Festivals[edit]Hae Pha Khuen That F

Festivals[edit]
Hae Pha Khuen That Festival (ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ) is celebrated at Phra Borom That Chedi. The pagoda is considered to be the representative of Lord Buddha and is believed by locals to possess unsurpassed might of righteousness as it contains holy relics. Every year Buddhists pay homage to the pagoda by organizing a procession bearing a religious cloth to wrap around the pagoda to bring good fortune and success. This festival is held twice a year during Makha Bucha Day (the 15th full-moon night of February) and Wisakha Bucha Day (the 15th full-moon night of May).

Festival of the Tenth Lunar Month (ประเพณีเทศกาลเดือนสิบ) is a grand event of the province and of southern Thailand. This festival is held from the 1st waning-moon night to the 15th waning-moon night every September. It is held to pay respect to deceased ancestors. According to Buddhism beliefs, the dead had many sins and were sent to hell to become a demon. The demons are allowed to come up to meet their relatives for 15 days in September, but must return to hell before sunrise of the 15th day. The living tries to appease the spirits by taking food to temples to make merit. Beginning on the 13th day, people will go shopping for food to be given. The 14th day is spent preparing and decorating the food tray, and the 15th day is the actual merit-making day. The tray presented nowadays has elaborate designs but still retains traditional components. Contests to find the most beautiful tray are held. A magnificent procession proceeds along Ratchadamnoen Road on the 14th day.

Chak Phra or Lak Phra Festival (ประเพณีชักพระหรือลากพระ) is influenced by Indian culture, which expanded into the province a long time ago. The festival signifies the joy that people had when Lord Buddha returned from a star and the Lord was invited to sit on a throne and carried to a palace. In practice, locals would bear a Buddha image holding a bowl in a procession around the city. This is a great way for escape from daily routine and it is a fun competition to find who is the most religious. Held in October, the festival is preceded by activities 7 days before, such as beating drums, playing castanets and decorating the ceremonial throne for the image. The actual ceremony is usually held only on the last day of the Buddhist lent. People would take the image from the temple in the morning and proceed to Benchama Rachuthit School in Amphoe Mueang. This is also done in front of Ron Phibun district office. In addition, there is a water-borne procession on Pak Phanang River in Pak Phanang, which coincides with an annual boat race for a trophy from the Crown Princess.

Cow fighting (กีฬาชนวัว) is an identity of southern Thailand and is an ancient sport of Nakhon Si Thammarat. Many details are involved in staging a contest. Cows selected will have the best breeding and will be trained and carefully looked after. The contest itself is held weekly with districts not far from the city taking turn to host, which are Mueang, Pak Phanang, Chawang, Thung Song, Hua Sai, and Ron Phibun.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

[แก้ไข] เทศกาลแหผาคลื่นว่าเทศกาล (ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ) มีการเฉลิมฉลองที่พระบรมว่าเจดีย์ เจดีย์ที่ถือเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า และเชื่อ โดยชาวบ้านอาจกำลังของความชอบธรรมในการครอบครองเนื่องจากประกอบด้วยพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ ทุกปีพุทธสักการะพระธาตุ โดยการจัดขบวนเรืองศาสนาผ้าห่อรอบเจดีย์จะนำโชคดีและประสบความสำเร็จ เทศกาลนี้จะจัดขึ้นสองปีในวันมาฆบูชา (15 พระจันทร์เต็มดวงคืนเดือนกุมภาพันธ์) ช่วงวันวิสาขบูชา (15 พระจันทร์เต็มดวงคืนพฤษภาคม)เทศกาลของค่ำเดือนสิบ (ประเพณีเทศกาลเดือนสิบ) จะเป็นเหตุการณ์ ของจังหวัด และ ของประเทศไทย เทศกาลนี้จะจัดขึ้นจากคืนดวงจันทร์ชำระ 1 คืนมูนชำระ 15 กันยายนทุก จัดการนับถือบรรพบุรุษผู้ ตามความเชื่อของพุทธศาสนา คนตายมีบาปมาก และถูกส่งไปนรกเป็น หนึ่ง ปีศาจได้รับอนุญาตให้ขึ้นมาเพื่อตอบสนองญาติ 15 วันในเดือนกันยายน แต่กลับต้องไปนรกก่อนอาทิตย์ขึ้นของวัน 15 ชีวิตพยายามวักบวงสรวง โดยการนำอาหารไปวัดทำบุญ เริ่มต้นในวัน 13 คนจะไปซื้ออาหารเพื่อจะ วันที่ 14 ที่ใช้เตรียม และผสมอาหารถาด และวัน 15 เป็นวันทำบุญจริง ถาดที่นำเสนอในปัจจุบันได้ออกแบบอย่างประณีต แต่ยัง รักษาส่วนประกอบดั้งเดิม มีจัดประกวดหาถาดสวยงาม ขบวนที่งดงามที่ดำเนินการไปตามถนนราชดำเนินในวันที่ 14จากพระหรือเทศกาลพระหลัก (ประเพณีชักพระหรือลากพระ) ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอินเดีย ซึ่งขยายเข้าไปในจังหวัดผ่านมานาน เทศกาลหมายถึงความสุขที่คนได้เมื่อพระพุทธเจ้ากลับจากดาว และพระเจ้าได้รับเชิญให้นั่งบนบัลลังก์ และถูกนำไปวัง ในทางปฏิบัติ ชาวบ้านจะแบกถือชามในขบวนรอบเมืองพระพุทธรูป นี้เป็นวิธีดีสำหรับหลีกหนีจากชีวิตประจำวัน และเป็นการแข่งขันเพื่อค้นหาใครเป็นศาสนาสุด จัดขึ้นในเดือนตุลาคม เทศกาลจะนำหน้า ด้วยกิจกรรมวันก่อน ตีกลอง เล่น castanets และตกแต่งบัลลังก์กัญญาในภาพ มักจะมีจัดพิธีจริงในวันสุดท้ายของพระพุทธศาสนาเข้าพรรษาเท่านั้น คนจะใช้รูปจากวัดในตอนเช้า และไป Benchama Rachuthit โรงเรียนในอำเภอเมือง นอกจากนี้นี้ยังจะทำหน้าอำเภอร่อนพิบูลย์ นอกจากนี้ มีขบวนแบกรับน้ำในปากพนังแม่น้ำปากพนัง ที่กรุณาการแข่งขันเรือประจำปีในชิงถ้วยรางวัลจากสมเด็จพระมงกุฎวัวที่ต่อสู้ (กีฬาชนวัว) เป็นข้อมูลเฉพาะตัวของประเทศไทย และเป็นกีฬาโบราณของนครศรีธรรมราช รายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวข้องในการจัดเตรียมการประกวด เลือกวัวจะได้พันธุ์ที่ดีที่สุด และจะฝึกอบรม และมองอย่างระมัดระวังหลังจาก มีจัดประกวดเองทุกสัปดาห์กับอำเภอไม่ไกลจากตัวเมืองที่จะโฮสต์ การเมือง ปากพนัง ฉวาง ทุ่งสง หัวไทร และร่อนพิบูลย์ซึ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เทศกาล [แก้ไข]
เฮผาเขื่อนขันธ์ที่เทศกาล (ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ) ที่มีการเฉลิมฉลองพระบรมธาตุเจดีย์ เจดีย์จะถือเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าและเชื่อว่าชาวบ้านจะมีอำนาจที่ไม่มีใครเทียบความชอบธรรมเนื่องจากมีพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ ทุกปีชาวพุทธกราบไหว้เจดีย์โดยการจัดขบวนแบกผ้าศาสนาเพื่อห่อรอบเจดีย์ที่จะนำความโชคดีและประสบความสำเร็จ เทศกาลนี้จะจัดขึ้นปีละสองครั้งในช่วงวันมาฆบูชา (คืนพระจันทร์เต็มดวง 15 กุมภาพันธ์) และวันวิสาขบูชา (ในคืนพระจันทร์เต็มดวง 15 พฤษภาคม). เทศกาลสิบจันทรคติเดือน (ประเพณีเทศกาลเดือนสิบ) เป็น เหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของจังหวัดและภาคใต้ของประเทศไทย เทศกาลนี้จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 คืนแรม-ดวงจันทร์ในคืนแรมดวงจันทร์วันที่ 15 ทุกเดือนกันยายน มันถูกจัดขึ้นเพื่อเคารพบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ ตามความเชื่อทางพุทธศาสนาที่มีบาปตายจำนวนมากและถูกส่งไปยังนรกที่จะกลายเป็นปีศาจ ปีศาจได้รับอนุญาตให้ขึ้นมาเพื่อตอบสนองญาติของพวกเขาเป็นเวลา 15 วันในเดือนกันยายน แต่ต้องกลับไปนรกก่อนพระอาทิตย์ขึ้นของวันที่ 15 ที่อาศัยอยู่พยายามที่จะเอาใจวิญญาณโดยการใช้อาหารไปวัดทำบุญ เริ่มต้นในวันที่ 13 คนจะไปช้อปปิ้งสำหรับอาหารที่จะได้รับ วันที่ 14 คือการใช้จ่ายการจัดเตรียมและตกแต่งถาดอาหารและในวันที่ 15 เป็นทำบุญวันเกิดขึ้นจริง ถาดนำเสนอในปัจจุบันมีการออกแบบที่ซับซ้อน แต่ยังคงส่วนประกอบดั้งเดิม การแข่งขันเพื่อหาถาดที่สวยที่สุดที่จะมีขึ้น เงินขบวนแห่ที่สวยงามตามถนนราชดำเนินในวันที่ 14. ชักพระหรือหลักพระเทศกาล (ประเพณีชักพระหรือลากพระ) ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอินเดียที่ขยายตัวเข้ามาในจังหวัดเป็นเวลานานแล้ว เทศกาลหมายถึงความสุขที่ผู้คนได้เมื่อพระพุทธเจ้ากลับมาจากดาวและพระเจ้าได้รับเชิญให้นั่งบนบัลลังก์และดำเนินการไปยังพระราชวังที่ ในทางปฏิบัติที่ชาวบ้านจะทนพระพุทธรูปถือชามในขบวนรอบเมือง นี่คือวิธีที่ดีสำหรับการหลบหนีจากกิจวัตรประจำวันและมันเป็นการแข่งขันที่สนุกที่จะหาผู้ที่เป็นศาสนามากที่สุด ที่จัดขึ้นในเดือนตุลาคมเทศกาลจะนำหน้าด้วยกิจกรรม 7 วันก่อนเช่นตีกลองเล่นฉิ่งและตกแต่งบัลลังก์พิธีภาพ พิธีที่เกิดขึ้นจริงมักจะจัดขึ้นเฉพาะในวันสุดท้ายของการเข้าพรรษา คนที่จะใช้ภาพจากวัดในตอนเช้าและดำเนินการ Benchama Rachuthit โรงเรียนในอำเภอเมือง นี้จะทำยังด้านหน้าของที่ว่าการอำเภอร่อนพิบูลย์ นอกจากนี้ยังมีขบวนแห่น้ำพัดพาปากแม่น้ำปากพนังในปากพนังซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับการแข่งขันเรือประจำปีสำหรับรางวัลจากมงกุฎเจ้าหญิงก. วัวต่อสู้ (กีฬาชนวัว) เป็นตัวตนของภาคใต้และเป็นโบราณ กีฬาของจังหวัดนครศรีธรรมราช รายละเอียดมากมีส่วนร่วมในการแสดงละครการประกวด วัวที่เลือกจะมีพันธุ์ที่ดีที่สุดและจะได้รับการฝึกอบรมและดูอย่างระมัดระวังหลังจาก การแข่งขันของตัวเองที่จะจัดขึ้นทุกสัปดาห์กับอำเภอไม่ไกลจากเมืองที่การเปิดให้เป็นเจ้าภาพซึ่งเป็นเมืองปากพนัง, ฉวาง, ทุ่งสง, หัวไทรและร่อนพิบูลย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เทศกาล [ แก้ไข ]
แฮผาแคนที่เทศกาล ( ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ ) มีการเฉลิมฉลองที่พระบรมที่เจดีย์ เจดีย์จะถือว่าเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าและเชื่อว่าชาวบ้านครอบครองอาจไม่มีที่เปรียบของความชอบธรรมเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ทุกปีพุทธศาสนิกชนสักการะเจดีย์ ด้วยการจัดขบวนแห่ทางศาสนา ถือผ้าห่อรอบพระเจดีย์ เพื่อนำความโชคดีและความสำเร็จ เทศกาลนี้จะจัดขึ้นปีละสองครั้งในช่วงวันมาฆบูชา ( 15 คืนพระจันทร์เต็มดวงของเดือน ) และ wisakha วันมาฆบูชา ( 15 คืนพระจันทร์เต็มดวงของเดือนพฤษภาคม ) .

เทศกาลของเดือนจันทรคติที่สิบ ( ประเพณีเทศกาลเดือนสิบ ) เป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของจังหวัด และ ภาคใต้ เทศกาลนี้จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ข้างแรมคืนเดือนมืดทุกคืน วันที่ 15 กันยายน มันถูกจัดขึ้น เพื่อไหว้บรรพบุรุษที่ตายไปแล้ว ตามความเชื่อของพระพุทธศาสนา ตาย มีบาปมากมาย และถูกส่งไปยังนรกให้กลายเป็นปีศาจปีศาจได้รับอนุญาตให้มาพบกับญาติของพวกเขาเป็นเวลา 15 วัน ในเดือนกันยายน แต่ต้องกลับนรกก่อนพระอาทิตย์ขึ้นในวันที่ 15 คนพยายามที่จะปลอบใจวิญญาณโดยเอาอาหารไปให้วัดเพื่อทำบุญ เริ่มวันที่ 13 คน จะออกไปซื้ออาหารที่จะได้รับ 14 วัน คือใช้เวลาเตรียมและตกแต่งถาดอาหารและวันที่ 15 เป็นจริงทำบุญวัน ถาดแสดงในปัจจุบันมีการออกแบบที่ซับซ้อน แต่ยังคงมีองค์ประกอบแบบดั้งเดิม ประกวดหาถาดที่สวยที่สุดไว้ งดงามตามขบวน โซลูชั่น จำกัด ถนนมีในวันที่ 14 .

ชักพระลักพระ หรือเทศกาล ( ประเพณีชักพระหรือลากพระ ) ได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมอินเดียซึ่งขยายเข้าไปในจังหวัดมานาน เทศกาล หมายถึงความสุขที่ผู้คนได้เมื่อพระพุทธเจ้ากลับมาจากดาวและทรงได้รับเชิญไปนั่งบนบัลลังก์ และอุ้มไปยังพระราชวัง ในทางปฏิบัติ ชาวบ้านจะแบกพระพุทธรูปถือชามในขบวนแห่รอบเมือง