A. Reliability and Validity of Indi

A. Reliability and Validity of Indicators
1) Reliability Test
Measured before part of the research questionnaire using the revised total correlation coefficient (CITC) measurement to purify and Cronbach ’ s Alpha coefficient and standard deviation to test the reliability of the questionnaire. Correct project reliability test screening of the project criteria two, must both set up before you can delete this item: after correction total correlation coefficient (every study design and variable measured score associated with the remaining items score between coefficients) of less than 0.3; remove this item to increase alpha value, which can enhance the overall reliability (line Lu Dai, 2002)

a) CITC total correlation coefficient and reliability of brand experience
Obviously could be seen from table 2, the revised total correlation coefficient (CITC) is greater than 0.3, and delete any item, did not improve overall reliability. Thus, 25 measurement of brand experience projects do not meet deletion standards, all preserved.

b) CITC total correlation coefficient and reliability of brand loyalty
Obviously could be seen from table 3, as amended, the total correlation coefficient (CITC) is greater than 0.3, and delete any item, do not raise the overall reliability. The brand loyalty measurement of 4 items do not meet delete criteria, all preserved.

2) Validity Test
In this study we took confirmatory factor analysis in statistic analysis to measure tht validity of the indexes, tested by structural equation modeling. The results of the test are as follows:

a) Validity Test of the brand experience
The conclusion could be reached from Figure 2, the metrics in their corresponding variables on the standardization factor loading is greater than 0.5, that achieved statistically significant level, indicating that the convergent validity of study on this scale was better.

B) Validity Test of the brand loyalty
The conclusion could be reached from Figure 3, the metrics in their corresponding variables on the standardization factor loading is greater than 0.5, that achieved statistically significant level, indicating that the convergent validity of study on this scale as better.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ก.ความน่าเชื่อถือและความถูกต้องของตัวชี้วัด1) ทดสอบความน่าเชื่อถือวัดก่อนที่จะเป็นส่วนหนึ่งของแบบสอบถามวิจัยที่ใช้การประเมินที่ปรับปรุงรวมสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (CITC) บริสุทธิ์ และของ Cronbach ค่าสัมประสิทธิ์อัลฟา และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานการทดสอบความน่าเชื่อถือของแบบสอบถาม ความน่าเชื่อถือของโครงการถูกทดสอบคัดกรองเกณฑ์โครงการ 2 ต้องตั้งค่าทั้งสองค่าก่อนที่คุณสามารถลบรายการนี้: หลังจากการแก้ไขรวมสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (ทุกศึกษาออกแบบและวัดตัวแปรคะแนนสัมพันธ์กับคะแนนสินค้าคงเหลือระหว่างสัมประสิทธิ์) ของน้อยกว่า 0.3 เอารายการนี้เพื่อเพิ่มค่าอัลฟา ซึ่งสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือโดยรวม (สายได Lu, 2002)) สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ CITC รวมและความน่าเชื่อถือของแบรนด์เห็นได้ชัดอาจจะเห็นจากตารางที่ 2 การปรับปรุงรวมสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (CITC) มากกว่า 0.3 และลบรายการใด ๆ ไม่ปรับปรุงความน่าเชื่อได้ ดังนั้น 25 การวัดมูลค่าของแบรนด์ประสบการณ์โครงการไม่ตรงกับมาตรฐานการลบ ทั้งหมดเก็บรักษาไว้b) สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ CITC ทั้งหมดและความน่าเชื่อถือของแบรนด์เห็นได้ชัดอาจจะเห็นจากตาราง 3 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์รวม (CITC) มากกว่า 0.3 และลบรายการใด ๆ ไม่เพิ่มความน่าเชื่อถือโดยรวม วัดภักดีแบรนด์ 4 รายการไม่ตรงกับเกณฑ์ลบ เก็บรักษาไว้ทั้งหมด2) ทดสอบมีผลบังคับใช้ในการศึกษานี้ เราเอาปัจจัยเมื่อวิเคราะห์ในการวิเคราะห์สถิติการวัดอายุ tht ดัชนี ทดสอบ โดยการสร้างโมเดลสมการโครงสร้าง ผลลัพธ์ของการทดสอบดังต่อไปนี้:ก) มีผลบังคับใช้ทดสอบประสบการณ์แบรนด์ข้อสรุปอาจเข้าถึงได้จากรูปที่ 2 วัดในตัวแปรสอดคล้องกันในการโหลดปัจจัยมาตรฐานมีค่ามากกว่า 0.5 ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ การบ่งชี้ว่า ความถูกต้ององค์กรการศึกษาในระดับนี้ดีกว่าB) ทดสอบมีผลบังคับใช้ของแบรนด์ข้อสรุปอาจเข้าถึงได้จากรูปที่ 3 วัดในตัวแปรสอดคล้องกันในการโหลดปัจจัยมาตรฐานมีค่ามากกว่า 0.5 ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ การแสดงที่ตั้งแต่องค์กรการศึกษาในระดับนี้เป็นดีกว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

A. ความน่าเชื่อถือและความถูกต้องของตัวชี้วัด
1) ความน่าเชื่อถือการทดสอบ
วัดก่อนที่จะเป็นส่วนหนึ่งของแบบสอบถามการวิจัยโดยใช้การปรับปรุงค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์รวม (CITC) วัดในการชำระล้างและค่าสัมประสิทธิ์อัลฟาครอนบาคและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในการทดสอบความน่าเชื่อถือของแบบสอบถาม โครงการตรวจคัดกรองที่ถูกต้องน่าเชื่อถือของเกณฑ์ของโครงการทั้งสองทั้งต้องตั้งค่าก่อนที่คุณจะสามารถลบรายการนี้: หลังจากที่ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์การแก้ไขรวม (ทุกการออกแบบการศึกษาและตัวแปรวัดคะแนนที่เกี่ยวข้องกับรายการที่เหลือคะแนนระหว่างสัมประสิทธิ์) น้อยกว่า 0.3; ลบรายการนี้เพื่อเพิ่มค่า alpha ซึ่งสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือโดยรวม (สาย Lu Dai, 2002)

ก) CITC ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์รวมและความน่าเชื่อถือของประสบการณ์แบรนด์
แน่นอนอาจจะเห็นได้จากตารางที่ 2 ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ปรับปรุงรวม (CITC) เป็นมากขึ้น กว่า 0.3 และลบรายการใด ๆ ไม่ได้ปรับปรุงความน่าเชื่อถือโดยรวม ดังนั้น 25 วัดของโครงการประสบการณ์แบรนด์ไม่ตรงตามมาตรฐานการลบทั้งหมดที่เก็บรักษาไว้.

ข) CITC ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์รวมและความน่าเชื่อถือของความภักดีแบรนด์
แน่นอนอาจจะเห็นได้จากตารางที่ 3 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์รวม (CITC) มีค่ามากกว่า 0.3 และลบรายการใด ๆ ไม่ได้เพิ่มความน่าเชื่อถือโดยรวม การวัดความภักดีแบรนด์จาก 4 รายการที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ลบทั้งหมดที่เก็บรักษาไว้.

2) ตั้งแต่วันที่ทดสอบ
ในการศึกษานี้เราเอาการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันในการวิเคราะห์สถิติการวัดความถูกต้อง tht ของดัชนีการทดสอบโดยการสร้างแบบจำลองสมการโครงสร้าง ผลที่ได้จากการทดสอบมีดังนี้

ก) ทดสอบความถูกต้องของประสบการณ์แบรนด์
สรุปสามารถเข้าถึงได้จากรูปที่ 2 ตัวชี้วัดในตัวแปรที่สอดคล้องกันของพวกเขาในการโหลดปัจจัยมาตรฐานที่มีค่ามากกว่า 0.5 ที่ประสบความสำเร็จระดับนัยสำคัญทางสถิติแสดงให้เห็นว่า ความถูกต้องมาบรรจบกันของการศึกษาในระดับนี้ก็ยังดี.

