Not all observers of economic globa

Not all observers of economic globalization have a positive evaluation. As discussed above, multinational corporations exert powerful influence over local and national governments, often prompting them to enact policies that benefit business, rather than protecting the rights of local people. Thus, economic globalization in the form of MNCs can lead to exploitation of the local labor force, funneling of important resources away from the country itself into foreign exports, and overall dependency of developing countries upon wealthy countries.

In addition to the uneven distribution of benefits that often occurs, critics also point to the ways that resources are diverted from the local population into foreign exports. For example, some of the land in Cape Verde could be planted and harvested to feed people but is planted instead with cash crops for foreign exchange. Fresh produce is regularly sold or changed to a nonperishable type, such as canned tuna for export, rather than consumed by the population. Widespread malnutrition is one of the effects of this foreign dependency.

Finally, economic globalization may result in unequal economic relations of dependency between developing and developed countries. Instead of acting independently on behalf of the people in the country, governments of developing countries may act more in the interests of MNCs and of other nations on whom they rely on for aid. They may feel that without these forms of economic connection, their country cannot survive.

Thus, dependent relations that were formed in the colonial period continue on today in the form of what many scholars call neocolonialism or economic imperialism.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้สังเกตการณ์ทั้งหมดของโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจได้ประเมินค่าบวก ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น บริษัทข้ามชาติแรงอิทธิพลท้องถิ่นที่มีประสิทธิภาพและรัฐบาลแห่งชาติ มักจะพร้อมท์ให้ดำเนินนโยบายที่ได้รับประโยชน์ทางธุรกิจ แทนที่ปกป้องสิทธิของประชาชน ดัง โลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจในรูปแบบของ MNCs สามารถนำไปสู่การเอารัดเอาเปรียบของแรงแรงงานท้องถิ่น funneling ทรัพยากรสำคัญจากประเทศตัวเองส่งออกต่างประเทศ และอ้างอิงโดยรวมของประเทศกำลังพัฒนาตามประเทศที่มั่งคั่งได้นอกจากการกระจายไม่สม่ำเสมอของผลประโยชน์ ที่มักจะเกิดขึ้น นักวิจารณ์ยังชี้ด้วยว่า มีการเปลี่ยนแปลงทรัพยากรจากประชากรในท้องถิ่นในการส่งออกต่างประเทศ ตัวอย่าง บางส่วนของที่ดินในเคปเวิร์ดสามารถปลูก และเก็บเกี่ยวเลี้ยงคน ได้จะปลูกแทนเงินสดพืชสำหรับแลกเปลี่ยน สดเป็นประจำขาย หรือเปลี่ยนชนิด nonperishable เช่นปลาทูน่ากระป๋องเพื่อการส่งออก แทนที่ใช้ โดยประชากร ขาดสารอาหารอย่างกว้างขวางเป็นหนึ่งในผลกระทบของการพึ่งพาต่างประเทศนี้ สุดท้าย โลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจอาจส่งผลให้ไม่เท่ากันความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของการอ้างอิงระหว่างการพัฒนา และพัฒนาประเทศได้ แทนที่จะทำหน้าที่แทนคนในประเทศอย่างอิสระ รัฐบาลของประเทศกำลังพัฒนาอาจทำเพิ่มเติมประโยชน์ ของ MNCs และประเทศอื่น ๆ ในที่พวกเขาพึ่งพาช่วย พวกเขาอาจรู้สึกว่า ไม่ มีแบบฟอร์มเหล่านี้เชื่อมต่อเศรษฐกิจ ประเทศของพวกเขาไม่สามารถอยู่รอด ดังนั้น ความสัมพันธ์อิสระที่ถูกก่อตั้งขึ้นในยุคอาณานิคมดำเนินต่อในวันนี้ในรูปแบบของอะไรนักวิชาการจำนวนมากโทร neocolonialism หรือลัทธิจักรวรรดินิยมทางเศรษฐกิจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไม่สังเกตการณ์ทั้งหมดของโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจมีการประเมินผลในเชิงบวก ตามที่กล่าวข้างต้น บริษัท ข้ามชาติที่มีประสิทธิภาพใช้อิทธิพลเหนือรัฐบาลท้องถิ่นและระดับชาติมักจะกระตุ้นให้พวกเขาที่จะออกกฎหมายนโยบายที่ธุรกิจได้รับประโยชน์มากกว่าการปกป้องสิทธิของคนในท้องถิ่น ดังนั้นโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจในรูปแบบของบรรษัทข้ามชาติสามารถนำไปสู่การใช้ประโยชน์จากแรงงานท้องถิ่น funneling ของทรัพยากรที่สำคัญออกไปจากประเทศตัวเองลงในการส่งออกต่างประเทศและการพึ่งพาโดยรวมของประเทศที่กำลังพัฒนาอยู่กับประเทศที่ร่ำรวย. นอกจากนี้ยังกระจายไม่สม่ำเสมอของผลประโยชน์ ที่มักจะเกิดขึ้นนักวิจารณ์ยังชี้ไปที่วิธีการที่ทรัพยากรที่เบี่ยงเบนไปจากประชาชนในท้องถิ่นเข้ามาในการส่งออกต่างประเทศ ตัวอย่างเช่นบางส่วนของที่ดินในเคปเวิร์ดอาจจะมีการปลูกและเก็บเกี่ยวที่จะเลี้ยงคน แต่จะปลูกพืชแทนเงินสดสำหรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ผักผลไม้สดจะขายอย่างสม่ำเสมอหรือมีการเปลี่ยนแปลงชนิดไม่เน่าเสียเช่นปลาทูน่ากระป๋องเพื่อการส่งออกมากกว่าการบริโภคโดยประชากร การขาดสารอาหารอย่างกว้างขวางเป็นหนึ่งในผลกระทบของการพึ่งพาต่างประเทศนี้. สุดท้ายโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจอาจส่งผลให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่เท่าเทียมกันของการพึ่งพาระหว่างการพัฒนาและประเทศที่พัฒนาแล้ว แทนที่จะทำหน้าที่อย่างเป็นอิสระในนามของผู้คนในประเทศที่รัฐบาลของประเทศกำลังพัฒนาอาจทำหน้าที่เพิ่มเติมในความสนใจของบรรษัทข้ามชาติและในประเทศอื่น ๆ ในผู้ที่พวกเขาต้องพึ่งพาความช่วยเหลือ พวกเขาอาจจะรู้สึกว่าไม่มีรูปแบบของการเชื่อมต่อทางเศรษฐกิจเหล่านี้ประเทศของพวกเขาไม่สามารถอยู่รอด. ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่กำลังก่อตัวขึ้นในยุคอาณานิคมดำเนินการต่อในวันนี้ในรูปแบบของสิ่งที่นักวิชาการหลายคนเรียก neocolonialism หรือจักรวรรดินิยมทางเศรษฐกิจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไม่ทั้งหมดผู้สังเกตการณ์ของโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจมีการประเมินในเชิงบวก ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น , บริษัท ข้ามชาติออกแรงมีอิทธิพลเหนือรัฐบาลและท้องถิ่น มักจะแจ้งให้เร่งผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ แทนที่จะปกป้องสิทธิของประชาชน ดังนั้น กระแสโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจในรูปแบบของ MNCs สามารถนําไปใช้ประโยชน์ของแรงงานท้องถิ่นทรัพยากรที่สำคัญของ funneling ห่างจากประเทศตัวเองเป็นสินค้าส่งออกต่างประเทศ และโดยรวม การพัฒนาประเทศ เมื่อประเทศรวย

นอกจากการกระจายไม่สม่ำเสมอของผลประโยชน์ที่มักจะเกิดขึ้น นักวิจารณ์ก็ชี้ไปทางทรัพยากรที่ถูกเบี่ยงเบนจากประชากรท้องถิ่นในการส่งออกต่างประเทศ ตัวอย่างเช่นบางส่วนของที่ดินในเคปเวิร์ดสามารถปลูกและเก็บเกี่ยว เพื่อดึงคน แต่ปลูกแทนด้วยพืชเศรษฐกิจเพื่อแลกเปลี่ยน ผลิตสดเป็นประจำขายหรือเปลี่ยนประเภท nonperishable เช่นปลาทูน่ากระป๋องส่งออก มากกว่าการบริโภคโดยประชากร ขาดสารอาหารอย่างกว้างขวางเป็นหนึ่งในผลกระทบของการพึ่งพาต่างประเทศนี้

ในที่สุดโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจอาจส่งผลให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่เท่ากันของการพึ่งพาระหว่างที่กำลังพัฒนาและประเทศที่พัฒนาแล้ว แทนที่จะทำตัวเป็นอิสระในนามของประชาชนในประเทศ รัฐบาลของประเทศกำลังพัฒนาอาจจะมากขึ้นในผลประโยชน์ของบริษัทข้ามชาติ และของประเทศอื่น ๆที่พวกเขาพึ่งพาสำหรับความช่วยเหลือ พวกเขาอาจรู้สึกว่าไม่มีแบบฟอร์มเหล่านี้ของความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจประเทศของพวกเขาไม่สามารถอยู่รอด

ดังนั้นขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่ถูกสร้างขึ้นในยุคอาณานิคมต่อไปในวันนี้ในรูปแบบของสิ่งที่นักวิชาการหลายคนเรียก neocolonialism หรือจักรวรรดินิยมทางเศรษฐกิจ .