Polymorphism is the ability of an o

Polymorphism is the ability of an object to take on many forms. The most common use of polymorphism in OOP occurs when a parent class reference is used to refer to a child class object.

Any Java object that can pass more than one IS-A test is considered to be polymorphic. In Java, all Java objects are polymorphic since any object will pass the IS-A test for their own type and for the class Object.

It is important to know that the only possible way to access an object is through a reference variable. A reference variable can be of only one type. Once declared, the type of a reference variable cannot be changed.

The reference variable can be reassigned to other objects provided that it is not declared final. The type of the reference variable would determine the methods that it can invoke on the object.

A reference variable can refer to any object of its declared type or any subtype of its declared type. A reference variable can be declared as a class or interface type.

Example
Let us look at an example.

public interface Vegetarian{}
public class Animal{}
public class Deer extends Animal implements Vegetarian{}
Now, the Deer class is considered to be polymorphic since this has multiple inheritance. Following are true for the above examples −

A Deer IS-A Animal
A Deer IS-A Vegetarian
A Deer IS-A Deer
A Deer IS-A Object
When we apply the reference variable facts to a Deer object reference, the following declarations are legal −

Example
Deer d = new Deer();
Animal a = d;
Vegetarian v = d;
Object o = d;
All the reference variables d, a, v, o refer to the same Deer object in the heap.

Virtual Methods
In this section, I will show you how the behavior of overridden methods in Java allows you to take advantage of polymorphism when designing your classes.

We already have discussed method overriding, where a child class can override a method in its parent. An overridden method is essentially hidden in the parent class, and is not invoked unless the child class uses the super keyword within the overriding method.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความแตกต่างคือ ความสามารถของวัตถุในรูปแบบหลากหลาย การใช้งานทั่วไปของความแตกต่างใน OOP เกิดขึ้นเมื่อใช้การอ้างอิงระดับหลักการเป็นวัตถุคลาสของเด็กวัตถุใด ๆ Java ที่สามารถผ่านการทดสอบ IS A มากกว่าหนึ่ง จะถือเป็น polymorphic ใน Java, Java วัตถุทั้งหมดมี polymorphic ตั้งแต่วัตถุใด ๆ จะผ่านการทดสอบ IS A สำหรับชนิดของตัวเอง และชั้นวัตถุมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะรู้ว่า เป็นวิธีที่ดีที่สุดเท่านั้นในการเข้าถึงวัตถุผ่านตัวแปรอ้างอิง ตัวแปรอ้างอิงก็ได้ชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น เมื่อประกาศ ไม่สามารถเปลี่ยนชนิดของตัวแปรอ้างอิงตัวแปรอ้างอิงสามารถกำหนดให้กับวัตถุอื่นที่จะไม่ประกาศสุดท้าย ชนิดของตัวแปรอ้างอิงจะกำหนดวิธีการที่มันสามารถเรียกใช้บนวัตถุตัวแปรอ้างอิงสามารถอ้างอิงถึงวัตถุประเภทประกาศหรือชนิดย่อยใด ๆ ของชนิดของประกาศ สามารถประกาศตัวแปรอ้างอิงเป็นชนิดคลาสหรืออินเทอร์เฟซตัวอย่างให้เราดูตัวอย่างอินเทอร์เฟซสาธารณะ{เจ}คลาสาธารณะสัตว์}ขยายคลาสาธารณะกวางสัตว์ดำเนินมังสวิรัติ}ตอนนี้ กวางชั้นจะถือว่าเป็น polymorphic นี้มีสืบทอดหลาย ต่อไปนี้เป็นจริงสำหรับ−ในตัวอย่างข้างต้นเป็นกวางเป็นสัตว์กวาง A เป็นมังสวิรัติกวางเป็นกวางวัตถุ A คือกวางเมื่อเราใช้ข้อเท็จจริงอ้างอิงตัวแปรกับการอ้างอิงวัตถุกวาง การประกาศต่อไปนี้กฎหมาย−ตัวอย่างกวาง d = Deer() ใหม่สัตว์ = dเจ v = dวัตถุ o = dทั้งหมดอ้างอิงตัวแปร d, a, v, o หมายถึงกวางวัตถุเดียวกันในกองวิธีการเสมือนในส่วนนี้ ฉันจะแสดงวิธีการทำงานของวิธีการแทนที่ใน Java ช่วยให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากความแตกต่างการออกแบบการเรียนของคุณเราแล้วได้กล่าวถึงวิธีการแทน ที่ชั้นเรียนเด็กสามารถแทนที่วิธีการในหลักของ วิธีการแทนที่ซ่อนอยู่ในคลาสแม่เป็นหลัก และถูกเรียกยกเว้นชั้นเด็กใช้คำสำคัญที่สุดภายในทำเลที่เหมาะสมวิธี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความแตกต่างคือความสามารถของวัตถุที่จะใช้ในหลายรูปแบบ การใช้งานที่พบมากที่สุดของความแตกต่างใน OOP เกิดขึ้นเมื่อมีการอ้างอิงระดับผู้ปกครองจะใช้ในการอ้างถึงวัตถุชั้นเด็ก.

