North AfricaThe five countries of N

North Africa

The five countries of North Africa, Algeria, Egypt, Libya, Morocco and Tunisia, are heavy users of wheat with a regional average consumption of 215.8 kg/caput. During the period 1993-1995, the average production for the region was 8.8 million tonnes, and wheat imports averaged 14.6 million tonnes (116 kg/caput) or about 150 percent of production. Wheat is grown on about 5.5 million ha of which most is rainfed except in Egypt where nearly all wheat is irrigated. Yields under rainfed conditions average near 1 tonne/ha, while yields exceed 5 tonnes/ha under irrigation in Egypt (Table 1.1).

The total cereal-growing area of North Africa is about 50 percent durum wheat and 20 percent common wheat, with barley occupying most of the remaining area. Rainfall is highly variable in amount and distribution and occurs in the winter months. Wheat is grown as a winter crop to coincide with the rainy season. Harvest is in May or June.

Major hazards of wheat production, in addition to a lack of moisture, include diseases, insects and a lack of adoption of improved cultural practices. Septoria tritici blotch and stripe rust can cause severe losses in the wetter years. Other prevalent diseases include stem rust, powdery mildew, tan spot and root rots. Hessian fly annually causes major damage, particularly in Morocco, as does wheat stem sawfly in several countries. Aphids and nematodes also cause problems in some years.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แอฟริกาเหนือห้าประเทศของแอฟริกาเหนือ แอลจีเรีย อียิปต์ ลิเบีย ประเทศโมร็อกโก และตูนี เซีย มีผู้ใช้หนักข้าวสาลี มีปริมาณการใช้เฉลี่ยภูมิภาคของ caput 215.8 กิโลกรัม ช่วงปี 1993-1995 ผลิตในภูมิภาคเฉลี่ย 8.8 ล้านตัน และนำเข้าข้าวสาลี averaged 14.6 ล้านตัน (116 กิโลกรัม/caput) หรือประมาณ 150 เปอร์เซ็นต์ของการผลิต ข้าวสาลีเป็นปลูกในประมาณ 5.5 ล้านฮา ของซึ่งส่วนใหญ่เป็น rainfed ยกเว้นในอียิปต์ที่มีชลประทานข้าวสาลีเกือบทั้งหมด ทำให้ภายใต้เงื่อนไข rainfed เฉลี่ย ใกล้ 1 tonne/ฮา ในขณะที่อัตราผลตอบแทนเกิน 5 ตัน/ฮา ภายใต้ชลประทานอียิปต์ (ตาราง 1.1)พื้นที่ปลูกธัญพืชที่รวมของแอฟริกาเหนือคือ ข้าวสาลี durum เปอร์เซ็นต์และ 20 เปอร์เซ็นต์ทั่วไปข้าวสาลี กับข้าวบาร์เลย์มีส่วนใหญ่ของพื้นที่ที่เหลือประมาณ 50 ปริมาณน้ำฝนเป็นตัวแปรสูงในยอด และเกิดขึ้นในฤดูหนาวเดือน ข้าวสาลีที่ปลูกเป็นพืชฤดูหนาวให้สอดคล้องกับฤดูฝน เก็บเกี่ยวอยู่ในพฤษภาคมหรือมิถุนายนอันตรายสำคัญของการผลิตข้าวสาลี นอกจากขาดความชื้น รวมโรค แมลง และขาดการยอมรับแนวทางปฏิบัติทางวัฒนธรรมที่ปรับปรุง Septoria tritici สกปรกและลายสนิมอาจทำให้ขาดทุนอย่างรุนแรงในปี wetter โรคอื่น ๆ แพร่หลายได้แก่สนิมก้าน ลักษณะ ตาลจุด และราก rots Hessian บินทำความเสียหายหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโมร็อกโก ปีกับข้าวสาลี sawfly ก้านในหลายประเทศ Aphids และ nematodes ยังทำให้เกิดปัญหาในบางปี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แอฟริกาเหนือห้าประเทศในแอฟริกาเหนือแอลจีเรีย, อียิปต์, ลิเบีย, โมร็อกโกและตูนิเซียเป็นผู้ใช้หนักของข้าวสาลีที่มีปริมาณการใช้ค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 215.8 กก. / หัว ในช่วงเวลา 1993-1995 ที่ผลิตเฉลี่ยสำหรับภูมิภาคเป็น 8,800,000 ตันและนำเข้าข้าวสาลีเฉลี่ย 14,600,000 ตัน (116 กก. / หัว) หรือประมาณร้อยละ 150 ของการผลิต ข้าวสาลีที่ปลูกในประมาณ 5.5 ล้านเฮกเตอร์ซึ่งมากที่สุดคือน้ำฝนยกเว้นในอียิปต์ที่ข้าวสาลีเกือบทั้งหมดเป็นในเขตชลประทาน อัตราผลตอบแทนภายใต้เงื่อนไขที่น้ำฝนเฉลี่ยใกล้ 1 ตัน ​​/ ไร่ในขณะที่อัตราผลตอบแทนเกิน 5 ตัน / ไร่ภายใต้การชลประทานในอียิปต์ (ตารางที่ 1.1). รวมพื้นที่ธัญพืชเติบโตของทวีปแอฟริกาเป็นประมาณร้อยละ 50 ข้าวสาลี durum และร้อยละ 20 ข้าวสาลีร่วมกันด้วยข้าวบาร์เลย์ ครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของที่เหลือ ปริมาณน้ำฝนเป็นอย่างสูงที่ตัวแปรในปริมาณและการกระจายและเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว ข้าวสาลีที่ปลูกเป็นพืชในช่วงฤดูหนาวให้ตรงกับฤดูฝน การเก็บเกี่ยวในเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน. อันตรายที่สำคัญของการผลิตข้าวสาลีที่นอกเหนือไปจากการขาดความชุ่มชื้นที่รวมถึงโรคที่เกิดจากแมลงและขาดการยอมรับของการปรับปรุงการปฏิบัติทางวัฒนธรรม ตุ่ม Septoria tritici และสนิมแถบก่อให้เกิดการสูญเสียสามารถอย่างรุนแรงในปีที่ผ่านมาเปียก โรคที่แพร่หลายอื่น ๆ ได้แก่ การเกิดสนิมเกิดโรคราแป้งจุดสีน้ำตาลและรากเน่า รัฐบินเป็นประจำทุกปีทำให้เกิดความเสียหายที่สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโมร็อกโกเช่นเดียวกับ sawfly ลำต้นข้าวสาลีในหลายประเทศ เพลี้ยและไส้เดือนฝอยยังก่อให้เกิดปัญหาในบางปี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แอฟริกาเหนือ

