The aim of this study was to determ

The aim of this study was to determine the relationship if any, between Game-Based learning and mathematics achievement of grade seven students in a middle secondary school in Bhutan. The research using quasi-experimental design, was carried out in 2015 in one of the middle secondary schools in Bhutan over a two-month period.The participants consisted of 70 seventh graders in two classes. One class was assigned to be the experimental group and the other the control group. The experimental group learned using game-based learning approach, while the control group learned using a traditional teaching approach. The data obtained in the study were analyzed by the computer program SPSS 21.0. Arithmetic means and standard deviations were calculated for each group. The result showed that the learning achievement of the students in the experimental group was significantly better than that of the students in the control group. The mean difference for the experimental group over the two month period was 9.29 which is significantly higher than that of control group which was 3.40. These data confirm that there is a strong relation between game-based learning approach and mathematics achievement. With respect to attitudes toward mathematics there was a similar result over the two-month period. Most of the students revealed quite positive attitudes toward the use of the game-based learning approach. The mean in the pre-test of the experimental group was 2.06 and 4.61 in the post-test. The mean score had increased by 2.55 which indicated that game-based learning had a positive effect on student attitudes towards mathematics.These results should encourage school leaders in Bhutan and elsewhere to consider adopting Game-Based learning approach for the teaching of mathematics for middle school age students.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือการ กำหนดความสัมพันธ์ถ้ามี ระหว่างใช้เกมคณิตศาสตร์และเรียนรู้ความสำเร็จของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่เจ็ดในตรงกลางเป็นรองโรงเรียนในประเทศภูฏาน การวิจัยแบบกึ่งทดลอง ใช้ถูกดำเนินใน 2015 ในโรงเรียนมัธยมกลางในภูฏานระยะเวลาสองเดือน ผู้เข้าร่วมประกอบด้วยนักเรียนเจ็ด 70 ใน 2 ชั้น ชั้นหนึ่งถูกกำหนดเป็น กลุ่มทดลองและอีกกลุ่มควบคุม กลุ่มทดลองเรียนโดยใช้วิธีการเรียนรู้เกม ในขณะที่กลุ่มควบคุมที่เรียนโดยใช้วิธีสอนแบบดั้งเดิม ข้อมูลที่ได้ศึกษาได้วิเคราะห์โดยคอมพิวเตอร์โปรแกรม 21.0 หมายถึงเลขคณิตและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานถูกคำนวณสำหรับแต่ละกลุ่ม ผลพบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในกลุ่มทดลองถูกมากดีกว่าของนักเรียนในกลุ่มควบคุม ความแตกต่างหมายถึงกลุ่มทดลองในช่วงสองเดือน 9.29 ที่อย่างมีนัยสำคัญสูงกว่ากลุ่มควบคุมซึ่งเป็น 3.40 ข้อมูลเหล่านี้ยืนยันว่า มีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างวิธีการเรียนรู้โดยใช้เกมคณิตศาสตร์สำเร็จ เกี่ยวกับเจตคติวิชาคณิตศาสตร์ มีผลคล้ายคลึงกันในช่วงสองเดือน นักเรียนส่วนใหญ่เปิดเผยเจตคติใช้วิธีการเรียนรู้เกมค่อนข้างเป็นบวก หมายความว่าในการทดสอบของกลุ่มทดลองก่อนได้ 2.06 และ 4.61 ในการทดสอบหลัง คะแนนเฉลี่ยได้เพิ่มขึ้น 2.55 ซึ่งระบุว่า ตามเกมมีผลดีต่อนักศึกษาทัศนคติต่อวิชาคณิตศาสตร์ ผลลัพธ์เหล่านี้ควรส่งเสริมให้โรงเรียนผู้นำในภูฏานและอื่น ๆ ต้องพิจารณาใช้วิธีการเรียนรู้เกมในการสอนคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนมัธยม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้คือการกำหนดความสัมพันธ์ถ้าใด