Economists have a name for this not

Economists have a name for this notion of consumer power : consumer sovereignty. Consumers gests that sovereignty suggests that individual consumer have ultimate control over what market produce. As each individual chooses to buy a goods or service. On the other hand, of consumers generally choose not to buy something that was formerly in demand then producers will begin to withdraw it from the market. There is no point in trying to sell goods or services that people no longer want. Box 1.1 illustrates a case in point: the solid brand with a 120-year history. All that past popularity new counts for little: consumer preferences have changed, the market has evolved , and levi Strauss finds it uneconomic to produce jeans in accustomed quantities. The same principle applies if consumers become avid purchasers of a good or service: producers then have reason to increase the amount they produce. The simple presence of consumers or potential consumers also gives firms an incentive to continually refine and improve the quality of their products. A firm that innovates – produces something better or cheaper – will be rewarded with more custom and thus with more profit. It pays firms to de as much as they can to please those who might buy their goods and services. Thus economics also matters in a business context because it is able to identify and understand the nature of the consumer – led governance of market.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อสำหรับความคิดของการใช้พลังงานของผู้บริโภคนี้: อำนาจอธิปไตยของผู้บริโภค gests ผู้บริโภคที่แสดงให้เห็นว่าอำนาจอธิปไตยของผู้บริโภคแต่ละคนมีการควบคุมสูงสุดกว่าสิ่งที่ตลาดผลิต ในฐานะปัจเจกบุคคลแต่ละคนเลือกที่จะซื้อสินค้าหรือบริการ บนมืออื่น ๆ ,ของผู้บริโภคโดยทั่วไปเลือกที่จะไม่ซื้ออะไรบางอย่างที่เคยเป็นในความต้องการแล้วผู้ผลิตจะเริ่มที่จะถอนตัวออกจากตลาด มีจุดในการพยายามที่จะขายสินค้าหรือบริการที่ผู้คนไม่ต้องการไม่มี 1.1 กล่องแสดงให้เห็นถึงกรณีในจุด: แบรนด์ที่แข็งแกร่งกับประวัติความเป็นมา 120 ปี ทั้งหมดที่ผ่านมานับความนิยมใหม่สำหรับเล็กน้อยต้องการของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงตลาดที่มีการพัฒนาและลีวายส์สเตราส์พบว่ามันไม่ได้ผลในการผลิตกางเกงยีนส์ในปริมาณที่คุ้นเคย หลักการเดียวกันกับหากผู้บริโภคกลายเป็นผู้ซื้อตัวยงของดีหรือบริการ: ผู้ผลิตแล้วมีเหตุผลที่จะเพิ่มปริมาณที่พวกเขาผลิตการแสดงตนที่เรียบง่ายของผู้บริโภคหรือผู้บริโภคที่อาจเกิดขึ้นยังช่วยให้ บริษัท สร้างแรงจูงใจอย่างต่อเนื่องและปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของตน บริษัท ที่สร้างนวตกรรม - ผลิตบางสิ่งบางอย่างที่ดีกว่าหรือถูกกว่า - จะได้รับรางวัลที่มีมากขึ้นที่กำหนดเองและทำให้มีกำไรมากขึ้น บริษัท ก็จ่ายไปเท่าที่พวกเขาสามารถที่จะโปรดผู้ที่อาจจะซื้อสินค้าและบริการของตนจึงเศรษฐศาสตร์ยังเรื่องในบริบททางธุรกิจเพราะมันสามารถที่จะระบุและเข้าใจธรรมชาติของผู้บริโภค - การกำกับดูแลกิจการนำของตลาด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักเศรษฐศาสตร์มีชื่อสำหรับความคิดนี้ของผู้บริโภคพลังงาน: อำนาจอธิปไตยของผู้บริโภค Gests ผู้บริโภคว่า อำนาจอธิปไตยแนะนำผู้บริโภคแต่ละที่สุดควบคุมตลาดใดผลิตได้ ตามที่แต่ละคนเลือกที่จะซื้อสินค้า หรือการบริการ ในทางตรงข้าม ผู้บริโภคเลือกไม่ให้ซื้อบางสิ่งบางอย่างที่เดิมอยู่ในความต้องการโดยทั่วไป แล้วผู้ผลิตจะเริ่มถอนออกจากตลาด มีจุดในการพยายามที่จะขายสินค้าหรือบริการที่ไม่ต้องคน 1.1 กล่องแสดงจุดในกรณี: แบรนด์แข็ง มีประวัติ 120 ปี นับที่ผ่านมาความนิยมใหม่สำหรับน้อย: ลักษณะผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลง มีพัฒนาตลาด และเลวีสโทรสพบ uneconomic ในการผลิตกางเกงยีนส์ในปริมาณที่คุ้นเคย ใช้หลักการเดียวกับผู้บริโภคเป็น ผู้ที่ชอบของดีหรือบริการ: ผู้ผลิตมีเหตุผลเพื่อเพิ่มยอดผลิต ยังอยู่อย่างของผู้บริโภคหรือผู้บริโภคที่มีศักยภาพให้บริษัทเพื่อจูงใจให้ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของตน บริษัทที่สร้างนวตกรรม– สร้างสิ่งที่ดีกว่า หรือถูกกว่า – จะได้รับรางวัล กับแบบกำหนดเองเพิ่มเติม จึง มีกำไรมากขึ้น มันจ่ายบริษัทให้เดเท่าที่ได้กรุณาคนที่อาจซื้อสินค้าและบริการของพวกเขา ดังนั้น เศรษฐศาสตร์ยังเรื่องในบริบทธุรกิจเนื่องจากสามารถระบุ และเข้าใจธรรมชาติของผู้บริโภค – กำกับนำของตลาด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักเศรษฐศาสตร์มีชื่อสำหรับความคิดนี้ของอำนาจ ผู้บริโภค อธิปไตย ผู้บริโภค ผู้บริโภค gests ว่าอำนาจอธิปไตยชี้ให้เห็นว่า ผู้บริโภค มีการควบคุมระดับสุดยอดในช่วงที่ตลาดผลิต ในแต่ละตัวเลือกที่จะซื้อสินค้าหรือบริการที่ ในอีกด้านหนึ่งได้ของ ผู้บริโภค โดยทั่วไปแล้วเลือกที่จะไม่ซื้ออะไรสักอย่างซึ่งเมื่อก่อนนี้คือในความต้องการแล้วผู้ผลิตจะเริ่มมีการถอนตัวจากตลาด ไม่มีจุดในการพยายามที่จะขายสินค้าหรือบริการที่ผู้คนไม่ได้ต้องการ ช่องทำเครื่องหมาย 1.1 แสดงถึงกรณีที่ในจุดแบรนด์ที่พร้อมด้วยประวัติศาสตร์ 120 ปี ความนิยมที่ผ่านมาใหม่ทั้งหมดนับถอยหลังสำหรับการตั้งค่าน้อย ผู้บริโภค มีการเปลี่ยนแปลงตลาดที่ได้รับการพัฒนาและริช - เอิดฌทเราซเลวีพบว่ามันไม่ถูกต้องตามหลักเศรษฐกิจในการผลิตในปริมาณคุ้นเคยกับกางเกงยีนส์ หลักการเดียวกันกับที่ใช้ได้หาก ผู้บริโภค กลายเป็นผู้ซื้อเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ของการให้บริการหรือที่ดีที่ผู้ผลิตแล้วมีเหตุผลในการเพิ่มจำนวนเงินก็จะทำให้เกิดการประชุมแบบเรียบง่ายของ ผู้บริโภค หรือผู้มี ศักยภาพ นอกจากนั้นยังทำให้บริษัทมีแรงจูงใจที่จะแก้ไขและปรับปรุง คุณภาพ ของ ผลิตภัณฑ์ อย่างต่อเนื่อง บริษัทที่สร้างสรรค์ - ผลิตสิ่งที่ดีกว่าหรือมีราคาถูกลงจะได้รับรางวัลจากที่กำหนดเองมากขึ้นและทำให้มีกำไรมากขึ้น คุณก็จะได้รับประโยชน์อย่างคุ้มค่าบริษัทเพื่อ de มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อโปรดผู้ที่อาจจะซื้อสินค้าและบริการของพวกเขาดังนั้นทางเศรษฐศาสตร์ยังเรื่องในบริบททางธุรกิจเพราะมีสามารถที่จะแยกแยะและเข้าใจธรรมชาติของการกำกับดูแลกิจการ ผู้บริโภค - LED ของตลาด