นชั่วโมง mashing ส่วนของเหลวของส่วนผสมที่เรียกว่าหูด, การกู้คืนทั้งโดยการรัดผ่านเมล็ดใช้เวลาที่เหลือหรือโดยการกรองผ่านแผ่น สาโทจะทำงานกับกาต้มน้ำ (บางครั้งเรียกว่าทองแดงถึงแม้ว่าพวกเขาจะถูกประดิษฐ์ในปัจจุบันจากสแตนเลส) ซึ่งจะมีการต้มปกติสำหรับฉันชั่วโมง จุดเดือดให้บริการอาหารฟังก์ชั่นต่าง ๆ รวมทั้งการฆ่าเชื้อของสาโท, การตกตะกอนของโปรตีน (ซึ่งจะออกมาของการแก้ปัญหาในเบียร์สำเร็จรูปและก่อให้เกิดความหมอง) และขับรถออกไปของตัวละครที่เป็นเม็ดเล็ก ๆ ที่ไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นในข้าวบาร์เลย์ ผู้ผลิตเบียร์หลายคนยังเพิ่มน้ำตาลเสริมบางส่วนในขั้นตอนนี้และอย่างน้อยสัดส่วนของฮ็อพของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในโรงเบียร์หมักเมล็ดครั้งแรกจะต้องบดเพื่อผลิตอนุภาคที่ค่อนข้างดี ซึ่งส่วนใหญ่แป้ง อนุภาคจะให้ผสมกับน้ำร้อนในกระบวนการที่เรียกว่าบด . น้ำต้องมีผสมด้านขวาของเกลือ ตัวอย่างเช่นดีเบียร์ผลิตจากน้ำที่มีระดับสูงของแคลเซียม pilsners ที่มีชื่อเสียงจากน้ำที่มีระดับต่ำของแคลเซียม โดยทั่วไปแล้ว mashes ที่มีความหนาของน้ำสามส่วน หนึ่งส่วนมอลต์และมียืนที่ประมาณ 65 องศาเซลเซียส ซึ่งอุณหภูมิที่เม็ดแป้งจะเปลี่ยนสถานะจากน้ำย่อยใน " ละลาย " ฟอร์มที่มากขึ้นต่อการย่อยอาหารเอนไซม์ .เอนไซม์ซึ่งแบ่งแป้ง จะเรียกว่า กลุ่ม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย . พวกเขาจะพัฒนาขึ้นในระหว่างกระบวนการออกไป แต่จะเริ่มทำเมื่อแป้งสุกของแป้งได้เกิดขึ้นใน mash ตุ่น . บางหลักสูตรจะได้เติมแป้งจากแหล่งอื่น เช่น ข้าวโพดหรือข้าวเสริมที่ได้จากข้าวมอลต์ . แหล่งข้อมูลอื่น ๆ เหล่านี้เรียกว่า บริวาร .หลังจากที่บางทีชั่วโมงของ mashing , ส่วนของเหลวของบด , ที่รู้จักกันเป็น หูด ได้ โดยต้องผ่านที่เหลือใช้ธัญพืช หรือโดยการกรองผ่านแผ่น The Wort เป็นวิ่งกา ( บางครั้งเรียกว่าทองแดง แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในปัจจุบันที่สร้างจากสแตนเลส ) ซึ่งมันเป็นต้ม ปกติสำหรับ 1 ชั่วโมง . ต้มให้บริการฟังก์ชันต่าง ๆ รวมทั้ง sterilisation ของสาโท การตกตะกอนของโปรตีน ( ซึ่งอาจจะออกมาในรูปสารละลายเบียร์และก่อให้เกิดความขุ่น และขับไปที่อักขระที่แนะนำในเมล็ดข้าวบาร์เลย์ หลาย เบียร์ยังเพิ่มน้ำตาลช่วยในขั้นตอนนี้และอย่างน้อยสัดส่วนการกระโดดของพวกเขา