AbstractRecent research has conclud

Abstract
Recent research has concluded that forest wildfires in the western United States are becoming larger and more frequent. A more significant question may be whether the ecosystem impacts of wildfire are also increasing. We show that a large area (approximately 120000 km2) of California and western Nevada experienced a notable increase in the extent of forest stand-replacing (“high severity”) fire between 1984 and 2006. High severity forest fire is closely linked to forest fragmentation, wildlife habitat availability, erosion rates and sedimentation, post-fire seedling recruitment, carbon sequestration, and various other ecosystem properties and processes. Mean and maximum fire size, and the area burned annually have also all risen substantially since the beginning of the 1980s, and are now at or above values from the decades preceding the 1940s, when fire suppression became national policy. These trends are occurring in concert with a regional rise in temperature and a long-term increase in annual precipitation. A close examination of the climate–fire relationship and other evidence suggests that forest fuels are no longer limiting fire occurrence and behavior across much of the study region. We conclude that current trends in forest fire severity necessitate a re-examination of the implications of all-out fire suppression and its ecological impacts.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่องานวิจัยล่าสุดได้สรุปว่าไฟป่าในป่าทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกาจะกลายเป็นขนาดใหญ่และบ่อยมากขึ้น คำถามที่สำคัญมากขึ้นอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศไม่ว่าจะเป็นของไฟป่ายังเพิ่มขึ้น เราแสดงให้เห็นว่าพื้นที่ขนาดใหญ่ (ประมาณ 120,000 กิโลเมตร 2) ของรัฐแคลิฟอร์เนียและเนวาดาตะวันตกประสบการณ์เพิ่มขึ้นโดดเด่นในขอบเขตของป่ายืนแทนที่ ("ความรุนแรงสูง") ไฟระหว่างปี 1984 และปี 2006 ความรุนแรงสูงไฟป่ามีการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการกระจายตัวของป่า ว่างอาศัยของสัตว์ป่าอัตราการกัดเซาะและการตกตะกอนโพสต์ไฟสรรหากล้ากักเก็บคาร์บอนและคุณสมบัติอื่น ๆ ของระบบนิเวศและกระบวนการ ค่าเฉลี่ยและขนาดไฟสูงสุดและพื้นที่ที่ถูกเผาเป็นประจำทุกปีนอกจากนี้ยังมีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นของปี 1980 และอยู่ในขณะนี้หรือค่าข้างต้นจากทศวรรษที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ปี 1940 เมื่อดับเพลิงกลายเป็นนโยบายระดับชาติ แนวโน้มเหล่านี้จะเกิดขึ้นในคอนเสิร์ตกับการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิในระดับภูมิภาคและเพิ่มขึ้นในระยะยาวประจำปีการเร่งรัด การตรวจสอบอย่างใกล้ชิดของความสัมพันธ์ของสภาพภูมิอากาศที่ไฟไหม้และหลักฐานอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าเชื้อเพลิงป่าจะไม่ จำกัด การเกิดไฟไหม้และพฤติกรรมข้ามจากภาคการศึกษา เราสรุปได้ว่าปัจจุบันแนวโน้มความรุนแรงไฟป่าเลี่ยงการสอบใหม่ของผลกระทบของการดับเพลิงทั้งหมดออกและผลกระทบของระบบนิเวศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานวิจัยล่าสุดโดย
สรุปได้ว่าป่าไม้ไฟป่าในสหรัฐอเมริกาจะกลายเป็นขนาดใหญ่และบ่อยมากขึ้น คำถามที่สำคัญมากขึ้นอาจจะว่า ระบบนิเวศ ผลกระทบจากไฟป่ายังเพิ่มขึ้นเราแสดงให้เห็นว่าพื้นที่ขนาดใหญ่ ( ประมาณ 120 , 000 กม. 2 ) ของแคลิฟอร์เนียและเนวาดาตะวันตกมีประสบการณ์เพิ่มขึ้นเด่นในขอบเขตของป่ายืนแทน ( " ความรุนแรง " ไฟสูง ) ระหว่างปี 1984 และปี 2006 ไฟป่า ระดับความรุนแรงจะถูกเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการกระจายตัวของป่า สัตว์ป่าและที่อยู่อาศัย อัตราการกัดเซาะและการโพสต์ไฟของการสรรหาบุคลากร การสะสมคาร์บอน ,คุณสมบัติอื่น ๆและระบบนิเวศ และกระบวนการต่าง ๆ หมายถึง ขนาดไฟสูงสุด และพื้นที่เผาเป็นรายปีได้ยังเพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่ปี 1980 และขณะนี้ขึ้นไปค่าจากทศวรรษที่ผ่านมาปี 1940 เมื่อดับเพลิงเป็นนโยบายแห่งชาติแนวโน้มเหล่านี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตกับระดับอุณหภูมิสูงขึ้นและการเพิ่มขึ้นในการ ระยะยาวรายปี การตรวจสอบอย่างใกล้ชิดของสภาพภูมิอากาศ–ไฟความสัมพันธ์และหลักฐานอื่นพบว่าไม่มีการ จำกัด การใช้ป่าและพฤติกรรมไฟข้ามมากของการศึกษาภาคเราสรุปได้ว่า แนวโน้มของความรุนแรงของไฟป่า necessitate จะตรวจสอบผลกระทบของดับเพลิงอย่างเต็มที่และนิเวศวิทยาผลกระทบ