3.1. Detecting Support of NAT-Trave

3.1. Detecting Support of NAT-Traversal

The NAT-Traversal capability of the remote host is determined by an
exchange of vendor ID payloads. In the first two messages of Phase
1, the vendor id payload for this specification MUST be sent if
supported (and it MUST be received by both sides) for the NAT-
Traversal probe to continue. The content of the payload is the MD5
hash of

RFC 3947

The exact content in hex for the payload is

3.2. Detecting the Presence of NAT

The NAT-D payload not only detects the presence of NAT between the
two IKE peers, but also detects where the NAT is. The location of
the NAT device is important, as the keepalives have to initiate from
the peer "behind" the NAT.

To detect NAT between the two hosts, we have to detect whether the IP
address or the port changes along the path. This is done by sending
the hashes of the IP addresses and ports of both IKE peers from each
end to the other. If both ends calculate those hashes and get same
result, they know there is no NAT between. If the hashes do not
match, somebody has translated the address or port. This means that
we have to do NAT-Traversal to get IPsec packets through.

If the sender of the packet does not know his own IP address (in case
of multiple interfaces, and the implementation does not know which IP
address is used to route the packet out), the sender can include
multiple local hashes to the packet (as separate NAT-D payloads). In
this case, NAT is detected if and only if none of the hashes match.

The hashes are sent as a series of NAT-D (NAT discovery) payloads.
Each payload contains one hash, so in case of multiple hashes,
multiple NAT-D payloads are sent. In the normal case there are only
two NAT-D payloads.

The NAT-D payloads are included in the third and fourth packets of
Main Mode, and in the second and third packets in the Aggressive
Mode.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3.1 สนับสนุนของ NAT ผ่านการตรวจจับ ความสามารถข้าม NAT ของโฮสต์ระยะไกลจะถูกกำหนดโดยการ แลกเปลี่ยนของน้ำหนักบรรทุกการ ID ของผู้จัดจำหน่าย ในข้อที่สองของเฟส 1 ส่วนของข้อมูลรหัสผู้จัดจำหน่ายสำหรับข้อมูลจำเพาะเกี่ยวกับนี้ต้องส่งถ้า ได้รับการสนับสนุน (และต้องได้รับ โดยทั้งสองฝ่าย) สำหรับ NAT - โพรบที่ข้ามไป เนื้อหาของสิ่งที่เตรียมไว้เป็นการ MD5 แฮชของRFC 3947 มีเนื้อหาที่แน่นอนในฐานสิบหกสำหรับสิ่งที่เตรียมไว้3.2 การตรวจจับของ NAT น้ำหนักบรรทุก NAT D ไม่เพียงแต่ตรวจจับการ NAT ระหว่างการ เพียร์ IKE สอง แต่ยัง ตรวจพบที่ NAT ตำแหน่งที่ตั้งของ อุปกรณ์ NAT เป็นสำคัญ keepalives ต้องเริ่มต้นจาก เพียร์ "หลังการ nat การตรวจ NAT ระหว่างโฮสต์สอง เรามีการตรวจสอบว่า IP ที่อยู่หรือการเปลี่ยนแปลงท่าเรือตลอดเส้นทาง นี้จะกระทำ โดยส่ง เรื่องของที่อยู่ IP และพอร์ตของเพื่อนทั้ง IKE จากแต่ละ จบไปอีก ถ้าทั้งสองคำนวณ hashes เหล่านั้น และได้รับเดียวกัน ผลการค้นหา พวกเขารู้ว่า มีไม่มี NAT ระหว่าง ถ้าเรื่องทำไม่ได้ แข่งขัน ใครสักคนได้แปลอยู่หรือพอร์ต ซึ่งหมายความ ว่า เราต้องทำ NAT ผ่านจะได้รับแพคเก็ต IPsec ผ่าน ถ้าผู้ส่งของแพ็คเก็ตไม่ทราบที่อยู่ IP ของตัวเอง (ในกรณี ของหลาย interfaces และการใช้งานไม่ทราบ IP ซึ่ง ที่อยู่ที่ใช้กับเส้นทางแพ็คเก็ตออก), ผู้ส่งสามารถรวม หลายท้องถิ่นเรื่องการแพ็คเก็ต (เป็นน้ำหนักบรรทุก NAT D แยก) ใน มีการตรวจพบกรณีนี้ NAT และถ้าหากไม่มีการ hashes ตรงกับ เรื่องจะถูกส่งเป็นชุดของ NAT-D (NAT discovery) น้ำหนักบรรทุก แต่ละส่วนของข้อมูลประกอบด้วยหนึ่งแฮ ดังนั้นในกรณีที่ มีหลายเรื่อง น้ำหนักบรรทุก NAT D หลายจะถูกส่ง ในกรณีปกติ มีเพียง payloads สอง NAT-D รวมอยู่ในแพ็คเก็ตที่สาม และสี่ของ payloads NAT-D โหมดหลัก และ ในแพคเก็ตที่สอง และสามใน Aggressive โหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3.1 สนับสนุนการตรวจสอบของ NAT-ข้ามผ่าน