ห้าประเทศในแอฟริกาเหนือ แอลจีเรีย อียิปต์ ลิเบีย โมร็อกโก และตูนิเซีย เป็นผู้ใช้หนักของข้าวสาลีที่มีการบริโภคเฉลี่ยของภูมิภาค 215.8 กิโลกรัมต่อศีรษะ ในช่วงพ.ศ. 2536-2538 , การผลิตเฉลี่ยในภูมิภาคได้ 8.8 ล้านตัน และการนำเข้าข้าวสาลีเฉลี่ย 14.6 ล้านตัน ( 116 กก. / ศีรษะ ) หรือประมาณ 150 เปอร์เซ็นต์ของการผลิต ข้าวสาลีที่ปลูกในประมาณ 55 ล้านไร่ ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยน้ำฝนในอียิปต์ที่เกือบทั้งหมดยกเว้นข้าวสาลีเป็นหลัก . ผลผลิตภายใต้สภาพการใช้น้ำฝนเฉลี่ย 1 ตัน / ไร่ ใกล้ ในขณะที่ผลผลิตเกิน 5 ตัน / ไร่ ภายใต้การชลประทานในอียิปต์ ( ตารางที่ 1.1 ) .

ธัญพืชรวมพื้นที่ปลูกในทวีปแอฟริกา คือ ประมาณร้อยละ 50 และ 20 เปอร์เซ็นต์ที่พบข้าวสาลี durum ข้าวสาลี , บาร์เลย์ครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ที่เหลือปริมาณน้ำฝนสูงตัวแปรปริมาณและการกระจาย และเกิดขึ้นในฤดูหนาว ข้าวสาลีที่ปลูกเป็นพืชฤดูหนาวจะตรงกับฤดูฝน เก็บเกี่ยวในเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน

ที่สำคัญอันตรายของข้าวสาลีที่ผลิต นอกจากขาดความชื้น ได้แก่ โรค แมลง และการขาดการยอมรับการปรับปรุงการปฏิบัติทางวัฒนธรรมseptoria tritici รอยริ้วสนิมและสามารถก่อให้เกิดความสูญเสียที่รุนแรงในปีที่เปียกโชก โรคที่แพร่หลายอื่น ๆรวมถึงก้านสนิม , powdery mildew จุดตันและรากเน่าเปื่อย Hessian บินทุกปีสาเหตุความเสียหายหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโมร็อกโกเช่นเดียวกับข้าวสาลีต้น sawfly ในหลายประเทศ เพลี้ยอ่อนทำลายและยังเกิดปัญหาในบางปี