Explaining Institutional CondenceO

Explaining Institutional Condence
One explanation why government policy outputs in general, and the economy in particular, has received relatively little
attention in studies of institutional confidence is the view, originating in the earliest empirical studies of democracy, that
popular support for democratic norms has its origins in political culture. A more recent view identifies economic
performance as the main-spring for how citizens evaluate their governments and, in turn, for how they rate their
democratic institutions. Many studies have demonstrated the pivotal role of popular economic expectations in deciding
the fate of incumbent governments in established democracies (Lewis-Beck 1988; Fiorina 1981). Governments that
are perceived as delivering wealth and prosperity to their voters are more likely to be re-elected, while those that are
perceived as depressing economic conditions through their policies are likely to be replaced. In general, it is collective
rather than individual judgements that have most weight in the popular economic calculus, and those judgements are
usually (though not exclusively) retrospective rather than prospective.53
In evaluating the influence of economic conditions on political behaviour, there is a crucial distinction between
economic perception and economic reality. Considerable evidence suggests that voters believe that it is a central
responsibility of government to deliver high levels of economic performance. Since economic performance is judged
by collective (sociotropic) rather than individual (egocentric) criteria, popular perceptions about the economy are
shaped principally by the mass media and through an assessment of national economic conditions, and less by
individual economic circumstances. Since these perceptions are mainly collective, they relate directly to governments
and also, to some degree, to political institutions. But the linkages remain

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อธิบายสถาบัน Condenceคำอธิบายหนึ่งที่ทำไมรัฐบาลแสดงผลทั่วไป และเศรษฐกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้รับค่อนข้างน้อยมุมมอง สูตรแรกสุดประจักษ์ศึกษาประชาธิปไตย เป็นความสนใจในการศึกษาความเชื่อมั่นสถาบันที่สนับสนุนนิยมบรรทัดฐานประชาธิปไตยมีกำเนิดในวัฒนธรรมทางการเมือง ดูล่าสุดระบุเศรษฐกิจประสิทธิภาพเป็นหลักสปริง สำหรับวิธีประชาชนประเมินรัฐบาลของพวกเขา และ จะ วิธีการจัดอันดับของพวกเขาสถาบันประชาธิปไตย ศึกษาจำนวนมากได้แสดงบทบาทแปรของความคาดหวังทางเศรษฐกิจนิยมในการตัดสินใจชะตากรรมของรัฐบาล incumbent ในขึ้นเหมือน ๆ (Lewis เบ็ค 1988 Fiorina 1981) รัฐบาลที่ถือว่าส่งมอบและเจริญให้ผู้ลงคะแนนของพวกเขามีแนวโน้มที่จะได้รับเลือกตั้ง ในขณะที่ถือว่าเป็นเงื่อนไข depressing เศรษฐกิจผ่านนโยบายมักจะถูกแทน ทั่วไป จึงรวมแทน judgements แต่ละที่มีน้ำหนักมากที่สุดในแคลคูลัสเศรษฐกิจนิยม และ judgements เหล่านั้นโดยปกติ (แต่ไม่เฉพาะ) คาดแทน prospective.53ในการประเมินอิทธิพลของภาวะเศรษฐกิจในพฤติกรรมทางการเมือง มีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างรับรู้ทางเศรษฐกิจและความเป็นจริงทางเศรษฐกิจ หลักฐานพอสมควรแนะนำว่า ผู้ลงคะแนนเชื่อว่า เป็นศูนย์กลางความรับผิดชอบของรัฐบาลที่จะส่งมอบประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจในระดับสูง เนื่องจากตัดสินประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจby collective (sociotropic) rather than individual (egocentric) criteria, popular perceptions about the economy areshaped principally by the mass media and through an assessment of national economic conditions, and less byindividual economic circumstances. Since these perceptions are mainly collective, they relate directly to governmentsand also, to some degree, to political institutions. But the linkages remain

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อธิบายสถาบันCondenceหนึ่งคำอธิบายว่าทำไมผลนโยบายของรัฐบาลโดยทั่วไปและเศรษฐกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ได้รับค่อนข้างน้อยให้ความสนใจในการศึกษาความเชื่อมั่นของสถาบันเป็นมุมมองที่มีต้นกำเนิดในการศึกษาเชิงประจักษ์ที่เก่าแก่ที่สุดของระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนสนับสนุนสำหรับบรรทัดฐานประชาธิปไตยได้ต้นกำเนิดในวัฒนธรรมทางการเมือง มุมมองล่าสุดระบุเศรษฐกิจประสิทธิภาพเป็นหลักฤดูใบไม้ผลิสำหรับวิธีการประเมินประชาชนรัฐบาลของพวกเขาและในทางกลับกันสำหรับวิธีการของพวกเขาพวกเขาประเมินสถาบันประชาธิปไตย การศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของความคาดหวังทางเศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมในการตัดสินใจชะตากรรมของรัฐบาลมีหน้าที่ในระบอบประชาธิปไตยที่จัดตั้งขึ้น (ลูอิสเบ็ค 1988; Fiorina 1981) รัฐบาลที่มีการรับรู้กับการส่งมอบความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรืองของผู้มีสิทธิเลือกตั้งของพวกเขามีแนวโน้มที่จะได้รับการเลือกตั้งอีกครั้งในขณะที่ผู้ที่ได้รับการมองว่าเป็นภาวะเศรษฐกิจตกต่ำผ่านนโยบายของพวกเขามีแนวโน้มที่จะถูกแทนที่ โดยทั่วไปจะเป็นกลุ่มมากกว่าคำตัดสินของแต่ละบุคคลที่มีน้ำหนักมากที่สุดในแคลคูลัสทางเศรษฐกิจที่เป็นที่นิยมและคำตัดสินเหล่านี้มักจะ(แต่ไม่เฉพาะ) ย้อนหลังมากกว่า prospective.53 ในการประเมินอิทธิพลของภาวะเศรษฐกิจที่มีต่อพฤติกรรมทางการเมืองที่มีความเป็น ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างการรับรู้ทางเศรษฐกิจและความเป็นจริงทางเศรษฐกิจ หลักฐานแสดงให้เห็นว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งเชื่อว่าจะเป็นศูนย์กลางความรับผิดชอบของรัฐบาลที่จะส่งมอบประสิทธิภาพในระดับสูงทางเศรษฐกิจ เนื่องจากประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจที่จะตัดสินโดยรวม (sociotropic) มากกว่าของแต่ละบุคคล (เห็นแก่ตัว) เกณฑ์การรับรู้ยอดนิยมเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่มีรูปทรงโดยเฉพาะสื่อมวลชนและผ่านการประเมินสภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศและน้อยลงโดยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของแต่ละบุคคล ตั้งแต่การรับรู้เหล่านี้เป็นกลุ่มส่วนใหญ่พวกเขาเกี่ยวข้องโดยตรงกับรัฐบาลและยังได้ในระดับหนึ่งเพื่อให้สถาบันทางการเมือง แต่ยังคงมีความเชื่อมโยง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สถาบันอธิบายคอน dence
หนึ่งอธิบายว่าทำไมนโยบายของรัฐบาลโดยทั่วไป และเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ ได้รับความสนใจในการศึกษาค่อนข้างน้อย
ความเชื่อมั่นของสถาบัน เป็นมุมมองที่เกิดขึ้นในการศึกษาเชิงประจักษ์ของประชาธิปไตยโดยเร็ว การสนับสนุนที่เป็นที่นิยม
สำหรับบรรทัดฐานประชาธิปไตยมีถิ่นกําเนิดในวัฒนธรรมการเมือง มุมมองล่าสุดระบุเศรษฐกิจ
ประสิทธิภาพเป็นฤดูใบไม้ผลิหลักประชาชนประเมินว่ารัฐบาล และ เปิด สำหรับวิธีที่พวกเขาคะแนนสถาบันประชาธิปไตยของตนเอง

การศึกษาจำนวนมากได้แสดงให้เห็นความคาดหวังทางเศรษฐกิจ pivotal บทบาทของความนิยมในการตัดสินชะตาของผู้ดำรงตำแหน่งในรัฐบาล
ก่อตั้งประชาธิปไตย ( ลูอิส เบค 1988 ; ฟิออรี่น่า 1981 ) รัฐบาลที่
มีการรับรู้การส่งมอบความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรืองให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งของพวกเขามีแนวโน้มที่จะได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง ในขณะที่ผู้ที่รับรู้เร็ว
เงื่อนไขทางเศรษฐกิจผ่านนโยบายของพวกเขามีแนวโน้มที่จะถูกแทนที่ โดยทั่วไปจะรวม
มากกว่าคำพิพากษา บุคคลที่มีน้ำหนักมากที่สุดในแคลคูลัสนิยมทางเศรษฐกิจและการตัดสินใจเหล่านั้น
มักจะ ( แต่ไม่เฉพาะ ) ย้อนหลังมากกว่าอนาคต . 53
ในการประเมินอิทธิพลของเงื่อนไขทางเศรษฐกิจต่อพฤติกรรมทางการเมือง มีความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง
รับรู้ทางเศรษฐกิจและความเป็นจริงทางเศรษฐกิจ หลักฐานสำคัญแสดงให้เห็นว่าผู้เชื่อว่ามันเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลกลาง
เพื่อให้มีระดับสูงของประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมถือว่า
( sociotropic ) มากกว่าคน ( เห็นแก่ตัว ) เกณฑ์การรับรู้ยอดนิยมเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก โดย
รูปสื่อและผ่านการประเมินภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และน้อยโดย
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของแต่ละบุคคล เนื่องจากการรับรู้เหล่านี้ส่วนใหญ่โดยรวมก็เกี่ยวข้องโดยตรงกับรัฐบาล
และเพื่อการศึกษาระดับปริญญาบางส่วนแก่สถาบันทางการเมือง แต่ความเชื่อมโยงอยู่