ทดสอบ B) ความถูกต้องของความภักดีแบรนด์
สรุปสามารถเข้าถึงได้จากรูปที่ 3 ตัวชี้วัดในตัวแปรที่สอดคล้องกันของพวกเขาในการโหลดปัจจัยมาตรฐานที่มีค่ามากกว่า 0.5 ที่ประสบความสำเร็จระดับนัยสำคัญทางสถิติ แสดงให้เห็นว่าถูกต้องมาบรรจบกันของการศึกษาในระดับนี้เป็นที่ดีกว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . ความเที่ยงและความตรงของตัวบ่งชี้1 ) ทดสอบความน่าเชื่อถือวัดก่อนส่วนหนึ่งของแบบสอบถามการวิจัยการแก้ไขรวมสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ ( CITC ) การวัดอนุภาคแอลฟาครอนบาค " s และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานทดสอบความน่าเชื่อถือของแบบสอบถาม โครงการการคัดกรองที่ถูกต้อง ความน่าเชื่อถือของโครงการเกณฑ์สอง ทั้งคู่ต้องตั้งค่าก่อนที่คุณสามารถลบรายการนี้หลังจากแก้ไขรวมสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ ( ทุกศึกษาออกแบบและวัดคะแนนตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับรายการที่เหลือคะแนนระหว่างค่าสัมประสิทธิ์ ) น้อยกว่า 0.3 ; ลบรายการนี้เพื่อเพิ่มค่าอัลฟา ซึ่งสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือโดยรวม ( สายลู่ได , 2002 )) ได้เปลี่ยนชื่อเป็น รวม ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ และความน่าเชื่อถือของประสบการณ์แบรนด์เห็นได้ชัดว่าสามารถเห็นได้จากตารางที่ 2 การแก้ไขรวมสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ ( CITC ) มีค่ามากกว่า 0.3 และลบรายการใดที่ไม่ปรับปรุงความน่าเชื่อถือโดยรวม ดังนั้น การวัดผลของโครงการประสบการณ์ 25 แบรนด์ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการลบทั้งหมดไว้B ) รวมว่า ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ภักดีก็อาจจะเห็นได้จากตารางที่ 3 ตามที่แก้ไขเพิ่มเติมค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์รวม ( CITC ) มีค่ามากกว่า 0.3 และลบรายการใดไม่เพิ่มความน่าเชื่อถือโดยรวม ความภักดีแบรนด์การวัด 4 รายการไม่ตรงกับเกณฑ์ลบ ทั้งหมดไว้2 ) ทดสอบความถูกต้องในการศึกษานี้ได้วิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันในการวิเคราะห์สถิติเพื่อวัด tht ความตรงของดัชนีทดสอบโดยใช้แบบจำลองสมการโครงสร้าง ผลการทดสอบมีดังนี้) ทดสอบความถูกต้องของประสบการณ์แบรนด์สรุป สามารถเข้าถึงได้จากรูปที่ 2 ตัวชี้วัดในตัวแปรที่สอดคล้องกันของพวกเขาบนปัจจัยมาตรฐานโหลดมากกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5 ที่ได้แสดงให้เห็นว่าความตรงลู่เข้าของการศึกษาในระดับนี้ ดีกว่าข ) การทดสอบความถูกต้องของความภักดีแบรนด์สรุป สามารถเข้าถึงได้จากรูปที่ 3 ตัวชี้วัดในตัวแปรที่สอดคล้องกันของพวกเขาบนปัจจัยมาตรฐานโหลดมากกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5 ที่ได้แสดงให้เห็นว่าความตรงลู่เข้าของการศึกษาในระดับนี้เป็นดีกว่า