It could be considered a bit of an

It could be considered a bit of an ungainly symbol for a country that prides itself on its rugged beauty; our lakes and forests and frozen ponds. Toronto’s CN Tower has been derided as an “an ugly hold over from the ” atomic ” age of the late 1960’s”, and an eyesore.
A then Toronto city alderman who was also an architect, Colin Vaughan, offered his opinion of the tower upon its opening in the mid-seventies, and he was not kind.
“The first disappointment comes at the main entrance. There’s no sensation of arriving at the base of a tall structure to be overwhelmed by the vision of the tower ahead. Instead you enter through a foyer boxed in with aluminum and glass shopping centre entrance doors. The foyer is roofed with an open truss, smeared with silver paint. Where is the tower? Who knows?…Undoubtedly the tower will draw millions of visitors who will come and gawk at the mechanical and electronic bric-a-brac and buy the CN tower–shaped rye bottles as souvenirs. But none will experience the unique sensation, the vertigo and the straight excitement which should accompany a visit to a structure of this scale.”
But since its opening day, on June 26, 1976, the CN Tower, which was the world’s tallest free-standing structure for 34 years until the near simultaneous completion of the Burj Khalifa and Canton Tower in 2010, continues to welcome hoards of visitors, who appreciate the recently added Edgewalk and don’t seem to mind the tacky souvenirs.
The CN Tower was born of necessity. Data communications in the late 1960’s and early 1970’s used point-to-point microwave links. Dish antennae transmitted data and covered the roofs of large buildings, but the signal became denigrated as new skyscrapers were added to the city’s burgeoning downtown core. The solution came from Canadian National Railway, who proposed the building of a large TV and radio communication platform to serve the Toronto area.
Construction on the tower began on February 6, 1973 and was completed in June, 1976, a torrid schedule by any measure, and one that no doubt left some Canadians feeling the landmark was hurried on the scene, and was perhaps an unwelcome neighbour. Those feelings have, for the most part faded, but the question of utility has not.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มันสามารถเป็นบิตของสัญลักษณ์ ungainly ในประเทศที่ภาคภูมิใจในความแข็งแรงทนทานสวยงาม ของทะเลสาบ และป่าไม้ และบ่อแช่แข็ง ซีเอ็นทาวเวอร์ของโตรอนโตได้ถูกเยาะหยันเป็น "น่าเกลียดเป็นช่วงจากยุค 1960 ปลาย"อะตอม"", ค้างไว้บาดตาแล้วโตรอนโตเมืองอัลที่ยังเป็นสถาปนิก โคลินวอห์น เสนอความเห็นของเขาของทาวเวอร์เมื่อเปิดกลางความ และเขาไม่ดี"ความผิดหวังครั้งแรกมาที่ทางเข้าหลักการ ไม่รู้สึกเข้ามาที่ฐานของโครงสร้างที่สูงการถูกจม โดยวิสัยทัศน์ของหอล่วงหน้าได้ แทน ที่คุณป้อนผ่านเคาน์เตอร์รับที่กล่องกล่อง ด้วยอลูมิเนียมและกระจกประตูทางเข้าศูนย์การค้า เคาน์เตอร์รับมีหลังคากับทรัสเปิด ป้าย ด้วยสีเงิน อยู่หอไหน ใครรู้? ... ไม่ต้องสงสัยหอจะวาดล้านผู้เข้าชมที่จะมา gawk ที่ bric-a-brac เครื่องจักรกล และอิเล็กทรอนิกส์ และซื้อขวดไรทาวเวอร์ – รูป CN เป็นของที่ระลึก แต่ไม่มีจะได้สัมผัสความรู้สึกเฉพาะ การพิศวาสหลอน และตื่นเต้นตรงที่ควรประกอบเข้ากับโครงสร้างของสเกลนี้ "แต่ตั้งแต่วันเปิด บน 26 มิถุนายน 1976, CN Tower ซึ่งมีโครงสร้างพอสูงที่สุดในโลก 34 ปีจนถึงใกล้พร้อมเสร็จสมบูรณ์แต่การเจาทาวเวอร์ใน 2010 ยังคงต้อนรับภัตตาคารชม ชื่นชม Edgewalk แล้ว และดูเหมือนจะไม่ ทราบของที่ระลึกสองดาวจริง ๆ ครับซีเอ็นทาวเวอร์เกิดจำเป็น ข้อมูลการสื่อสารในช่วงปลาย 1960 และสมุยใช้เชื่อมโยงไมโครเวฟแบบจุดต่อจุด จานเสาอากาศส่งข้อมูล และครอบคลุมหลังคาอาคารขนาดใหญ่ แต่สัญญาณกลายเป็น denigrated เป็นตึกระฟ้าใหม่ถูกเพิ่มเข้าไปเมืองหลักเมืองลัทธิ การแก้ปัญหามาจากแคนาดาชาติรถไฟ ที่นำเสนอการสร้างโทรทัศน์ขนาดใหญ่และแพลตฟอร์มการสื่อสารวิทยุเพื่อตั้งกิลด์วู้ดก่อสร้างบนหอเริ่มต้นเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 1973 และเสร็จในเดือนมิถุนายน 1976 กำหนดการระอุ โดยวัดใด ๆ และที่เหลือไม่มีธนบัตรบางความรู้สึกที่แลนด์มาร์คได้รีบบนฉาก คืออาจจะ มีเพื่อนบ้านไม่ ความรู้สึกที่มี สีจางลงส่วนใหญ่ แต่มีคำถามที่โปรแกรมอรรถประโยชน์ไม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันอาจจะได้รับการพิจารณาบิตของสัญลักษณ์เทอะทะสำหรับประเทศที่ภูมิใจในความงามที่ทนทานของมัน; ทะเลสาบและป่าไม้และบ่อแช่แข็ง โตรอนโตของ CN ทาวเวอร์ได้ถูกเย้ยหยันว่าเป็น "น่าเกลียดถือกว่าจาก" อะตอม "ยุคในช่วงปลายปี 1960" และรกหูรกตา.
