The gene-for-gene relationship was

The gene-for-gene relationship was discovered by Harold Henry Flor[1][2][3][4] who was working with rust (Melampsora lini) of flax (Linum usitatissimum). Flor was the first scientist to study the genetics of both the host and parasite and to integrate them into one genetic system.[5] Gene-for-gene relationships are a widespread and very important aspect of plant disease resistance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความสัมพันธ์ของยีนต่อยีนถูกค้นพบ โดยฮาโรลด์เฮนรี Flor [1] [2] [3] [4] ที่ทำงานกับสนิม (Melampsora lini) ของลินิน (Linum usitatissimum) Flor ถูกนักวิทยาศาสตร์แรกศึกษาพันธุศาสตร์ของโฮสต์และปรสิต และ การรวมไว้ในระบบพันธุกรรมหนึ่ง[5] ความสัมพันธ์ยีนสำหรับยีนต้านทานโรคพืชด้านอย่างกว้างขวาง และมีความสำคัญมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความสัมพันธ์ของยีนสำหรับยีนถูกค้นพบโดยฮาโรลด์เฮนรี่ Flor [1] [2] [3] [4] ที่กำลังทำงานอยู่กับสนิม (Melampsora Lini) ปอ (Linum usitatissimum) Flor เป็นนักวิทยาศาสตร์คนแรกในการศึกษาพันธุศาสตร์ของทั้งเจ้าบ้านและปรสิตและเพื่อรวมไว้ในระบบทางพันธุกรรมหนึ่ง. [5] ความสัมพันธ์ของยีนสำหรับยีนที่มีลักษณะอย่างกว้างขวางและสิ่งที่สำคัญมากของความต้านทานโรคพืช

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ยีน ยีน ความสัมพันธ์ถูกค้นพบโดยฮาโรลด์เฮนรี่ Flor [ 1 ] [ 2 ] [ 3 ] [ 4 ] ที่เคยร่วมงานกับสนิม ( melampsora ลินี ) ป่าน ( ลีโนม usitatissimum ) ฟล ์เป็นครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์ศึกษาพันธุกรรมของทั้งเจ้าภาพและปรสิตและบูรณาการเข้าไปในระบบทางพันธุกรรม . [ 5 ] ยีนสำหรับความสัมพันธ์ของยีนเป็นอย่างกว้างขวางและแง่มุมที่สำคัญมากของความต้านทานโรคพืช