วัตถุใด ๆ Java ที่สามารถส่งผ่านมากกว่าหนึ่ง IS-การทดสอบถือว่าเป็น polymorphic ใน Java วัตถุ java มี polymorphic ตั้งแต่วัตถุใด ๆ ที่จะผ่าน IS-การทดสอบสำหรับประเภทของตัวเองและสำหรับวัตถุชั้น.

มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะรู้ว่าวิธีที่เดียวที่จะเข้าถึงวัตถุคือผ่านตัวแปรอ้างอิง ตัวแปรอ้างอิงสามารถของเพียงชนิดเดียว เมื่อประกาศชนิดของตัวแปรอ้างอิงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้.

ตัวแปรอ้างอิงที่สามารถกำหนดให้วัตถุอื่น ๆ ที่ให้ไว้ว่าจะไม่ประกาศเป็นครั้งสุดท้าย ประเภทของตัวแปรอ้างอิงจะกำหนดวิธีการที่มันสามารถเรียกใช้บนวัตถุ.

ตัวแปรอ้างอิงสามารถอ้างถึงวัตถุใด ๆ ประเภทประกาศหรือชนิดย่อยของประเภทการประกาศใด ๆ ตัวแปรอ้างอิงสามารถประกาศเป็นชั้นหรืออินเตอร์เฟซชนิด.

ตัวอย่าง
ให้เราดูตัวอย่าง.

อินเตอร์เฟซที่สาธารณะมังสวิรัติ {}
สัตว์คลาสที่สาธารณะ {}
เรียนสาธารณะกวางขยายสัตว์ดำเนินมังสวิรัติ {}
ตอนนี้ชั้นกวางจะถือเป็น polymorphic ตั้งแต่นี้มีมรดกหลาย ต่อไปนี้เป็นจริงสำหรับตัวอย่างข้างต้น -

กวาง IS-สัตว์
กวาง IS-มังสวิรัติ
กวาง IS-กวาง
กวาง IS-วัตถุ
เมื่อเรานำไปใช้อ้างอิงข้อเท็จจริงตัวแปรอ้างอิงวัตถุกวางประกาศดังต่อไปนี้ถูกต้องตามกฎหมาย -

ตัวอย่าง
กวาง d = ใหม่กวาง ();
สัตว์ = d;
มังสวิรัติ v = d;
o วัตถุ = d;
ทุกตัวแปรอ้างอิง D, ที่วีโอหมายถึงวัตถุกวางเหมือนกันในกอง.

วิธีเสมือนจริง
ในเรื่องนี้ ส่วนผมจะแสดงให้คุณเห็นว่าพฤติกรรมของวิธีการแทนที่ใน Java ช่วยให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากความแตกต่างในการออกแบบชั้นเรียนของคุณ.

แล้วเราได้กล่าวถึงวิธีการเอาชนะที่ชั้นเด็กสามารถแทนที่วิธีในแม่ วิธีการแทนที่ถูกซ่อนอยู่เป็นหลักในระดับผู้ปกครองและไม่ได้เรียกเว้นแต่ระดับเด็กใช้คำสำคัญสุดในวิธีการเอาชนะ