จากนั้นเมืองโตรอนโตเทศมนตรีซึ่งเป็นสถาปนิกโคลินวอห์นที่นำเสนอความคิดของเขาของหอเมื่อ การเปิดตัวในยุคกลางและเขาก็ไม่ได้ชนิด.
"ความผิดหวังครั้งแรกที่มาที่ทางเข้าหลัก มีความรู้สึกที่ไม่ได้มาถึงที่ฐานของโครงสร้างสูงที่จะถูกครอบงำด้วยวิสัยทัศน์ของหอข้างหน้า แต่คุณป้อนผ่านห้องโถงชนิดบรรจุกล่องด้วยอลูมิเนียมและกระจกศูนย์การค้าประตูทางเข้า ห้องโถงที่เป็นหลังคากับนั่งร้านเปิดป้ายด้วยสีเงิน ที่หอคืออะไร? ใครจะรู้? ... ไม่ต้องสงสัยหอจะวาดล้านของผู้เข้าชมที่จะมาและเพ่งพิศที่กลและอิเล็กทรอนิกส์ของเก่าและซื้อ CN หอที่มีรูปทรงขวดข้าวเป็นของที่ระลึก แต่ไม่มีผู้ใดจะได้สัมผัสกับความรู้สึกที่ไม่ซ้ำกันวิงเวียนและความตื่นเต้นตรงที่ควรมาพร้อมกับการไปเยือนโครงสร้างของขนาดนี้. ว่า
"แต่ตั้งแต่วันที่เปิดตัวเมื่อวันที่26 มิถุนายน 1976, หอคอย CN ซึ่งเป็นไล่ทุ่งสูงที่สุดในโลก ยืนโครงสร้าง 34 ปีจนแล้วเสร็จพร้อมกันใกล้ของ Burj Khalifa และ Canton Tower ในปี 2010 ยังคงให้การต้อนรับ hoards ของผู้เข้าชมที่ชื่นชอบการเพิ่มเมื่อเร็ว ๆ Edgewalk และดูเหมือนจะไม่ทราบของที่ระลึกไม่มีรสนิยมที่ดี.
ซีเอ็นทาวเวอร์เกิดของ ความจำเป็น การสื่อสารข้อมูลในช่วงปลายปี 1960 และต้นปี 1970 ใช้จุดหนึ่งไปยังจุดเชื่อมโยงไมโครเวฟ จานเสาอากาศส่งข้อมูลและปกคลุมหลังคาของอาคารขนาดใหญ่ แต่กลายเป็นสัญญาณ denigrated เป็นตึกระฟ้าใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้าที่กำลังขยายตัวของเมืองใจกลางเมือง การแก้ปัญหามาจากการรถไฟแห่งชาติแคนาดาที่นำเสนอการสร้างของทีวีขนาดใหญ่และแพลตฟอร์มการสื่อสารวิทยุที่จะให้บริการพื้นที่โตรอนโต. the
ก่อสร้างบนหอคอยเริ่มวันที่ 6 กุมภาพันธ์ปี 1973 และเสร็จสมบูรณ์ในเดือนมิถุนายนปี 1976 ช่วงเวลาที่ร้อนระอุโดยมาตรการใด ๆ และคนที่ไม่มีข้อสงสัยที่เหลือแคนาดาบางสถานที่สำคัญความรู้สึกที่ถูกรีบในที่เกิดเหตุและบางทีอาจจะเป็นเพื่อนบ้านไม่พอใจ ความรู้สึกเหล่านั้นมีส่วนใหญ่จางหายไป แต่คำถามของยูทิลิตี้ไม่ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันเป็นบิตของสัญลักษณ์ไม่สง่างามสำหรับประเทศที่ภูมิใจในความงามของมันขรุขระ ; ของเราและทะเลสาบป่าและกุ้งแช่แข็ง โตรอนโต CN Tower ได้รับการเย้ยหยันเป็น " น่าเกลียดถือมาจาก " อะตอม " ยุคปลายทศวรรษ 1960 " รกหูรกตา .
แล้วโตรอนโตเทศมนตรีเมืองที่เป็นสถาปนิก คอลิน วอน ,