2.2 Social Networking Websites and

2.2 Social Networking Websites and Health
Every human being fear is having health problems. Once someone has health issues, his or her life will be
affected. Therefore, people need to be careful and cherish their good health. Nowadays, a health issue, not only
comes from the so called environment of the person, but also within the web 2.0 environment. In the previous
years the main discussion issue was the addiction to television, today’s issues deal with internet addiction and the
increased amount of time young people and adults spend on searching the internet.
© Center for Promoting Ideas, USA www.ijbssnet.com
136
Internet use plays in the lives of today’s young adults, understanding possible health implications is of clinical
importance. In particular, problematic internet use (PIU) is a new and growing health concern for adolescents and
young adults. PIU lacks a standardized definition, but it has also been referred to as internet addiction (Christakis
& Moreno, 2009; Dell’Osso, Altamura, Allen, Marazziti, &Hollander, 2006).
Young adults also may be the population most at risk for the development of PIU. Because adolescents and young
adults have the highest rates of internet use and frequency (Lenhart et al., 2005; Shiffman, 2009; Tokunaga,
2010). A researcher named Dr Sam Thomas, 2011 wrote an article called addiction in Internet chatting: An
empirical study using the modified Technology Acceptance Model. His paper revealed that excessive time on
social network sites may lead to internet addiction. Students around the world spend a lot of time on social
network sites which this leads to major consequences. Excessive time spent in this manner could lead to the
problematic behaviour known as Internet addiction. Internet addiction is viewed as a psychological dependence
on or a behavioural addiction to the Internet resulting in excessive usage (Kandell, 1998; Griffiths, 2000).
In addition, many researchers have argued that the attractiveness of the Internet could lead to excessive use. Past
research has described this phenomenon as Internet addiction (Griffiths, 2000; Soule et al., 2003; Widyanto and
Griffiths, 2006). On the other hand, Young (1998) argued that the Internet itself is not addictive, but highly
interactive applications like online chatting can be addictive. Moreover, Balakrishnan and Shamim (2013) wrote
an article called Malaysian Facebookers: Motives and addictive behaviours unraveled.
In this research, Malaysians were reported to have the most number of Facebook friends, spend more time on
Facebook and might be addicted to Facebook as well. Enthusiasm for Facebook is particularly apparent in
Malaysia, as Malaysians are known to have the most number of friends on Facebook (The Star, 2010).
Even though Facebook is used to connect with people and improve the social life of students, it was also noticed
that excessive of Facebook usage bring bad consequences. As a matter of fact, the term Facebook Addiction
Disorder (FAD) was coined to refer to the negative consequences of excessive use of Facebook (Fenichel, 2009).
The researchers revealed students exhibit some addictive symptoms, namely, Salience (both cognitive and
behavioural), Loss of Control, Withdrawal and Relapse and Reinstatement. These symptoms matched some of the
addictive components of the Brown’s Addiction Behaviour Framework. The findings are similar to other studies
that have revealed addictive behaviour in using mobile phones (Balakrishnan & Raj, 2012; Walsh et al., 2010),
online games (Charlton & Danforth, 2007) and the Internet (Charlton, 2002).
As a result, the study identified the addictive symptoms by using Facebook among the students; therefore, social
networking sites affect health of the users. Furthermore, Mekinc, Smailbegović, Kokić in 2013, wrote an article
named should we be considered about children use of the internet? Due to the researchers made by Young, as a
result, she found internet overuse can bring health problems known as a mental disorder which she named
Pathological Internet Use – PIU (Young, 1998). The American Psychological Association classified the overuse
of the internet services as an addiction. Now we can include the PIU in the group of addictions together with drug
and alcohol addictions, addiction to video games, gambling and some of the eating disorders (Bonacic, 2010).
As a result Mekinc, Smailbegovic, Kokic in 2013 found out the increased use of the internet, Facebook profiles,
publication of personal data are expression of signs of internet addiction among scholars in the upper grades.
According to the results of this study, using Facebook increases the likelihood of addiction to the internet. While
establishing new friendships and socializing, children through the Internet can satisfy their need for contact, for
belonging, however, the excessive use of social networks brings the risk of developing an internet addiction.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2.2 เว็บไซต์เครือข่ายสังคมและสุขภาพทุกความกลัวของมนุษย์มีปัญหาสุขภาพ เมื่อคนมีปัญหาสุขภาพ ชีวิตของเขา หรือเธอจะมีผลกระทบ ดังนั้น คนต้องหวงแหนสุขภาพดี และระมัดระวัง ในปัจจุบัน ปัญหาสุขภาพ ไม่เพียงแต่มาจากสภาพแวดล้อมที่เรียกว่า ของบุคคล แต่ยังอยู่ ในสภาพแวดล้อมเว็บ 2.0 ในการก่อนหน้านี้ปีปัญหาสนทนาหลักคือ ติดยาเสพติดไปยังโทรทัศน์ ปัญหาวันนี้จัดการกับยาเสพติดอินเทอร์เน็ตและเพิ่มจำนวนครั้งคนหนุ่มสาวและผู้ใหญ่ใช้ในการค้นหาในอินเทอร์เน็ต© ศูนย์ส่งเสริมความคิด สหรัฐอเมริกา www.ijbssnet.com136ใช้อินเทอร์เน็ตที่เล่นในชีวิตของคนหนุ่มสาวในปัจจุบัน เข้าใจผลกระทบต่อสุขภาพได้เป็นของทางคลินิกความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีปัญหาการใช้งานอินเทอร์เน็ต (piu ดนตรี) เป็นปัญหาใหม่ และเติบโตด้านสุขภาพสำหรับวัยรุ่น และคนหนุ่มสาว Piu ดนตรีขาดคำนิยามมาตรฐาน แต่มันได้ถูกเรียกว่ายาเสพติดอินเทอร์เน็ต (Christakisและโมเรโน่ 2009 Dell'Osso, Altamura อัลเลน Marazziti และ ดัตช์ 2006)หนุ่มสาวผู้ใหญ่ยังอาจมีประชากรเสี่ยงสูงสุดสำหรับการพัฒนาของ piu ดนตรี เนื่องจากวัยรุ่นและหนุ่มสาวผู้ใหญ่มีอัตราสูงสุดของการใช้อินเทอร์เน็ตและความถี่ (Lenhart et al. 2005 Shiffman, 2009 Tokunaga2010) . นักวิจัยชื่อ Sam ดรโทมัส 2011 เขียนบทความเรียกว่าติดยาเสพติดในเน็ตพูดคุย: การการศึกษาเชิงประจักษ์โดยใช้แบบจำลองการยอมรับเทคโนโลยีแก้ไข กระดาษของเขาเปิดเผยว่า เวลามากเกินไปในเว็บไซต์เครือข่ายสังคมอาจทำให้ติดยาเสพติดอินเทอร์เน็ต นักเรียนทั่วโลกใช้จ่ายมากเวลาในสังคมเว็บไซต์เครือข่ายที่นี้นำไปสู่ผลกระทบที่สำคัญ มากเกินไปเวลาที่ใช้ในลักษณะนี้อาจนำไปสู่การปัญหาพฤติกรรมที่เรียกว่าอินเทอร์เน็ตยาเสพติด ติดยาเสพติดอินเทอร์เน็ตถูกมองว่าการพึ่งพาทางจิตใจบน หรือติดยาเสพติดพฤติกรรมการอินเทอร์เน็ตในการใช้งานมากเกินไป (Kandell, 1998 Griffiths, 2000)นอกจากนี้ นักวิจัยหลายคนได้โต้เถียงว่า ความน่าสนใจของอินเทอร์เน็ตอาจนำไปสู่การใช้มากเกินไป อดีตที่ผ่านมาวิจัยได้อธิบายปรากฏการณ์นี้ว่าอินเทอร์เน็ตติดยาเสพติด (Griffiths, 2000 ซูล et al. 2003 Widyanto และGriffiths, 2006) บนมืออื่น ๆ หนุ่ม (1998) โต้เถียงว่า อินเทอร์เน็ตไม่เสพติด แต่สูงใช้งานแบบโต้ตอบเช่นการสนทนาออนไลน์สามารถเสพติด นอกจากนี้ คอร์นิและของ Shamim (2013) เขียนบทความที่เรียกว่า Facebookers มาเลเซีย: แรงจูงใจและพฤติกรรมเสพติดหลุดในการวิจัยครั้งนี้ มาเลเซียได้มีการรายงานมีจำนวนมากที่สุดเพื่อน Facebook ใช้เวลาในการFacebook และอาจติด Facebook เช่นกัน ความกระตือรือร้นสำหรับ Facebook ได้ชัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในมาเลเซีย เป็นชาวมาเลเซียทราบว่ามีของเพื่อนใน Facebook (เดอะดาว 2010)แม้ว่า Facebook จะใช้ในการเชื่อมต่อกับบุคคล และปรับปรุงชีวิตทางสังคมของนักเรียน นอกจากนี้ยังมีสังเกตที่มากเกินไปของ Facebook ใช้นำผลกระทบที่ไม่ดี เป็นเรื่องของความเป็นจริง คำว่าติดยาเสพติด Facebookความผิดปกติ (แฟชั่น) ถูกคิดขึ้นเพื่ออ้างอิงถึงผลกระทบเชิงลบของการใช้ Facebook (Fenichel, 2009) มากเกินไปนักวิจัยเผยนักแสดงอาการเสพติดบางอย่าง คือ เสื่อมศีลธรรมต่อกัน (ทั้งสององค์ความรู้ และพฤติกรรม), สูญเสียการควบคุม ถอน และกำเริบ และกรมธรรม์ อาการเหล่านี้ตรงกับบางเสพติดคอมโพเนนต์ของกรอบพฤติกรรมการติดยาเสพติดของน้ำตาล ผลการวิจัยจะคล้ายกับการศึกษาอื่น ๆที่ได้เปิดเผยพฤติกรรมเสพติดในการใช้โทรศัพท์มือถือ (คอร์นิ & ราช 2012 วอลช์ et al. 2010),เกมออนไลน์ (ชาร์ลตันและ Danforth, 2007) และอินเทอร์เน็ต (ชาร์ลตัน 2002)เป็นผล การศึกษาระบุอาการเสพติด โดยใช้ Facebook นักเรียน ดังนั้น สังคมเว็บไซต์เครือข่ายส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ใช้ นอกจากนี้ Mekinc, Smailbegović, Kokić ใน 2013 เขียนบทความชื่อเราควรเกี่ยวกับเด็กใช้อินเทอร์เน็ตหรือไม่ เนื่องจากนักวิจัยที่ทำ โดยหนุ่ม เป็นการผลการค้นหา เธอพบอินเทอร์เน็ตมากเกินไปสามารถนำปัญหาสุขภาพที่เรียกว่าความผิดปกติทางจิตซึ่งเธอมีชื่อว่าใช้อินเทอร์เน็ตทางพยาธิวิทยา – PIU (หนุ่ม 1998) สมาคมจิตวิทยาอเมริกันประเภทใช้มากเกินไปบริการอินเทอร์เน็ตเป็นการติดยาเสพติด ตอนนี้ เราสามารถรวม piu ดนตรีที่ในกลุ่มของเสพติดร่วมกับยาเสพติดและเสพติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาเสพติดวิดีโอเกม การพนัน และของกินที่ผิดปกติ (Bonacic, 2010)ดังนั้น Mekinc, Smailbegovic, Kokic ใน 2013 พบใช้เพิ่มขึ้นของอินเตอร์เน็ต Facebook โปรไฟล์การเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลจะแสดงสัญญาณของการติดยาเสพติดอินเทอร์เน็ตในหมู่นักวิชาการในระดับบนตามผลของการศึกษานี้ ใช้ Facebook เพิ่มโอกาสในการติดยาเสพติดอินเทอร์เน็ต ในขณะที่สร้างมิตรภาพใหม่ และสังสรรค์ เด็กผ่านอินเทอร์เน็ตสามารถตอบสนองความต้องการติดต่อ สำหรับเป็นของ อย่างไรก็ตาม ใช้มากเกินไปของเครือข่ายสังคมนำความเสี่ยงของการติดยาเสพติดอินเทอร์เน็ตมีการพัฒนา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2.2 เว็บไซต์เครือข่ายสังคมและสุขภาพของ
ทุกคนความกลัวของมนุษย์ที่มีปัญหาสุขภาพ เมื่อมีคนที่มีปัญหาสุขภาพของเขาหรือชีวิตของเธอจะ
ได้รับผลกระทบ ดังนั้นคนที่จะต้องระมัดระวังและหวงแหนสุขภาพที่ดีของพวกเขา ปัจจุบันปัญหาสุขภาพไม่เพียง แต่
มาจากสภาพแวดล้อมที่เรียกว่าของบุคคล แต่ยังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เว็บ 2.0 ในก่อนหน้านี้
ปีที่ผ่านมาปัญหาการอภิปรายหลักคือติดยาเสพติดไปยังโทรทัศน์, ปัญหาในวันนี้คือการจัดการกับการเสพติดอินเทอร์เน็ตและ
จำนวนที่เพิ่มขึ้นของเวลาที่คนหนุ่มสาวและผู้ใหญ่ใช้จ่ายในการค้นหาทางอินเทอร์เน็ต.
©ศูนย์ส่งเสริมไอเดีย, สหรัฐอเมริกา www.ijbssnet.com
136
อินเทอร์เน็ต ใช้บทละครในชีวิตของคนหนุ่มสาวในวันนี้ความเข้าใจผลกระทบด้านสุขภาพที่เป็นไปได้ของคลินิก
ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มีปัญหา (PIU) เป็นความกังวลใหม่และสุขภาพที่เพิ่มขึ้นสำหรับวัยรุ่นและ
ผู้ใหญ่วัยหนุ่มสาว PIU ขาดความคมชัดมาตรฐาน แต่ก็ยังได้รับการเรียกว่าติดยาเสพติดอินเทอร์เน็ต (Christakis
& Moreno 2009; Dell'Osso, Altamura, อัลเลน Marazziti และดัตช์, 2006).
ผู้ใหญ่หนุ่มสาวก็อาจจะเป็นประชากรที่มีความเสี่ยงมากที่สุดสำหรับ พัฒนา PIU เพราะวัยรุ่นและหนุ่มสาว
ผู้ใหญ่มีอัตราสูงสุดของการใช้งานอินเทอร์เน็ตและความถี่ (Lenhart et al, 2005;. Shiffman 2009; Tokunaga,
2010) นักวิจัยชื่อดรแซมโทมัส 2011 เขียนบทความเรียกว่าติดยาเสพติดใน Internet สนทนา: การ
ศึกษาเชิงประจักษ์โดยใช้การปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีการยอมรับรุ่น กระดาษของเขาเปิดเผยว่าเวลามากเกินไปใน
เว็บไซต์เครือข่ายสังคมอาจนำไปสู่การติดยาเสพติดอินเทอร์เน็ต นักเรียนทั่วโลกใช้เวลามากในสังคม
เว็บไซต์เครือข่ายซึ่งจะนำไปสู่ผลกระทบที่สำคัญ เวลามากเกินไปใช้เวลาในลักษณะนี้อาจนำไปสู่
​​พฤติกรรมที่เป็นปัญหาที่รู้จักกันเป็นติดยาเสพติดอินเทอร์เน็ต ติดยาเสพติดอินเทอร์เน็ตถูกมองว่าเป็นพึ่งพาทางด้านจิตใจ
หรือพฤติกรรมติดยาเสพติดไปยังอินเทอร์เน็ตที่เกิดขึ้นในการใช้งานที่มากเกินไป (Kandell 1998; Griffiths, 2000).
นอกจากนี้นักวิจัยหลายคนแย้งว่าน่าดึงดูดใจของอินเทอร์เน็ตอาจนำไปสู่การใช้งานที่มากเกินไป ที่ผ่านมา
การวิจัยได้อธิบายปรากฏการณ์นี้เป็นยาเสพติดอินเทอร์เน็ต (Griffiths 2000; Soule et al, 2003;. Widyanto และ
Griffiths, 2006) ในทางตรงกันข้ามหนุ่ม (1998) เป็นที่ถกเถียงกันว่าอินเทอร์เน็ตตัวเองไม่ได้เสพติด แต่อย่างสูงที่
ใช้งานแบบโต้ตอบเช่นการสนทนาออนไลน์สามารถเสพติด นอกจากนี้บาลาคและ Shamim (2013) เขียน
บทความที่เรียกว่ามาเลเซีย Facebookers:. แรงจูงใจและพฤติกรรมเสพติดหลุด
ในงานวิจัยนี้มาเลเซียได้รับรายงานว่าจะมีจำนวนมากที่สุดของเพื่อน Facebook, ใช้เวลามากขึ้นใน
Facebook และอาจจะมีการติดยาเสพติดไปที่ Facebook เช่นกัน . ความกระตือรือร้นใน Facebook เป็นที่เห็นได้ชัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน
ประเทศมาเลเซียเป็นชาวมาเลเซียเป็นที่รู้จักกันจะมีจำนวนมากที่สุดของเพื่อนบน Facebook (เดอะสตาร์, 2010).
แม้ว่า Facebook จะใช้ในการเชื่อมต่อกับผู้คนและปรับปรุงชีวิตทางสังคมของนักเรียนมันก็สังเกตเห็น
ที่มากเกินไปของการใช้งาน Facebook นำผลกระทบที่ไม่ดี เป็นเรื่องของความเป็นจริงคำว่า Facebook Addiction
Disorder (FAD) ได้รับการประกาศเกียรติคุณในการอ้างถึงผลกระทบเชิงลบของการใช้งานที่มากเกินไปของ Facebook (Fenichel 2009).
นักวิจัยพบนักเรียนมีอาการเสพติดบางส่วนคือนูน (ทั้งองค์ความรู้และ
พฤติกรรม ) การสูญเสียการควบคุมการถอนและการกำเริบของโรคและการคืน อาการเหล่านี้ที่ตรงกับบางส่วนของ
ส่วนประกอบเสพติดของบราวน์กรอบติดยาเสพติดพฤติกรรม การค้นพบที่มีความคล้ายคลึงกับการศึกษาอื่น ๆ
ที่มีการเปิดเผยพฤติกรรมการเสพติดในการใช้โทรศัพท์มือถือ (บาลาคและการปกครอง 2012;. วอลช์, et al, 2010),
เกมออนไลน์ (ชาร์ลตันและ Danforth, 2007) และทางอินเทอร์เน็ต (ชาร์ลตัน, 2002).
ในฐานะที่เป็น ผลการศึกษาระบุอาการเสพติดโดยใช้ Facebook ในหมู่นักศึกษา; ดังนั้นสังคม
เว็บไซต์เครือข่ายส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ใช้ นอกจากนี้ Mekinc, Smailbegović, Kokic ในปี 2013 เขียนบทความ
ชื่อที่เราควรจะได้รับการพิจารณาเกี่ยวกับเด็กที่ใช้อินเทอร์เน็ต? เนื่องจากนักวิจัยที่ทำโดยหนุ่มเป็น
ผลให้เธอพบว่ามากเกินไป Internet สามารถนำปัญหาสุขภาพที่รู้จักกันเป็นโรคทางจิตซึ่งเธอชื่อ
พยาธิสภาพการใช้อินเทอร์เน็ต - PIU (หนุ่ม 1998) สมาคมจิตวิทยาอเมริกันจัดมากเกินไป
ของบริการอินเทอร์เน็ตในฐานะผู้ติดยาเสพติด ตอนนี้เราสามารถรวม PIU ในกลุ่มของการเสพติดร่วมกับยาเสพติด
และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์การเสพติดยาเสพติดวิดีโอเกม, เล่นการพนันและบางส่วนของความผิดปกติของการรับประทานอาหาร (Bonacic 2010).
ในฐานะที่เป็นผล Mekinc, Smailbegovic, Kokic ในปี 2013 พบว่าเพิ่มขึ้น การใช้อินเทอร์เน็ตโปรไฟล์ Facebook,
สิ่งพิมพ์ของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นแสดงออกของสัญญาณของการติดยาเสพติดอินเทอร์เน็ตในหมู่นักวิชาการในระดับที่สูงขึ้น.
ตามผลของการศึกษาครั้งนี้ใช้ Facebook เพิ่มโอกาสในการติดยาเสพติดไปยังอินเทอร์เน็ต ในขณะที่
การสร้างมิตรภาพใหม่และการพบปะเด็กผ่านทางอินเทอร์เน็ตสามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาสำหรับการติดต่อสำหรับ
ที่อยู่ แต่การใช้งานที่มากเกินไปของเครือข่ายทางสังคมที่จะนำความเสี่ยงของการติดยาเสพติดอินเทอร์เน็ต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2.2 เว็บไซต์เครือข่ายสังคม และสุขภาพมนุษย์ทุกคนกลัว มีปัญหาสุขภาพ ถ้าใครมีปัญหาสุขภาพ ของเขาหรือเธอ ชีวิต จะที่ได้รับผลกระทบ ดังนั้น ประชาชนต้องใช้ความระมัดระวัง และถนอมสุขภาพที่ดีของพวกเขา ทุกวันนี้ ปัญหาสุขภาพ ไม่ใช่เพียงมาจากเรียกว่าสภาพแวดล้อมของคน แต่ยังอยู่ในเว็บ 2.0 สภาพแวดล้อม ในก่อนหน้านี้ปี การอภิปรายปัญหาหลักคือการติดโทรทัศน์ วันนี้ปัญหาที่จัดการกับการเสพติดอินเทอร์เน็ตและเพิ่มปริมาณของเวลาที่คนหนุ่มสาวและผู้ใหญ่ใช้เวลาในการค้นหาอินเทอร์เน็ตสงวนลิขสิทธิ์สำหรับศูนย์การส่งเสริมความคิด www.ijbssnet.com , สหรัฐอเมริกา136การใช้อินเทอร์เน็ตการเล่นในชีวิตของหนุ่มสาววันนี้ความเข้าใจความหมายของคลินิกสุขภาพที่เป็นไปได้คือที่สําคัญ โดยเฉพาะการใช้อินเตอร์เน็ตที่มีปัญหา ( เพิ่มเติม ) ใหม่ และเติบโตกังวลสุขภาพสำหรับวัยรุ่นและผู้ใหญ่หนุ่มสาว เพิ่มเติมไม่มีนิยามมาตรฐาน แต่มันยังถูกเรียกว่าโรคติดอินเทอร์เน็ต ( christakis& Moreno , 2009 ; dell"osso Altamura , marazziti , Allen & ชาวฮอลันดา , 2006 )ผู้ใหญ่ยังอาจเป็นประชากรที่เสี่ยงมากที่สุดสำหรับการพัฒนาเพิ่มเติม . เพราะวัยรุ่นและหนุ่มสาวผู้ใหญ่มีอัตราสูงสุดของการใช้อินเทอร์เน็ตและความถี่ ( lenhart et al . , 2005 ; shiffman โทคุนางะ , , 20092010 ) นักวิจัยชื่อ ดร. แซม โทมัส , 2011 เขียนบทความที่เรียกว่าการติดอินเทอร์เน็ตสนทนา :การศึกษาเชิงประจักษ์โดยใช้เทคโนโลยีการแก้ไขแบบ เขาพบว่าเวลาบนกระดาษมากเกินไปเว็บไซต์เครือข่ายสังคมอาจนำไปสู่การติดอินเทอร์เน็ต นักเรียนทั่วโลกใช้เวลามากในสังคมเครือข่ายเว็บไซต์ซึ่งก่อให้เกิดผลที่สำคัญ ใช้เวลามากเกินไปในลักษณะนี้อาจนำไปสู่พฤติกรรมปัญหาที่เรียกว่าการติดอินเทอร์เน็ต ติดยาเสพติดอินเทอร์เน็ตถูกมองว่าเป็นการพึ่งพาทางจิตใจหรือพฤติกรรมการเสพติดอินเทอร์เน็ตส่งผลให้การใช้งานมากเกินไป ( kandell , 1998 ; Griffiths , 2000 )นอกจากนี้ นักวิจัยหลายคนแย้งว่า ความน่าสนใจของอินเทอร์เน็ตสามารถนําไปใช้มากเกินไป ที่ผ่านมาการวิจัยได้อธิบายปรากฏการณ์นี้เป็นติดอินเทอร์เน็ต ( Griffiths , 2000 ; Soule et al . , 2003 ; widyanto และกริฟฟิธส์ , 2006 ) บนมืออื่น ๆ , หนุ่ม ( 1998 ) แย้งว่าอินเทอร์เน็ตตัวเองไม่เสพติด แต่สูงโปรแกรมประยุกต์แบบโต้ตอบเช่นการสนทนาออนไลน์สามารถเสพติด นอกจากนี้ Balakrishnan shamim ( 2013 ) เขียนและบทความเรื่อง facebookers มาเลเซีย : แรงจูงใจและพฤติกรรมเสพติดใช้ได้ .ในการวิจัยนี้ มาเลเซียมีรายงานว่ามีจำนวนมากที่สุดของ Facebook เพื่อน ใช้เวลามากขึ้นFacebook และอาจจะติด Facebook ได้เป็นอย่างดี ความกระตือรือร้นสำหรับ Facebook เป็นที่เห็นได้ชัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในมาเลเซีย เป็นชาวมาเลเซีย ทราบว่ามีมากที่สุดจำนวนเพื่อนใน Facebook ( ดาว ปี 2553 )แม้ว่า Facebook จะใช้ในการเชื่อมต่อกับผู้คนและการปรับปรุงชีวิตทางสังคมของนักเรียน นอกจากนี้ยังสังเกตเห็นที่มากเกินไปของการใช้ Facebook นำไม่ดี ที่จริงแล้ว คำว่า Facebook ติดยาเสพติดโรค ( แฟชั่น ) ได้รับการประกาศเกียรติคุณในการอ้างถึงผลกระทบเชิงลบของการใช้มากเกินไปของ Facebook ( fenichel , 2009 )นักวิจัยพบนักเรียนแสดงอาการ บางคนเสพติดใด ( ทั้งทางความคิด และคือ2 ) การขาดการควบคุม และการถอนเงิน และกำเริบเป็นโมฆะ อาการเหล่านี้จับคู่บางส่วนขององค์ประกอบของพฤติกรรมการเสพติดของน้ำตาลกรอบ ผลมีลักษณะคล้ายคลึงกับการศึกษาอื่น ๆที่ได้เปิดเผยพฤติกรรมการเสพติดการใช้โทรศัพท์มือถือ ( Balakrishnan & ราจ , 2012 ; วอลซ์ et al . , 2010 )เกมออนไลน์ ( ชาร์ลตัน & แดน 2007 ) และอินเทอร์เน็ต ( ชาร์ลตัน , 2002 )ผลการศึกษาระบุอาการเสพติดโดยใช้ Facebook ในหมู่นักเรียน ดังนั้น สังคมเครือข่ายเว็บไซต์มีผลต่อสุขภาพของผู้ใช้ นอกจากนี้ mekinc smailbegovi ćć , โคคิใน 2013 , เขียนบทความชื่อเราควรจะพิจารณาเกี่ยวกับเด็กใช้อินเทอร์เน็ต ? เนื่องจากนักวิจัยที่ทำโดยเด็กเป็นผล เธอพบใช้อินเทอร์เน็ตสามารถนำปัญหาสุขภาพที่รู้จักกันเป็น ความผิดปกติทางจิต ซึ่งเธอที่ชื่อทางอินเทอร์เน็ตใช้เพิ่มเติม ( เด็ก ) , 1998 ) สมาคมจิตวิทยาอเมริกันจัดมากเกินไปของอินเทอร์เน็ตบริการการติด ตอนนี้เราสามารถรวมเพิ่มเติมในกลุ่มของยาเสพติดร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการเสพติด , การติดเกม การพนันและบางส่วนของการรับประทานอาหารผิดปกติ ( bonacic , 2010 )ผล mekinc smailbegovic kokic , , ในงานพบการใช้ที่เพิ่มขึ้นของอินเทอร์เน็ต , Facebook โปรไฟล์สิ่งพิมพ์ของข้อมูลส่วนบุคคลจะแสดงสัญญาณของการเสพติดอินเทอร์เน็ตในหมู่นักวิชาการในระดับบนตามผลการศึกษาที่ใช้ Facebook เพิ่มโอกาสของการติดอินเทอร์เน็ต ในขณะที่สร้างเพื่อนใหม่ และสังคม เด็ก ผ่านทางอินเทอร์เน็ต สามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาสำหรับที่ติดต่อสำหรับของ อย่างไรก็ตาม การใช้มากเกินไปของเครือข่ายทางสังคมทำให้ความเสี่ยงของการเสพติดอินเทอร์เน็ต