ประเพณีแห่มาลัยข้าวตอกในงานบุญมาฆบูชาร้อยมาลัยข้าวตอก แทนดอกมณฑารพนบพร การแปล - ประเพณีแห่มาลัยข้าวตอกในงานบุญมาฆบูชาร้อยมาลัยข้าวตอก แทนดอกมณฑารพนบพร ไทย วิธีการพูด

ประเพณีแห่มาลัยข้าวตอกในงานบุญมาฆบู

ประเพณีแห่มาลัยข้าวตอกในงานบุญมาฆบูชา
ร้อยมาลัยข้าวตอก แทนดอกมณฑารพนบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ประเพณีแห่มาลัยข้าวตอกในงานบุญ มาฆบูชา
ณ บ้านฟ้าหยาด ต.ฟ้าหยาด อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร
"ร้อยมาลัยข้าวตอก แทนดอกมณฑารพ
นบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า"
ร่วมชื่นชมวิถีวัฒนธรรมอันบริสุทธิ์งดงาม
ของชุมขนลุ่มน้ำชี ในวันมาฆะบูชา
ที่ชาวฟ้าหยาด แห่งเมืองบั้งไฟโก้ยโสธร
จะนำ "ข้าวตอกสีขาว" มาร้อยเป็นมาลัยสายยาว
แทน "ดอกมณฑารพ" แห่งสรวงสวรรค์ เพื่อบูชาพระพุทธเจ้า “งานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก” ที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ของชุมชนลุ่มน้ำชี แห่งบ้านฟ้าหยาด ต.ฟ้าหยาด อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร ชาวบ้านจะนำข้าวตอกมาร้อยเป็นมาลัยสายยาวแทน “ดอกมณฑารพ” อันเป็นดอกไม้ทิพย์แห่งสรวงสวรรค์ แล้วจัดขบวนแห่ไปถวายเพื่อเป็นพุทธบูชาเนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา ซึ่งเป็นประเพณีดั้งเดิมของชาวอีสานที่สืบทอดต่อเนื่องกันมา เฉพาะที่ชุมชนบ้านฟ้าหยาดแห่งนี้ เท่านั้น
ความเป็นมาของประเพณีแห่มาลัยนี้ มีปรากฏในพระไตรปิฎกส่วนที่ว่าด้วยพระสุตตันตปิฎก บทปรินิพพานสูตร กล่าวคือ ดอกมณฑารพ ซึ่งเป็นดอกไม้บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีความสวยงามและมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ เวลาที่ดอกมณฑารพจะบาน หรือร่วงหล่น ก็ต้องมีเหตุการณ์สำคัญๆเท่านั้น คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน จตุรงคสันนิบาต และทรงแสดงพระธัมมจักกัปปวัตนสูตร ดอกมณฑารพจึงได้ร่วงหล่นลงมายังโลกมนุษย์
ครั้งเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ที่เมืองกุสินารา ดอกมณฑารพ นี้ก็ได้ร่วงหล่นลงมาทั้งก้านและกิ่ง เปรียบเหมือนความเสียอกเสียใจพิไรรำพันต่อการเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมถึงเหล่าพระภิกษุ ผู้ได้ชื่อว่าอรหันตขีนาสพทั้งหลายด้วย หมู่เหล่าข้าราชบริพาร ประชาชนทั้งหลายได้พากันมาถวายสักการะพระบรมศพ อีกทั้งยังได้พากันเก็บนำดอกมณฑารพที่ร่วงหล่นลงมาเพื่อไปสักการบูชา และรำลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไปดอกมณฑารพ ที่เก็บมาสักการะบูชาเริ่มเหี่ยวแห้งและหมดไป
เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระปัญญาธิคุณ พระกรุณาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณ รวมทั้งเหตุการณ์ในวันสำคัญต่างๆ ชาวพุทธจึงได้พากันนำเอาข้าวตอกมาสักการะบูชา เพราะถือว่าข้าวเป็นสิ่งที่มีคุณค่า และเป็นของสูงที่มนุษย์จะขาดไม่ได้ การจัดข้าวตอกดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชามีจุดเริ่มต้นเมื่อไหร่นั้น ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่เชื่อกันว่าแรกๆ จะใส่พานไว้โปรยเวลาพระสงฆ์เทศนา ต่อมาจึงมีการนำมาประดิษฐ์ตกแต่งที่เห็นว่าสวยงาม สืบทอดกันเรื่อยมา จากการตกแต่งมาลัยเพื่อความสวยงามก็พัฒนามาเรื่อยๆจนกลายเป็นการประกวดประชันกัน เมื่อมาลัยร้อยได้สวยงามก็เริ่มมีการแห่แหน ให้เป็นการเป็นงานขึ้นมาด้วย ประกอบพิธีนั้น จนกลายเป็นงานที่ใหญ่ขึ้นมีการฟ้อนรำประกอบขบวน และกลายเป็นประเพณีแห่มาลัยในปัจจุบันและจัดให้มีขึ้น ในวันมาฆบูชา ของทุกๆปี
