หลังจากที่หมดสัญญากับบริษัท เสริมสุข ทำให้เป๊ปซี่ในท้องตลาดขาดแคลน สาเหตุหลักมาจากระบบการขนส่งที่เปลี่ยนไป เดิมกระบวนการผลิตเดิมนั้น เสริมสุขจะมีโรงงานผลิตกระจายตัวตามภูมิภาคต่างๆ จำนวน 5 โรงงาน และมีกระบวนการจัดจำหน่าย และสายส่ง กระบวนการตรงนี้มีองค์ประกอบดังนี้ คลังสินค้า รถบรรทุกส่งของ ตู้เย็น เซลล์ แผนที่ร้านค้า ระบบการผลิตและการรับคืนขวดแก้วต่างๆ ความไม่สอดคล้องกันของ สองกระบวนการข้างต้นทำให้เกิดปัญหาสินค้าขาดตลาด
ระบบหลักนะครับนั่นก้คือการใช้ dhl
จริงอยุ่แม้ว่าdhl จะมีความเชี่ยวชาญในการขนส่ง แต่ความเชี่ยวชาญของดีเอชแอลในประเทศไทยคือขนส่งพัสดุนะครับ แม้ว่าจะมีการใช้ dhl การออกแแบบคลังสินค้า ขนาดโกดัง ขนาดรถส่งสินค้าไม่ได้ออกแบบมาเพื่อส่ง product champion ที่ต้องการโวลุ่มและความถี่ในการส่งสูงมากแน่ๆ แม้ว่าจะมีการลงทุนเพิ่มแต่ผมเชื่อนะครับว่าการลงทุนเพิ่มมหาศาลในระดับที่สามารถขนเปปซี่เดิมให้เท่ากับเสริมสุข ดีเอชแอลไม่ลงทุนขนาดนั้นกับงานนี้แน่นอนเนื่องจาก ต้องใช้เงินลงทุนมาก และกำไรที่ได้อาจจะตํ่ากว่าการรับส่งพัสดุ แบบรายชิ้นที่เป็นธุรกิจในปัจจุบันเสียอีก เมื่อกำไรไม่มาก และต้องใช้เงินลงทุนสูง นอกจากนี้ความเสี่ยงในการเลิกสัญญาจากการที่เปปซี่พัฒนาระบบส่งของตัวเองอีก ดังนั้นแม้dhl จะมีความเชี่ยวชาญมาก แต่ความสามารถก้มีขีดจำกัดที่สามารถกระจายของให้ได้เข้า ตามmodern trade ที่มีศูนย์สินค้าขนาดใหญ่ เพียงเท่านั้น การส่งของเข็นลงไปรับออเดอจาก ร้านค้าย่อยๆ จากร้านอาหารแต่ละร้าน ไม่ใช่งานถนัดและคงไม่ใช่ธุรกิจที่ดีเอชแอล จะเข้ามาทำแน่ๆเนื่องจากมีงานที่ทำกำไรดีกว่าอยุ่เเล้ว จุดตรงนีน่าจะให้คำตอบได้นะครับว่าทำไมตามโมเดินเทรดถึงมีเปปซี่ขายตลอด แม้ว่าจะมีการขาดบ้าง แต่ โดยส่วนใหญ่แล้วถ้าเราเข้าโมเดินเทรดก้จะมีเปปซี่ตลอดครับเนื่องจากตรงส่วนนี้รับผิดชอบด้วย dhl เป็นหลัก
ต่อมาเราจะมาดู ระบบส่งที่สองของเปปซี่ที่ใช้ในการกระจาย
ตามร้านค้า ร้านอาหาร ร้านริมทางต่างๆนะครับ
ระบบตรงนี้จะทำงานโดยเอเย่น โดยมีการแบ่งออกเป็นเขตพื้นที่ต่างๆ จำนวน 18แห่งซึ่งแต่ละที่ก้เป็นบริษัทท้องถิ่นที่. อยุ่ในเขตพื้นที่นั้นๆ ปัญหาของเอเย่นต่างๆในการกระจายสินค้าเข้าร้านค้าย่อยๆ บางส่วนจะคล้ายกับที่ dhl แต่ความสามารถในการรับมือกับปัญหาจะตํ่ากว่า เนื่องด้วยขนาด และศักภาพหลายๆด้านทั้งรถ คลังสินค้า คน ที่คงไม่มีมากนัก การระดมทุนก้ทำได้จำกัด แล้วยังเสี่ยงต่อการที่จะถูกเปปซี่พัฒนาระบบขายขึ้นมาเองอีก. มองในมุมมองเอเย่น ที่แต่เดิมอาจจะเปนบริษัทเทรดดิ้งท้องถิ่นในที่ต่างๆต่อมาเมื่อรับเปน เอเย่นเปปซี่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ความไม่พร้อม และ ความไม่ชำนาญในการเข้าหาร้านค้า อาจจะรวมถึงบุคคลากรและอุปกรณ์ที่ไม่เพียงพอในการดำเนินงาน
การซื้อรถบรรทุกขนาดใหญ่มาดำนินงานระบบ ขนส่งเอง ดูจะเป็นแนวทางที่คุ้มค่ากว่าในระยะยาวแต่การใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ หมายถึงหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนไปครับ ตั้งแต่คนขับรถที่ต้องใช้ใบขับขี่อีกประเภท ในวงการขนส่ง คนขับรถถือเปรทรัพยากรที่มีค่ามากนะครับ และหาได้ไม่ง่ายนัก
สองคือการที่จอดรถ ระบบซ่อมบำรุง รวมถึงเงินลงทุนที่ถ้าซื้อรถขนาดใหญ่ต้องใช้เงินทุนเพิ่มากกว่า แค่รถคันละ3-5ล้านบาท รถใหม่ ต้องซื้อเกือบ พันคันเงินตรงนี้ก้รวมหลายพันล้านยังไม่รวมระบบ บำรุงรักษา ซ่อมบำรุงเลยครับดังนั้นเราจึงได้เหนระบบของเปปซี่ที่เลือกใช้ การซื้อรถกระบะมาเพิ่มแคปหลังเนื่องจากสามารถ นำมาใช้งานได้เรวกว่าและสามารถหาที่จอดรวมทั้งระบบซ่อมบำรุง ตลอดจนคนขับง่ายกว่าครับ