ความสามารถในการข้ามผ่าน NAT-ของพื้นที่ห่างไกลจะถูกกำหนดโดย
การแลกเปลี่ยน payloads ผู้ขาย ID ในช่วงสองข้อความแรกของเฟส
1, น้ำหนักบรรทุกผู้ขาย id สำหรับข้อกำหนดนี้จะต้องถูกส่งถ้า
ได้รับการสนับสนุน (และก็จะต้องได้รับโดยทั้งสองฝ่าย) สำหรับ NAT-
สอบสวนเพื่อดำเนินการต่อการข้ามผ่าน เนื้อหาในส่วนของข้อมูลเป็น MD5
กัญชาของ

RFC 3947

เนื้อหาแน่นอนในฐานสิบหกสำหรับบรรจุเป็น

3.2 ตรวจสอบสถานะของชัยนาท

NAT จะ-D น้ำหนักบรรทุกไม่เพียง แต่ตรวจพบการปรากฏตัวของ NAT ระหว่าง
สองเพื่อน IKE แต่ยังตรวจพบที่ NAT คือ สถานที่ตั้งของ
อุปกรณ์ NAT เป็นสิ่งสำคัญ keepalives จะต้องเริ่มต้นจาก
เพียร์ "หลัง" แน็ต

ในการตรวจสอบ NAT ระหว่างสองครอบครัวเรามีการตรวจสอบว่า IP ที่
อยู่หรือการเปลี่ยนแปลงพอร์ตตามเส้นทาง นี้จะกระทำโดยการส่ง
hashes ของที่อยู่ IP และพอร์ตของเพื่อนทั้งสอง IKE จากแต่ละ
สิ้นไปที่อื่น ๆ ถ้าปลายทั้งสองคำนวณ hashes เหล่านั้นและได้รับเดียวกัน
ผลให้พวกเขารู้ว่าไม่มี NAT ระหว่าง หาก hashes ไม่
ตรงกับใครบางคนที่ได้รับการแปลที่อยู่หรือพอร์ต ซึ่งหมายความว่า
เราต้องทำ NAT-ข้ามที่จะได้รับแพ็คเก็ต IPsec ผ่าน

ถ้าผู้ส่งของแพ็กเก็ตไม่ทราบที่อยู่ IP ของตัวเอง (ในกรณี
ของการเชื่อมต่อหลายและการดำเนินการไม่ทราบว่า IP
ที่อยู่ที่ใช้ในการเส้นทางแพ็คเก็ตออก)
ผู้ส่งสามารถรวม hashes ท้องถิ่นหลายแพ็คเก็ต (แยก payloads NAT-D) ใน
กรณีนี้มีการตรวจพบ NAT และถ้าหากไม่มี hashes ตรง

hashes จะถูกส่งเป็นชุดของ NAT-D (NAT ค้นพบ) payloads
แต่ละคนมีน้ำหนักบรรทุกกัญชาหนึ่งดังนั้นในกรณีของ hashes หลาย
หลาย payloads NAT-D จะถูกส่ง ในกรณีปกติมีเพียง
สอง NAT-D payloads

ชัยนาท-D payloads จะรวมอยู่ในแพ็กเก็ตที่สามและสี่ของ
โหมดหลักและในแพ็คเก็ตที่สองและสามในเชิงรุก
โหมด ดังนั้นในกรณีของ hashes หลาย หลาย NAT-D payloads จะถูกส่ง ในกรณีปกติมีเพียงสอง NAT-D payloads ชัยนาท-D payloads จะรวมอยู่ในแพ็กเก็ตที่สามและสี่ของโหมดหลักและในแพ็คเก็ตที่สองและสามในเชิงรุกโหมด ดังนั้นในกรณีของ hashes หลาย หลาย NAT-D payloads จะถูกส่ง ในกรณีปกติมีเพียงสอง NAT-D payloads ชัยนาท-D payloads จะรวมอยู่ในแพ็กเก็ตที่สามและสี่ของโหมดหลักและในแพ็คเก็ตที่สองและสามในเชิงรุกโหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3.1 . การตรวจสอบการสนับสนุนของ NAT หรือนัทหรือความสามารถของโฮสต์ระยะไกลจะถูกกำหนดโดยตราของ Vendor ID ( . ในข้อความแรกของเฟสสอง1 ID ของผู้ขายจะต้องส่งข้อมูลนี้ถ้าสนับสนุน ( และจะต้องได้รับโดยทั้งสองฝ่าย ) นัท -หรือสอบสวนต่อไป เนื้อหาของหลักเป็น MD5กัญชาของRFC 3947แน่นอน เนื้อหาในฐานสิบหกสำหรับอัตราคือ3.2 . การตรวจหาการปรากฏตัวของชัยนาทการ nat-d payload ไม่เพียงแต่ตรวจจับที่ระหว่างสองไอค์เพื่อน แต่ยังตรวจพบว่า ที่เป็น ที่ตั้งของที่เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญ เป็น keepalives ต้องเริ่มจากเพื่อน " หลัง " ชัยนาทตรวจ NAT ระหว่างสองโฮสต์ เราต้องตรวจสอบว่า IPที่อยู่หรือพอร์ตที่เปลี่ยนแปลงไปตามเส้นทาง นี้จะกระทำโดยการส่งการ hashes ของที่อยู่ IP และพอร์ตของไอค์เพื่อนจากแต่ละสิ้นสุดอื่น ๆ ถ้าปลายทั้งสองคำนวณ hashes และได้รับเดียวกันนั้นจึงรู้ว่าไม่มี ชัยนาท ระหว่าง ถ้า hashes ไม่แปลตรง ใครมีที่อยู่หรือพอร์ต นี่หมายความว่าเราต้องทำ NAT หรือได้รับแพ็กเก็ตที่ใช้ผ่านถ้าผู้ส่งของแพ็คเก็ตไม่ทราบที่อยู่ IP ของเขาเอง ( ในกรณีที่หลายๆ ระบบ และการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาที่ไม่รู้ที่อยู่ใช้เส้นทางแพ็คเก็ตออกไป ) ผู้ส่งสามารถรวมหลายท้องถิ่น hashes ไปยังแพ็คเก็ต ( nat-d ( แยกต่างหาก ) ในคดีนี้ ที่ตรวจพบ ถ้าและเพียงถ้าไม่มีของ hashes ตรงกันการ hashes ส่งชุด nat-d ( ที่ค้นพบ ) ( .แต่ละหลักประกอบด้วยหนึ่งกัญชาดังนั้นในกรณีของหลาย hashes( nat-d หลายส่ง ในกรณีปกติ มีเพียง( 2 nat-d .การ nat-d ( รวมอยู่ในแพ็กเก็ตของที่สามและสี่โหมดหลักและในแพ็คเก็ตที่สองและสามในการดักโหมด