Steven Paul "Steve" Jobs (/ˈdʒɒbz/;

Steven Paul "Steve" Jobs (/ˈdʒɒbz/; February 24, 1955 – October 5, 2011)[3][4] was an American entrepreneur,[5] marketer,[6] and inventor,[7] who was the cofounder, chairman, and CEO of Apple Inc. Through Apple, he was widely recognized as a charismatic and design-driven pioneer of the personal computer revolution[8][9] and for his influential career in the computer and consumer electronics fields, transforming "one industry after another, from computers and smartphones to music and movies."[10] Jobs served as chief executive of Pixar Animation Studios; he became a member of the board of directors of The Walt Disney Company in 2006, when Disney acquired Pixar. Jobs was among the first to see the commercial potential of Xerox PARC's mouse-driven graphical user interface, which led to the creation of the Apple Lisa and a year later, the Macintosh. He played a role in introducing the LaserWriter, the first laser printer to feature vector graphics that started desktop publishing to the market.[11]

After a power struggle with the board of directors in 1985, Jobs left Apple and founded NeXT, a computer platform development company specializing in the higher-education and business markets. In 1986, he acquired the computer graphics division of Lucasfilm, which was spun off as Pixar.[12] He was credited in Toy Story (1995) as an executive producer and characteristically forgiving principal investor of Pixar. He served as CEO and majority shareholder until Disney's purchase of Pixar in 2006.[13] In 1996, after Apple had failed to deliver its operating system, Copland, Gil Amelio turned to NeXT Computer, and the NeXTSTEP platform became the foundation for the Mac OS X.[14] Jobs returned to Apple as an advisor, and took control of the company as an interim CEO. Jobs brought Apple from near bankruptcy to profitability by 1998.[15][16][17]

As the new CEO of the company, Jobs oversaw the development of the iMac, iTunes, iPod, iPhone, and iPad, and on the services side, the company's Apple Retail Stores, iTunes Store and the App Store.[18] The success of these products and services provided several years of stable financial returns, and propelled Apple to become the world's most valuable publicly traded company in 2011.[19] The reinvigoration of the company is regarded by many commentators as one of the greatest turnarounds in business history.[20][21][22]

In 2003, Jobs was diagnosed with a pancreas neuroendocrine tumor. Though it was initially treated, he reported a hormone imbalance, underwent a liver transplant in 2009, and appeared progressively thinner as his health declined.[23] On medical leave for most of 2011, Jobs resigned in August that year, and was elected Chairman of the Board. He died of respiratory arrest related to the tumor on October 5, 2011.

Jobs received a number of honors and public recognition for his influence in the technology and music industries. He has been referred to as "legendary", a "futurist" and a "visionary",[24][25][26][27] and has been described as the "Father of the Digital Revolution,"[28] a "master of innovation,"[29][30] "the master evangelist of the digital age"[31] and a "design perfectionist."

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Steven Paul " Steve " งาน (/ ˈdʒɒbz / 24 กุมภาพันธ์ 1955 – 5 ตุลาคม 2011) [3] [4] ได้เป็นผู้ประกอบการชาวอเมริกัน ตลาด [5], [6] และนัก ประดิษฐ์, [7] ที่ cofounder ประธาน และ CEO ของ แอปเปิล โดยแอปเปิ้ล เขาได้อย่างกว้างขวางเป็นบารมี และขับ เคลื่อนการออกแบบผู้บุกเบิก ของการปฏิวัติคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล [8] [9] และ ในอาชีพของเขามีอิทธิพลในเขตอิเล็กทรอนิกส์คอมพิวเตอร์และผู้บริโภค เปลี่ยน "หนึ่งอุตสาหกรรมหลังจากที่อื่น จากคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนให้เพลงและภาพยนตร์" [10] ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารระดับสูงของพิกซาร์เคลื่อนไหวสตูดิโอ งาน เขาเป็นสมาชิกของคณะกรรมการของเดอะ วอลต์ดิสนีย์ในปี 2006 เมื่อดิสนีย์ซื้อพิกซาร์ งานได้ในครั้งแรกเพื่อดูศักยภาพเชิงพาณิชย์ของ Xerox PARC ขับเคลื่อนเมาส์แสดงส่วนติดต่อผู้ใช้ ซึ่งนำไปสู่การสร้างของลิซ่าแอปเปิ้ลและปีต่อมา Macintosh เล่นบทบาทในการแนะนำ LaserWriter เครื่องพิมพ์เลเซอร์ครั้งแรกให้คุณลักษณะกราฟิกแบบเวกเตอร์ที่เริ่มออกแบบสิ่งพิมพ์การตลาด [11]หลังจากกำลังต่อสู้กับคณะกรรมการในปี 1985 งานจากแอปเปิ้ล และก่อตั้งบริษัทแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์พัฒนาในตลาดสูงขึ้นการศึกษา และธุรกิจ ใน 1986 เขามาส่วนกราฟิกคอมพิวเตอร์ของลูคัสฟิล์ม การสานออกเป็นพิกซาร์ [12] เขามีเครดิตในทอยสตอรี่ (1995) เป็นโปรดิวเซอร์ผู้บริหารและ characteristically อภัยนักหลักของพิกซาร์ เขาทำหน้าที่เป็นซีอีโอ และผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ของดิสนีย์ซื้อพิกซาร์ในปี 2006 จน [13] ในปี 1996 หลังจากที่แอปเปิลได้ล้มเหลวในการจัดส่งระบบปฏิบัติการ Copland, Gil Amelio เปิดคอมพิวเตอร์เครื่องถัดไป และแพลตฟอร์ม NeXTSTEP เป็น รากฐานสำหรับงาน Mac OS x. อัพ [14] กลับไปยังแอปเปิ้ลเป็น และควบคุมบริษัทเป็น CEO ชั่ว งานนำแอปเปิ้ลจากใกล้ล้มละลายเพื่อผลกำไร โดยปี 1998 [15] [16] [17]เป็นซีอีโอใหม่ของบริษัท งานดูแลการพัฒนา ของ iMac, iTunes, iPod, iPhone, iPad และ ด้านบริการ ร้าน ค้าปลีก Apple ของบริษัท ร้าน iTunes และ App Store [18] ความสำเร็จของผลิตภัณฑ์และบริการเหล่านี้มีหลายปีของคอกแทนทางการเงิน และแอปเปิ้ลอในเป็น ค่ะส่วนใหญ่ของโลกเผยซื้อขายบริษัทในปี 2554 [19] ที่ reinvigoration ของบริษัทถือเป็นแสดงมากเป็น turnarounds มากที่สุดในประวัติศาสตร์ธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง [20] [21] [22]ใน 2003 งานถูกวินิจฉัยกับโรคเนื้องอก neuroendocrine ตับอ่อน ว่ามันได้เริ่มรับการรักษา เขารายงานความไม่สมดุลของฮอร์โมน ผ่านการปลูกถ่ายตับใน 2009 และปรากฏความก้าวหน้าบางเป็นสุขภาพของเขาปฏิเสธนั้น [23] ลาแพทย์สำหรับส่วนมากของ 2011 งานลาออกจากตำแหน่งในเดือนสิงหาคมปี และได้รับเลือกเป็นประธานคณะกรรมการการ เขาตายของจับทางเดินหายใจที่เกี่ยวข้องกับเนื้องอกที่เมื่อ 5 ตุลาคม 2011งานได้รับเกียรตินิยมและการรับรู้สาธารณะสำหรับอิทธิพลของเขาในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและเพลง เขาได้รับการเรียกว่า "ตำนาน" "futurist" และเป็น "วิสัย ทัศน์", [24] [25] [26] [27] และมีการอธิบายเป็นการ "บิดาของเดอะดิจิตอลปฏิวัติ [28] เป็น"หลัก"ของนวัตกรรม [29] [30] "ที่หลักผู้นิพนธ์พระวรสารของยุคดิจิตอล" [31] และการ"ออกแบบ perfectionist ด้วย"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สตีเฟนพอล "สตีฟ" งาน (/ dʒɒbz /; 24 กุมภาพันธ์ 1955 - 5 ตุลาคม 2011) [3] [4] เป็นผู้ประกอบการชาวอเมริกัน [5] การตลาด [6] และนักประดิษฐ์ [7] ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ประธานและซีอีโอของแอปเปิ้ลแอปเปิ้ลอิงค์ผ่านเขาได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้บุกเบิกและการออกแบบที่มีความสามารถพิเศษที่ขับเคลื่อนด้วยการปฏิวัติคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล [8] [9] และสำหรับการประกอบอาชีพที่มีอิทธิพลของเขาในสาขาอิเล็กทรอนิกส์คอมพิวเตอร์และผู้บริโภคเปลี่ยน " อุตสาหกรรมหนึ่งหลังจากที่อื่นจากคอมพิวเตอร์และมาร์ทโฟนไปกับเสียงเพลงและภาพยนตร์ "[10] งานทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้บริหารของพิกซาร์สตูดิโอแอนิเมชั่. เขาก็กลายเป็นสมาชิกคนหนึ่งของคณะกรรมการบริหารของ บริษัท วอลท์ดิสนีย์ในปี 2006 เมื่อดิสนีย์พิกซาร์ที่ได้มา งานเป็นคนแรกที่จะได้เห็นศักยภาพในเชิงพาณิชย์ของอินเตอร์เฟซผู้ใช้ Xerox PARC ของกราฟิกเมาส์ที่ขับเคลื่อนด้วยซึ่งนำไปสู่การสร้างแอปเปิ้ลลิซ่าและในปีต่อมาแมคอินทอช เขาเล่นบทบาทในการแนะนำ LaserWriter, เครื่องพิมพ์เลเซอร์แรกที่มีกราฟิกแบบเวกเตอร์ที่เริ่มต้นการเผยแพร่เดสก์ทอปในตลาด. [11] หลังจากที่ต่อสู้แย่งชิงอำนาจกับคณะกรรมการของ บริษัท ในปี 1985 งานที่เหลือแอปเปิ้ลและก่อตั้ง NeXT ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ บริษัท พัฒนาความเชี่ยวชาญในการศึกษาที่สูงขึ้นและตลาดธุรกิจ ในปี 1986 เขาได้รับส่วนคอมพิวเตอร์กราฟิกของลูคัสฟิล์มซึ่งถูกปั่นออกมาเป็นพิกซาร์. [12] เขาได้รับเครดิตใน Toy Story (1995) เป็นผู้อำนวยการและนักลงทุนหลักให้อภัยลักษณะของพิกซาร์ เขาทำหน้าที่เป็นซีอีโอและผู้ถือหุ้นใหญ่จนซื้อของดิสนีย์พิกซาร์ในปี 2006 [13] ในปี 1996 หลังจากที่แอปเปิ้ลได้ล้มเหลวในการส่งมอบระบบปฏิบัติการ, Copland กิลเมลิโอหันไป NeXT คอมพิวเตอร์และแพลตฟอร์ม NeXTSTEP กลายเป็นรากฐานสำหรับ Mac OS X ได้ [14] งานกลับไปที่แอปเปิ้ลเป็นที่ปรึกษาและเข้าควบคุม บริษัท ในฐานะซีอีโอชั่วคราว งานนำแอปเปิ้ลจากการล้มละลายอยู่ใกล้กับการทำกำไรจากปี 1998 [15] [16] [17] ในฐานะที่เป็นซีอีโอคนใหม่ของ บริษัท ที่คุมงานการพัฒนาของ iMac, iTunes, iPod, iPhone และ iPad และด้านบริการ บริษัท แอปเปิ้ลร้านค้าปลีก, iTunes Store และ App Store ที่. [18] ความสำเร็จของผลิตภัณฑ์และบริการเหล่านี้ให้เป็นเวลาหลายปีของผลตอบแทนทางการเงินที่มั่นคงและขับเคลื่อนแอปเปิ้ลที่จะกลายเป็น บริษัท ที่มีคุณค่ามากที่สุดในโลกที่มีหุ้นซื้อขายในปี 2011 [19] reinvigoration ของ บริษัท ได้รับการยกย่องจากหลายคนว่าเป็นหนึ่งในการหยุดซ่อมบำรุงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ธุรกิจ. [20] [21] [22] ในปี 2003 เป็นงานที่ได้รับการวินิจฉัยเนื้องอกตับอ่อน neuroendocrine แม้ว่าจะได้รับการรักษาในขั้นต้นเขารายงานความไม่สมดุลของฮอร์โมนที่เปลี่ยนไปปลูกถ่ายตับในปี 2009 และมีความก้าวหน้าปรากฏทินเนอร์เป็นสุขภาพของเขาลดลง. [23] ลาทางการแพทย์มากที่สุดในปี 2011 ลาออกจากงานในเดือนสิงหาคมในปีนั้นและได้รับเลือกตั้งเป็นประธาน ของคณะกรรมการ เขาเสียชีวิตจากการจับกุมที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจเนื้องอกที่ 5 ตุลาคม 2011 งานรับจำนวนเกียรตินิยมและการรับรู้ของประชาชนสำหรับอิทธิพลของเขาในด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมเพลง เขาได้รับการเรียกว่า "ตำนาน", "ลัทธิ" และ "จินตนาการ" [24] [25] [26] [27] และได้รับการอธิบายว่า "พระบิดาแห่งการปฏิวัติดิจิตอล" [28] "ต้นแบบของนวัตกรรม" [29] [30] "ศาสนาหลักของยุคดิจิตอล" [31] และ "การออกแบบสมบูรณ์."

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สตีเว่น พอล " สตีฟ " งาน ( / ˈ D ʒɒ BZ / ; 24 กุมภาพันธ์ 1955 – 5 ตุลาคม 2011 ) [ 3 ] [ 4 ] เป็นผู้ประกอบการชาวอเมริกัน , [ 5 ] [ 6 ] และนักการตลาด , นักประดิษฐ์ , [ 7 ] ใครคือผู้ร่วมก่อตั้ง , ประธานและ CEO ของ Apple Inc . โดยแอปเปิ้ล ,เขาได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์และการออกแบบขับเคลื่อนผู้บุกเบิกของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลการปฏิวัติ [ 8 ] [ 9 ] และสำหรับอาชีพของเขามีอิทธิพลในคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ด้าน เปลี่ยน " หนึ่งในอุตสาหกรรมหลังจากที่อื่นจากคอมพิวเตอร์และมาร์ทโฟนกับดนตรีและภาพยนตร์ " [ 10 ] งานทำหน้าที่เป็นผู้บริหารระดับสูงของพิกซาร์แอนิเมชันสตูดิโอ ;เขากลายเป็นสมาชิกของคณะกรรมการของ บริษัท วอลท์ ดิสนีย์ ในปี 2006 เมื่อได้มาดิสนีย์พิกซ่า งานเป็นหนึ่งในครั้งแรกเพื่อดูศักยภาพเชิงพาณิชย์ของซีร็อกซ์พาร์คเมาส์ขับเคลื่อนอินเตอร์เฟซผู้ใช้แบบกราฟิก ซึ่งนำไปสู่การสร้างแอปเปิ้ลลิซ่า และปีต่อมา แมคอินทอช . เขาเล่นบทบาทใน laserwriter แนะนํา ,เครื่องพิมพ์เลเซอร์แรกเวกเตอร์ลักษณะกราฟิกที่เริ่มเผยแพร่เดสก์ทอปในตลาด . [ 11 ]

หลังจากกำลังต่อสู้กับคณะกรรมการของ บริษัท ในปี 1985 , งานจากแอปเปิ้ล และก่อตั้ง ถัดไปเป็นแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์การพัฒนา บริษัท ที่เชี่ยวชาญในตลาดการศึกษาระดับอุดมศึกษาและธุรกิจ . 2529 เขาได้รับแผนกคอมพิวเตอร์กราฟิกของลูคัสฟิล์มซึ่งถูกปั่นจากพิกซ่า[ 12 ] เขามีเครดิตใน Toy Story ( 1995 ) เป็นผู้ผลิตหลักของพิกซาร์และให้อภัยตัวนักลงทุน . เขาทำหน้าที่เป็นซีอีโอและผู้ถือหุ้นจนซื้อดิสนีย์ของพิกซาร์ในปี 2006 [ 13 ] ในปี 1996 หลังจากที่แอปเปิ้ลล้มเหลวในการส่งมอบระบบปฏิบัติการของ copland กิล amelio หันไปหน้าคอมพิวเตอร์ และ ระบบแพลตฟอร์มเป็น รากฐาน สำหรับ Mac OS X[ 14 ] งานกลับไปที่แอปเปิ้ลเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาและควบคุมของ บริษัท เป็นประธานชั่วคราว งานเอาแอปเปิ้ลจากใกล้ล้มละลายเพื่อทำกำไรโดย 1998 . [ 15 ] [ 16 ] [ 17 ]

เป็นประธานของ บริษัท , งานดูแลการพัฒนาของ iMac , iTunes , iPod , iPhone และ iPad และในด้านบริการ บริษัท แอปเปิ้ลร้านค้าปลีก , ร้านค้า iTunes และ ที่ App Store .[ 18 ] ความสำเร็จของผลิตภัณฑ์เหล่านี้และบริการหลายปีผลตอบแทนทางการเงินที่มั่นคง และ propelled แอปเปิ้ลจะกลายเป็นโลกที่มีคุณค่ามากที่สุด บริษัท ซื้อขายสาธารณะใน 2011 . [ 19 ] reinvigoration ของบริษัทถือว่าโดยมากแสดงความเห็นเป็นหนึ่งในการตอบสนองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ธุรกิจ [ 20 ] [ 21 ] 22 ]

ในปี 2003 งานถูกวินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกตับอ่อนต่อมไร้ท่อ .แต่มันก็เริ่มปฏิบัติ เขารายงานว่า ความไม่สมดุลของฮอร์โมนที่ได้รับการปลูกถ่ายตับ , 2009 , และปรากฏค่อยๆเรียวสุขภาพของเขาปฏิเสธ [ 23 ] การรักษาออกไปให้มากที่สุดของ 2011 , งานลาออกในเดือนสิงหาคมปีนั้น และได้รับเลือกเป็นประธานคณะกรรมการ เขาเสียชีวิตจากการจับกุมทางเดินหายใจที่เกี่ยวข้องกับเนื้องอกเกี่ยวกับตุลาคม 5 , 2011 .

งานที่ได้รับหมายเลขของเกียรติยศและการยอมรับสาธารณะสำหรับอิทธิพลของเขาในด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมดนตรี เขาถูกเรียกว่า " ตำนาน " , " ลัทธิ " และ " จินตนาการ " [ 24 ] [ 25 ] [ 26 ] [ 27 ] และได้รับการอธิบายว่าเป็น " บิดาแห่งการปฏิวัติดิจิตอล " [ 28 ] " ต้นแบบของนวัตกรรม " [ 29 ] [ 30 ] ” อาจารย์สอนศาสนาของยุคดิจิตอล " [ 31 ] และ " ออกแบบ "
8 .