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ประเพณีแห่มาลัยข้าวตอกในงานบุญมาฆบูชาร้อยมาลัยข้าวตอกแทนดอกมณฑารพนบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประเพณีแห่มาลัยข้าวตอกในงานบุญมาฆบูชาณบ้านฟ้าหยาดต.ฟ้าหยาดอ.มหาชนะชัยจ.ยโสธร"ร้อยมาลัยข้าวตอกแทนดอกมณฑารพนบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า"ร่วมชื่นชมวิถีวัฒนธรรมอันบริสุทธิ์งดงามของชุมขนลุ่มน้ำชีในวันมาฆะบูชาที่ชาวฟ้าหยาดแห่งเมืองบั้งไฟโก้ยโสธรมาร้อยเป็นมาลัยสายยาวจะนำ "ข้าวตอกสีขาว"แทน "ดอกมณฑารพ" แห่งสรวงสวรรค์ เพื่อบูชาพระพุทธเจ้า “งานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก” ที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ของชุมชนลุ่มน้ำชี แห่งบ้านฟ้าหยาด ต.ฟ้าหยาด อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร ชาวบ้านจะนำข้าวตอกมาร้อยเป็นมาลัยสายยาวแทน “ดอกมณฑารพ” อันเป็นดอกไม้ทิพย์แห่งสรวงสวรรค์ แล้วจัดขบวนแห่ไปถวายเพื่อเป็นพุทธบูชาเนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา ซึ่งเป็นประเพณีดั้งเดิมของชาวอีสานที่สืบทอดต่อเนื่องกันมา เฉพาะที่ชุมชนบ้านฟ้าหยาดแห่งนี้ เท่านั้นความเป็นมาของประเพณีแห่มาลัยนี้มีปรากฏในพระไตรปิฎกส่วนที่ว่าด้วยพระสุตตันตปิฎกบทปรินิพพานสูตรกล่าวคือดอกมณฑารพซึ่งเป็นดอกไม้บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มีความสวยงามและมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษเวลาที่ดอกมณฑารพจะบานหรือร่วงหล่นก็ต้องมีเหตุการณ์สำคัญๆเท่านั้นคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติตรัสรู้ปรินิพพานจตุรงคสันนิบาตและทรงแสดงพระธัมมจักกัปปวัตนสูตรดอกมณฑารพจึงได้ร่วงหล่นลงมายังโลกมนุษย์ครั้งเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ที่เมืองกุสินารา ดอกมณฑารพ นี้ก็ได้ร่วงหล่นลงมาทั้งก้านและกิ่ง เปรียบเหมือนความเสียอกเสียใจพิไรรำพันต่อการเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมถึงเหล่าพระภิกษุ ผู้ได้ชื่อว่าอรหันตขีนาสพทั้งหลายด้วย หมู่เหล่าข้าราชบริพาร ประชาชนทั้งหลายได้พากันมาถวายสักการะพระบรมศพ อีกทั้งยังได้พากันเก็บนำดอกมณฑารพที่ร่วงหล่นลงมาเพื่อไปสักการบูชา และรำลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไปดอกมณฑารพ ที่เก็บมาสักการะบูชาเริ่มเหี่ยวแห้งและหมดไปเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระปัญญาธิคุณ พระกรุณาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณ รวมทั้งเหตุการณ์ในวันสำคัญต่างๆ ชาวพุทธจึงได้พากันนำเอาข้าวตอกมาสักการะบูชา เพราะถือว่าข้าวเป็นสิ่งที่มีคุณค่า และเป็นของสูงที่มนุษย์จะขาดไม่ได้ การจัดข้าวตอกดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชามีจุดเริ่มต้นเมื่อไหร่นั้น ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่เชื่อกันว่าแรกๆ จะใส่พานไว้โปรยเวลาพระสงฆ์เทศนา ต่อมาจึงมีการนำมาประดิษฐ์ตกแต่งที่เห็นว่าสวยงาม สืบทอดกันเรื่อยมา จากการตกแต่งมาลัยเพื่อความสวยงามก็พัฒนามาเรื่อยๆจนกลายเป็นการประกวดประชันกัน เมื่อมาลัยร้อยได้สวยงามก็เริ่มมีการแห่แหน ให้เป็นการเป็นงานขึ้นมาด้วย ประกอบพิธีนั้น จนกลายเป็นงานที่ใหญ่ขึ้นมีการฟ้อนรำประกอบขบวน และกลายเป็นประเพณีแห่มาลัยในปัจจุบันและจัดให้มีขึ้น ในวันมาฆบูชา ของทุกๆปี
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ประเพณีแห่มาลัยข้าวตอกในงานบุญมาฆบูชา

ร้อยมาลัยข้าวตอกแทนดอกมณฑารพนบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประเพณีแห่มาลัยข้าวตอกในงานบุญมาฆบูชา
ณบ้านฟ้าหยาดต . ฟ้าหยาด Admiral มหาชนะชัย . . . . ยโสธรร้อยมาลัยข้าวตอกแทนดอกมณฑารพ

"นบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า "

ของชุมขนลุ่มน้ำชีร่วมชื่นชมวิถีวัฒนธรรมอันบริสุทธิ์งดงามในวันมาฆะบูชา
ที่ชาวฟ้าหยาดแห่งเมืองบั้งไฟโก้ยโสธรจะนำข้าวตอกสีขาว " มาร้อยเป็นมาลัยสายยาว

"แทน " ดอกมณฑารพ " แห่งสรวงสวรรค์เพื่อบูชาพระพุทธเจ้า " งานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก " ที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชุมชนลุ่มน้ำชีแห่งบ้านฟ้าหยาดต . ฟ้าหยาด Admiral มหาชนะชัย . . . .ยโสธรชาวบ้านจะนำข้าวตอกมาร้อยเป็นมาลัยสายยาวแทน " ดอกมณฑารพ " อันเป็นดอกไม้ทิพย์แห่งสรวงสวรรค์แล้วจัดขบวนแห่ไปถวายเพื่อเป็นพุทธบูชาเนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชาเฉพาะที่ชุมชนบ้านฟ้าหยาดแห่งนี้เท่านั้น
ความเป็นมาของประเพณีแห่มาลัยนี้มีปรากฏในพระไตรปิฎกส่วนที่ว่าด้วยพระสุตตันตปิฎกบทปรินิพพานสูตรกล่าวคือดอกมณฑารพซึ่งเป็นดอกไม้บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มีความสวยงามและมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษหรือร่วงหล่นก็ต้องมีเหตุการณ์สำคัญๆเท่านั้นความพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติตรัสรู้ปรินิพพานจตุรงคสันนิบาตและทรงแสดงพระธัมมจักกัปปวัตนสูตรดอกมณฑารพจึงได้ร่วงหล่นลงมายังโลกมนุษย์
ครั้งเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานที่เมืองกุสินาราดอกมณฑารพนี้ก็ได้ร่วงหล่นลงมาทั้งก้านและกิ่ง
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: