Students then may use the O-NET tes

Students then may use the O-NET test score to apply to particulat university through the direct admission system by taking tests conducted by particular university. However, most students still use the centralized admission system. In this system, they are expected to take another two aptitude tests, aiming at testing their ability to succeed in university. The first one is General Aptitude Test (GAT). GAT tests the reasoning ability and English proficiency of the candidates. It asks students to link and identity relationships between events. The English section is comparable to the TOEFL test, but is completely objective in nature. Both O-NET and GAT examinations are scored by computer.

The second examination is the Professional Aptitude Test (PAT). Students may choose to take the tests that are required by the program they are applying to. Therefore, they don't have to take all tests like the O-NET. The subjects offered are as follow:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักเรียนแล้วอาจใช้คะแนนการทดสอบ O-NET ให้กับมหาวิทยาลัย particulat ผ่านระบบการรับสมัครโดยตรง ด้วยการทดสอบที่ดำเนิน โดยเฉพาะมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม นักเรียนส่วนใหญ่ยังคงใช้ระบบเข้าส่วนกลาง ในระบบนี้ พวกเขาจะต้องใช้เวลาอีกสองความสามารถทดสอบ มุ่งที่ทดสอบความสามารถในการประสบความสำเร็จในมหาวิทยาลัย อันแรกเป็นทั่วไปทดสอบความสามารถ (แกทพ้อยท์) แกทพ้อยท์ทดสอบความสามารถในการใช้เหตุผลและภาษาอังกฤษของผู้สมัคร ก็ถามนักเรียนเพื่อเชื่อมโยงและระบุความสัมพันธ์ระหว่างเหตุการณ์ ส่วนภาษาอังกฤษเทียบได้กับการทดสอบ TOEFL แต่มีวัตถุประสงค์ในธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ O – NET และการสอบแกทพ้อยท์คะแนน ด้วยคอมพิวเตอร์สอบที่สองเป็นแบบมืออาชีพความสามารถทดสอบ (PAT) นักเรียนอาจเลือกใช้การทดสอบที่ต้องการ โดยโปรแกรมที่กำลังใช้ ดังนั้น พวกเขาไม่มีการทดสอบทั้งหมดเช่น O-NET เรื่องที่นำเสนอมีดังต่อไปนี้:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากนั้นนักเรียนอาจจะใช้คะแนนสอบ O-NET เพื่อนำไปใช้ particulat มหาวิทยาลัยผ่านระบบการรับเข้าเรียนโดยตรงโดยการทดสอบที่ดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามนักเรียนส่วนใหญ่ยังคงใช้ระบบการรับเข้าส่วนกลาง ในระบบนี้พวกเขาคาดว่าจะใช้เวลาอีกสองการทดสอบความถนัดเป้าหมายในการทดสอบความสามารถของพวกเขาจะประสบความสำเร็จในมหาวิทยาลัย คนแรกคือทดสอบความถนัดทั่วไป (GAT) GAT ทดสอบความสามารถในการใช้เหตุผลและความรู้ภาษาอังกฤษของผู้สมัคร มันให้นักเรียนที่จะเชื่อมโยงและความสัมพันธ์ระหว่างตัวตนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนภาษาอังกฤษก็เปรียบได้กับการสอบ TOEFL แต่เป็นไปตามวัตถุประสงค์อย่างสมบูรณ์ในธรรมชาติ ทั้ง O-NET และการสอบ GAT มีคะแนนด้วยคอมพิวเตอร์. ตรวจสอบที่สองคือการทดสอบความถนัดวิชาชีพ (PAT) นักเรียนสามารถเลือกที่จะใช้การทดสอบที่จำเป็นโดยโปรแกรมที่พวกเขามีการนำไปใช้ ดังนั้นพวกเขาจะได้ไม่ต้องใช้การทดสอบทั้งหมดเช่น O-NET อาสาสมัครที่นำเสนอดังต่อไปนี้:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากนั้นนักศึกษาอาจจะใช้คะแนนสอบโอเน็ตไปใช้ particulat มหาวิทยาลัยผ่านระบบรับตรง โดยการใช้แบบทดสอบที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัยโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม นักเรียนส่วนใหญ่ยังคงใช้โดยเข้าระบบ ในระบบนี้ คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2 แบบทดสอบวัดความถนัดทางการเรียนที่มุ่งทดสอบความสามารถของพวกเขาที่จะประสบความสำเร็จในมหาวิทยาลัยแรกหนึ่งคือการทดสอบความถนัดทั่วไป ( GAT ) รับทดสอบการใช้เหตุผลและความสามารถในการเรียนภาษาอังกฤษของผู้สมัคร ก็ขอให้นักเรียนที่ลิงค์ เอกลักษณ์ และความสัมพันธ์ระหว่างเหตุการณ์ ส่วนภาษาอังกฤษก็เปรียบได้กับ TOEFL ทดสอบ แต่จะสมบูรณ์วัตถุประสงค์ในธรรมชาติ ทั้งโอเน็ต GAT และการสอบมีคะแนน

โดยคอมพิวเตอร์การสอบรอบสอง คือ แบบทดสอบวัดความถนัดทางวิชาชีพ ( PAT ) นักศึกษาอาจเลือกที่จะใช้แบบทดสอบที่ใช้โดยโปรแกรมที่พวกเขาจะใช้เพื่อ ดังนั้น จึงไม่ต้องใช้เวลาทดสอบเหมือนโอเน็ต . วิชาที่เสนอมีดังนี้