ๆ ระหว่างการเรียนรู้จากเกมและสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่เจ็ดในโรงเรียนมัธยมกลางในภูฏาน การวิจัยใช้การออกแบบกึ่งทดลองได้รับการดำเนินการในปี 2015 ในหนึ่งในโรงเรียนมัธยมกลางในภูฏานกว่าสองเดือนเข้าร่วม period.The ประกอบด้วย 70 คารมที่เจ็ดในสองชั้น ชั้นหนึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นกลุ่มทดลองและอื่น ๆ ที่กลุ่มควบคุม กลุ่มทดลองเรียนรู้โดยใช้วิธีการเรียนรู้เกมที่ใช้ในขณะที่กลุ่มควบคุมที่เรียนโดยใช้วิธีการสอนแบบดั้งเดิม ข้อมูลที่ได้ในการศึกษาวิเคราะห์โดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ SPSS 21.0 ค่าเฉลี่ยเลขคณิตและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานจะถูกคำนวณสำหรับแต่ละกลุ่ม ผลการศึกษาพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในกลุ่มทดลองอย่างมีนัยสำคัญดีกว่าว่าของนักเรียนในกลุ่มควบคุม ความแตกต่างที่ค่าเฉลี่ยของกลุ่มทดลองในช่วงสองเดือนเป็น 9.29 ซึ่งสูงกว่ากลุ่มควบคุมซึ่งเป็น 3.40 ข้อมูลเหล่านี้ยืนยันว่ามีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างวิธีการเรียนรู้เกมที่ใช้และสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ ส่วนที่เกี่ยวกับทัศนคติต่อวิชาคณิตศาสตร์มีผลที่คล้ายกันในช่วงระยะเวลาสองเดือน นักศึกษาส่วนใหญ่เผยให้เห็นทัศนคติที่ดีค่อนข้างไปถึงการใช้วิธีการเรียนรู้เกมตามที่ ค่าเฉลี่ยในการทดสอบก่อนของกลุ่มทดลอง 2.06 และ 4.61 ในการโพสต์การทดสอบ คะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.55 ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการเรียนรู้เกมที่ใช้มีผลกระทบในเชิงบวกต่อทัศนคติของนักเรียนที่มีต่อผลการ mathematics.These ควรส่งเสริมให้ผู้นำโรงเรียนในภูฏานและที่อื่น ๆ ที่จะต้องพิจารณาการใช้วิธีการเรียนรู้จากเกมการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ในโรงเรียนกลาง นักเรียนอายุ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ ถ้าใด ๆ , ระหว่างเกมการเรียนรู้และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในโรงเรียนกลางในภูฏาน การวิจัยแบบกึ่งทดลองครั้งนี้ในปี 2015 ในหนึ่งกลางโรงเรียนมัธยมในภูฏาน ตลอดระยะเวลาสองเดือน ผู้เข้าร่วมจำนวน 70 เจ็ดนักเรียน 2 ห้องเรียนกลุ่มหนึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมอื่น ๆ . กลุ่มทดลองเรียนโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้ตามเกม ส่วนกลุ่มควบคุมเรียนโดยใช้วิธีการสอนแบบดั้งเดิม ข้อมูลในการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์โปรแกรม SPSS 21.0 . ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของแต่ละกลุ่มผลการศึกษาพบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในกลุ่มทดลองดีกว่า ของนักเรียนในกลุ่มควบคุม ความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยในกลุ่มทดลองมากกว่าสองเดือนถูก 9.29 ซึ่งสูงกว่าในกลุ่มควบคุมซึ่งเป็น 3.40 .ข้อมูลเหล่านี้ยืนยันว่ามีความแข็งแรงความสัมพันธ์ระหว่างตามเกมการเรียนรู้และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ และเจตคติต่อวิชาคณิตศาสตร์ มีผลที่คล้ายกันกว่าสองเดือน . ส่วนใหญ่ของนักเรียนที่พบเป็นบวกค่อนข้างมีทัศนคติต่อการใช้เกมการเรียนรู้ตามแนวทาง ค่าเฉลี่ยในการ เรียนของนักเรียนกลุ่มทดลองและ 2.06 461 ในรายการทดสอบ คะแนนมีเพิ่มขึ้น 2.55 ซึ่งพบว่า การเรียนรู้ตามเกมที่มีผลต่อทัศนคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาคณิตศาสตร์ ผลลัพธ์เหล่านี้ควรส่งเสริมให้โรงเรียนแกนนำในภูฏาน และที่อื่น ๆที่จะต้องพิจารณาการใช้เกมการเรียนรู้ตามแนวทางการสอนคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนมัธยมอายุ