13) The newly generated molten mant

13) The newly generated molten mantle (magma) is less dense than the
surrounding rock, so it rises toward the surface. Most of the magma
cools and solidifies as large bodies of plutonic (intrusive) rocks far
below the Earth’s surface. These large bodies, when later exposed
by erosion, commonly form cores of many great mountain ranges
[such as the Sierra Nevada (California) or the Andes (South America)]
that are created along the subduction zones where the plates
converge.
14) Some of the molten rock may reach the Earth’s surface to erupt as
the pent-up gas pressure in the magma is suddenly released, forming
volcanic (extrusive) rocks. Over time, lava and ash erupted each time
magma reaches the surface will accumulate—layer upon layer—to
construct volcanic mountain ranges and plateaus, such as the
Cascade Range and the Columbia River Plateau (Pacific Northwest,
U.S.A.).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

13) เสื้อคลุมหลอมเหลวที่สร้างขึ้นใหม่ (หนืด) มีความหนาแน่นน้อยกว่า
หินโดยรอบจึงลุกขึ้นไปยังพื้นผิว ส่วนใหญ่ของ
หินหนืดเย็นตัวลงและแข็งตัวในองค์กรขนาดใหญ่เป็นของหิน (ล่วงล้ำ) plutonic ไกล
ด้านล่างพื้นผิวของโลก เหล่านี้ในองค์กรขนาดใหญ่, เมื่อสัมผัสต่อมา
โดยการกัดเซาะก่อแกนของหลายภูเขาที่ยิ่งใหญ่
[เช่นเซียร่าเนวาดา (California) หรือแอนดีส (อเมริกาใต้)]
ที่สร้างขึ้นตามแนวเหลื่อมโซนที่ซึ่งแผ่น
มาบรรจบกัน.
14) บางส่วนของหินหลอมเหลวอาจถึงพื้นผิวโลกปะทุเป็น
ถูกคุมขัง ความดันก๊าซในหินหนืดถูกปลดปล่อยออกมาก็กลายเป็นหินภูเขาไฟ
(extrusive) เมื่อเวลาผ่านไปลาวาและเถ้าปะทุขึ้นในแต่ละครั้ง
หินหนืดถึงผิวจะสะสมชั้น-upon-layer เพื่อสร้าง
เทือกเขาภูเขาไฟและที่ราบเช่นช่วงน้ำตก
และแม่น้ำโคลัมเบียที่ราบสูง (มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ,
USA)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

13) หิ้งหลอมละลายสร้างขึ้นใหม่ (หินหนืด) มีความหนาแน่นน้อยกว่า
รอบหิน เพื่อจะขึ้นไปยังพื้นผิว ส่วนใหญ่ของหินหนืด
น่า และ solidifies เป็นองค์กรขนาดใหญ่ของหินการ (รำคาญ) plutonic ไกล
ด้านล่างพื้นผิวของโลก องค์กรเหล่านี้มีขนาดใหญ่ เมื่อภายหลังสัมผัส
โดยพังทลาย โดยทั่วไปเป็นแกนของภูเขาดีมาก
[เช่นเซียร์ราเนวาดา (แคลิฟอร์เนีย) หรืออังเดส (อเมริกาใต้)]
ที่สร้างขึ้นตามโซน subduction ซึ่งแผ่น
มาบรรจบกันได้
14) ของหินละลายอาจถึงพื้นผิวแผ่นดินลุกเป็นไฟเป็น
ความดันแก๊ส pent-up ในหินหนืดจู่ ๆ ออก ขึ้นรูป
(extrusive) หินภูเขาไฟได้ ช่วงเวลา ลาวาและเถ้าปะทุกัน
หินหนืดจนถึงผิวจะสะสม — ชั้นตามชั้น — เพื่อ
สร้างภูเขาภูเขาไฟและราบ เช่น
ช่วงการเรียงซ้อนและราบสูงแม่น้ำโคลัมเบีย (Northwest,
U.S.A แปซิฟิก)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

13 )เสื้อคลุมหล่อที่สร้างขึ้นใหม่(หินเหลวลาวา)มีความหนาแน่นน้อยกว่ามากกว่าหิน
โดยรอบนี้ก็ขึ้นไปที่ หินเหลวลาวาที่
เย็นตัวลงและรวมเป็นหน่วยงานขนาดใหญ่ของอันแรงกล้า(ยื่น)หินไกล
ด้านล่างบนพื้นผิวของโลก องค์กรขนาดใหญ่เหล่านี้เมื่อใน ภายหลัง ถูกเปิดเผยโดยการกัดกร่อน
ซึ่งจะช่วยโดยทั่วไปเป็นแกนหลักของเทือกเขา
ตามมาตรฐานที่ดีเยี่ยมจำนวนมาก[เช่นที่เซียร์เนวาดา( California )หรือที่เทือกเขาแอนดิส(อเมริกาใต้)]
ที่ถูกสร้างขึ้นตามแนว subduction โซนที่แผ่นความร้อน
มาบรรจบกัน. N 14 )บางส่วนของที่หล่อหินอาจไปถึงที่ดินของพื้นที่ในการแสดงออกซึ่งความไม่พอใจและ
ซึ่งจะช่วยให้อีแร้ง - ขึ้นก๊าซความดันในหินเหลวลาวาที่มีก็ออกมา,สร้าง
ภูเขา ไฟ( extrusive )หิน. ในช่วงเวลาที่เขี่ยบุหรี่และลาวาปะทุขึ้นในแต่ละครั้ง
ตามมาตรฐานหินเหลวลาวามาถึงพื้นที่ที่จะสะสมอยู่ชั้นบนราบบนเทือกเขาและ ภูเขา ไฟ
ซึ่งจะช่วยสร้างชั้นในเช่นช่วง
ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงและโคลัมเบียแม่น้ำแพลโท(ตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก
, U . S . A .)