Bipolar disorder, also known as bip

Bipolar disorder, also known as bipolar affective disorder and manic depression, is a mental disorder characterized by periods of elevated mood and periods of depression.[1][2] The elevated mood is significant and is known as mania or hypomania depending on the severity or whether there is psychosis. During mania an individual feels or acts abnormally happy, energetic, or irritable.[1] They often make poorly thought out decisions with little regard to the consequences. The need for sleep is usually reduced.[2] During periods of depression there may be crying, poor eye contact with others, and a negative outlook on life.[1] The risk of suicide among those with the disorder is high at greater than 6% over 20 years, while self harm occurs in 30–40%.[1] Other mental health issues such as anxiety disorder and substance use disorder are commonly associated.[1]

The cause is not clearly understood, but both genetic and environmental factors play a role.[1] Many genes of small effect contribute to risk.[1][3] Environmental factors include long term stress and a history of childhood abuse.[1] It is divided into bipolar I disorder if there is at least one manic episode and bipolar II disorder if there are at least one hypomanic episode and one major depressive episode. In those with less severe symptoms of a prolonged duration the condition cyclothymic disorder may be present. If due to drugs or medical problems it is classified separately.[2] Other conditions that may present in a similar manner include substance use disorder, personality disorders, attention deficit hyperactivity disorder, and schizophrenia as well as a number of medical conditions.[1]

Treatment commonly includes psychotherapy and medications such as mood stabilizers or antipsychotics. Examples of mood stabilizers that are commonly used include lithium and anticonvulsants. Treatment in hospital against a person's wishes may be required at times as people may be a risk to themselves or others yet refuse treatment. Severe behavioral problems may be managed with short term benzodiazepines or antipsychotics. In periods of mania it is recommended that antidepressants be stopped. If antidepressants are used for periods of depression they should be used with a mood stabilizer. Electroconvulsive therapy may be helpful in those who do not respond to other treatments. If treatments are stopped it is recommended that this be done slowly. Many people have social, financial, or work-related problems due to the disorder. These difficulties occur a quarter to a third of the time on average. The risk of death from natural causes such as heart disease is twice that of the general population. This is due to poor lifestyle choices and the side effects from medications.[1]

