Surface and interfacial tension mea

Surface and interfacial tension measurements
Surface tension values of the aqueous phase of an emulsion are indicatory data of the emulsion stability with time. Table 1 shows the corresponding values for each emulsion of the study. An alcoholic solution with 12% or 13% (v/v) ethanol has surface tension values γ = 49.5 mN/m and 48.1 mN/m, respectively [10] and [11]. In Table 1 it is shown that the surface tension values for 100% (v/v) wine with alcoholic grade around 12.5%, which is the average alcoholic grade of the two wines used in this study, are considerably lower than the above reference values. Even more surprising is the fact that the red wine exhibits higher surface tension than the white one (45.9 mN/m and 42.0 mN/m, respectively), although the former – being a red wine – has more phenolic compounds, proteins, etc. that could lower more its surface tension [11], [12], [13], [14], [15], [16] and [17]. This finding can be attributed to the fact that the white wine used in this study is produced from a Muscat grape variety which is known for its high content in aromatic compounds. In any case, even with small percentages of wine – whether red or white – in the aqueous phase, e.g. 5% (v/v), the decrease of the surface tension value compared to that of water is significant.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัดความตึงผิว และ interfacialค่าแรงตึงผิวของเฟสอควีของอิมัลชันมีเสถียรภาพของอิมัลชันด้วยเวลา indicatory ข้อมูลได้ ตารางที่ 1 แสดงค่าเกี่ยวข้องสำหรับแต่ละอิมัลชันของการศึกษา ในโซลูชันที่มีแอลกอฮอล์ 12% หรือเอทานอล 13% (v/v) มีแรงตึงผิวค่าγ = 49.5 mN/m และ 48.1 mN/m ตามลำดับ [10] [11] และ ในตารางที่ 1 ดังกล่าวจะแสดงค่าแรงตึงผิว 100% (v/v) ไวน์ มีแอลกอฮอล์เกรดประมาณ 12.5% ซึ่งเป็นเกรดเฉลี่ยแอลกอฮอล์ไวน์สองที่ใช้ในการศึกษานี้ มากน้อยกว่าค่าอ้างอิงข้างต้น น่าแปลกใจมากคือความจริงที่ไวน์แดงจัดแสดงแรงตึงผิวสูงกว่าหนึ่งสีขาว (45.9 mN/m และ 42.0 mN/m ตามลำดับ), แม้ ว่าอดีต –เป็นไวน์แดง – มีมากกว่าม่อฮ่อม โปรตีน ฯลฯ ที่สามารถลดการเพิ่มของแรงตึงผิว [11], [12], [13], [14], [15], [16] [17] และ ค้นหานี้สามารถเกิดจากความจริงที่ว่า ไวน์ขาวที่ใช้ในการศึกษานี้จะผลิตจากองุ่นมัสกัตซึ่งเนื้อหาสูงในสารหอม แม้จะ มีเปอร์เซ็นต์น้อยไวน์ – สีแดง หรือสี ขาว – ในระยะอควี เช่น 5% (v/v), ลดค่าแรงตึงผิวที่เปรียบเทียบกับน้ำได้อย่างมีนัยสำคัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พื้นผิวและการวัดความตึงเครียดสัมผัส
พื้นผิวค่าความตึงของเฟสน้ำของอิมัลชันมีข้อมูล indicatory อิมัลชันของความมั่นคงที่มีเวลา ตารางที่ 1 แสดงค่าที่สอดคล้องกันสำหรับอิมัลชันของการศึกษาในแต่ละ วิธีการแก้ปัญหาที่มีแอลกอฮอล์ 12% หรือ 13% (v / v) เอทานอลมีค่าความตึงผิวγ = 49.5 mN / m และ 48.1 mN / m ตามลำดับ [10] และ [11] ในตารางที่ 1 มันจะแสดงให้เห็นว่าแรงตึงผิวค่า 100% (v / v) ไวน์ที่มีแอลกอฮอล์รอบเกรด 12.5% ​​ซึ่งเป็นระดับที่มีแอลกอฮอล์เฉลี่ยของทั้งสองไวน์ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้มีมากต่ำกว่าค่าอ้างอิงข้างต้น . ยิ่งน่าแปลกใจคือความจริงที่การจัดแสดงนิทรรศการไวน์แดงแรงตึงผิวสูงกว่าสีขาว (45.9 mN / m และ 42.0 mN / m ตามลำดับ) แม้ว่าอดีต - เป็นไวน์แดง - มีสารประกอบฟีนอลมากขึ้นโปรตีน ฯลฯ ที่สามารถลดแรงตึงผิวมากขึ้น [11] [12] [13] [14] [15] [16] และ [17] การค้นพบนี้สามารถนำมาประกอบกับความจริงที่ว่าไวน์ขาวที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ผลิตจากองุ่นพันธุ์มัสกัตซึ่งเป็นที่รู้จักสำหรับเนื้อหาที่สูงในสารประกอบอะโรมาติก ในกรณีใด ๆ แม้จะมีเปอร์เซ็นต์เล็ก ๆ ของไวน์ - ไม่ว่าจะเป็นสีแดงหรือสีขาว - ในเฟสน้ำเช่น 5% (v / v) ลดลงของมูลค่าแรงตึงผิวเมื่อเทียบกับน้ำที่มีความสำคัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พื้นผิวและความตึงเครียดระหว่างการวัด
แรงตึงผิวค่าเฟสสารละลายของอิมัลชันที่มีเสถียรภาพของข้อมูล indicatory อิมัลชันด้วยเวลา ตารางที่ 1 แสดงค่าที่สอดคล้องกันของแต่ละชนิดของการศึกษา โซลูชั่นที่มีร้อยละ 12 หรือ 13 เปอร์เซ็นต์ ( v / v ) เอทานอลมีแรงตึงผิวค่าγ = 49.5 MN / m และ 48.1 MN / m ) [ 10 ] และ [ 11 ]ตารางที่ 1 พบว่าค่าแรงตึงผิวสำหรับ 100 เปอร์เซ็นต์ ( v / v ) กับไวน์ระดับแอลกอฮอล์ประมาณ 12.5% ซึ่งเป็นระดับแอลกอฮอล์เฉลี่ยสองไวน์ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ ต่ำกว่าค่าอ้างอิงข้างต้น ก็น่าแปลกใจคือความจริงที่ว่าไวน์แดงแสดงถึงความตึงผิวสูงกว่าสีขาว ( 45.9 MN / m และ 42.0 MN / m ตามลำดับ )แม้ว่าอดีต–เป็น–ไวน์แดงมีฟีนมากขึ้นสารโปรตีน ฯลฯ ที่สามารถลดลงของแรงตึงผิว [ 11 ] [ 12 ] [ 13 ] [ 14 ] [ 15 ] [ 16 ] และ [ 17 ] การค้นหานี้สามารถนำมาประกอบกับความจริงที่ว่าไวน์ขาวที่ใช้ในการศึกษา คือ ผลิตจากองุ่นพันธุ์องุ่นชนิดหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักสำหรับเนื้อหาสูงในสารประกอบอะโรมาติก ในกรณีใด ๆแม้จะมีเปอร์เซ็นต์เล็ก ๆของไวน์–ไม่ว่าแดง หรือ ขาว ( ในเฟสน้ำ เช่น 5% ( v / v ) , การลดลงของแรงตึงผิวค่าเมื่อเทียบกับที่ของน้ำเป็นสำคัญ