About 3% of people in the United States have bipolar disorder at some point in their life.[4] Lower rates of around 1% are found in other countries. The most common age at which symptoms begin is 25.[1] Rates appear to be similar in males as females.[5] The economic costs of the disorder has been estimated at $45 billion for the United States in 1991.[6] A large proportion of this was related to a higher number of missed work days, estimated at 50 per year.[6] People with bipolar disorder often face problems with social stigma.[1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โรค bipolar เรียกอีกอย่างว่าโรคผลไฟที่ไบโพลาร์และคลั่งไคล้ภาวะซึมเศร้า เป็นลักษณะของอารมณ์ที่สูงขึ้นและระยะเวลาของโรคซึมเศร้าโรคจิต [1] [2] อารมณ์สูงมีความสำคัญ และเป็นที่รู้จักกันเป็น mania หรือ hypomania ขึ้นอยู่กับความรุนแรงหรือ ไม่มีหมอหรือไม่ ระหว่างบ้า บุคคลรู้สึก หรือกระทำอย่างผิดปกติมีความสุข มีพลัง หรือแปรปรวน [1] พวกเขามักจะทำงานคิดออกมีสัมมาคารวะน้อยกับผลการตัดสินใจ ต้องการนอนหลับมักจะมีการลดลง [2] ในระหว่างที่มีภาวะซึมเศร้าอาจจะร้องไห้ ตาดีกับคนอื่น และ outlook ที่เป็นค่าลบในชีวิตได้ [1] ความเสี่ยงฆ่าตัวตายในหมู่ผู้ที่มีโรคนี้ได้สูงที่มากกว่า 6% กว่า 20 ปี ในขณะที่ตัวเองทำร้ายเกิดขึ้นใน 30-40% [1] สุขภาพจิตอื่น ๆ ออกเช่นโรควิตกกังวลและโรคใช้สารจะเกี่ยวข้องโดยทั่วไป [1]สาเหตุคือไม่ชัดเจนเข้าใจ แต่ปัจจัยทางพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อม [1] ในยีนของลักษณะขนาดเล็กนำไปสู่ความเสี่ยง [1] [3] สิ่งแวดล้อมปัจจัยได้แก่ความเครียดในระยะยาวและประวัติของการละเมิดสิทธิเด็ก [1] มันถูกแบ่งออกเป็นไฟที่ไบโพลาร์ฉันโรคถ้ามีน้อยตอนคลั่งไคล้และ II ไฟที่ไบโพลาร์โรคถ้ามีตอนน้อย hypomanic และตอน depressive หลักหนึ่ง ในผู้ที่มีอาการรุนแรงน้อยกว่าระยะเวลานาน โรค cyclothymic เงื่อนไขอาจมีการ ถ้าเกิดจากยาเสพติดหรือปัญหาทางการแพทย์นั้นจะจัดแยกต่างหาก [2] เงื่อนไขอื่น ๆ ที่อาจนำเสนอในลักษณะคล้ายกันได้แก่โรคใช้สาร โรคบุคลิกภาพ สมาธิ และโรคจิตเภทเช่นเดียว กับจำนวนของเงื่อนไขทางการแพทย์ [1]การรักษาโดยทั่วไปประกอบด้วยจิตแพทย์และยาเช่นอารมณ์ stabilizers antipsychotics ตัวอย่างของอารมณ์ stabilizers ที่ใช้ได้แก่ลิเทียมและ anticonvulsants รักษาในโรงพยาบาลกับความปรารถนาของบุคคลอาจจะต้องบางครั้งคนอาจจะมีความเสี่ยงให้ตัวเอง หรือผู้อื่นยังปฏิเสธการรักษา ปัญหาพฤติกรรมที่รุนแรงอาจจะจัดการกับ benzodiazepines สั้นหรือ antipsychotics ในรอบระยะเวลาของการบ้า งานที่ หยุด antidepressants ถ้ามีใช้ antidepressants สำหรับรอบระยะเวลาของภาวะซึมเศร้าควรใช้กับโคลงอารมณ์ Electroconvulsive บำบัดอาจมีประโยชน์ในผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่น ๆ ถ้ารักษาจะหยุด งานที่ นี้ทำได้ช้า หลายคนมีปัญหาทางสังคม การเงิน หรือที่เกี่ยวข้อง กับการทำงานเนื่องจากโรคนี้ ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นสี่ถึงหนึ่งในสามของเวลาเฉลี่ย ความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากสาเหตุธรรมชาติเช่นโรคหัวใจเป็นสองเท่าของประชากรทั่วไป นี่คือวิถีที่ดีและผลข้างเคียงจากยา [1]ประมาณ 3% ของคนในสหรัฐได้โรค bipolar บางจุดในชีวิตของพวกเขา [4] ราคาพิเศษลดลงประมาณ 1% ที่พบในประเทศอื่น ๆ อายุมากที่สุดซึ่งอาการเริ่มต้นคือ 25 [1] ราคาพิเศษจะ คล้ายในเพศชายเป็นหญิง [5] ต้นทุนทางเศรษฐกิจของโรคที่มีการประมาณที่ 45 พันล้านเหรียญในสหรัฐอเมริกาในปีพ.ศ. 2534 [6] ใหญ่สัดส่วนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับของพลาดวันทำงาน ประเมินที่ 50 ปี [6] ผู้ที่ มีโรค bipolar มักจะเผชิญกับปัญหาสังคมภาพดอกไม้ [1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรคสองขั้วที่เรียกว่าเป็นโรคอารมณ์สองขั้วและภาวะซึมเศร้าคลั่งไคล้เป็นโรคทางจิตโดดเด่นด้วยระยะเวลาของอารมณ์สูงและระยะเวลาของภาวะซึมเศร้า. [1] [2] อารมณ์สูงที่มีความสำคัญและเป็นที่รู้จักกันเป็นความบ้าคลั่งหรือ hypomania ขึ้นอยู่กับความรุนแรง หรือว่ามีอาการทางจิต ความบ้าคลั่งในระหว่างบุคคลหรือรู้สึกมีความสุขที่ทำหน้าที่ผิดปกติมีพลังหรือระคายเคือง. [1] พวกเขามักจะทำให้ความคิดที่ไม่ดีออกการตัดสินใจเกี่ยวกับเล็กน้อยเพื่อผลที่ตามมา ความจำเป็นในการนอนหลับมักจะลดลง. [2] ในช่วงระยะเวลาของภาวะซึมเศร้าอาจจะมีร้องไห้สายตาที่ไม่ดีกับคนอื่นและแนวโน้มเชิงลบเกี่ยวกับชีวิต. [1] ความเสี่ยงของการฆ่าตัวตายในหมู่ผู้ที่มีความผิดปกติที่มีความสูงที่มากกว่า 6% ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาในขณะที่เป็นอันตรายต่อตัวเองเกิดขึ้นใน 30-40%. [1] ปัญหาสุขภาพจิตอื่น ๆ เช่นโรควิตกกังวลและความผิดปกติใช้สารเสพติดมีความเกี่ยวข้องกันทั่วไป. [1] สาเหตุที่ไม่ได้เข้าใจอย่างชัดเจน แต่ทั้งสองทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม ปัจจัยที่มีบทบาทสำคัญ. [1] ยีนจำนวนมากของผลกระทบที่มีขนาดเล็กนำไปสู่ความเสี่ยง. [1] [3] ปัจจัยสิ่งแวดล้อมรวมถึงความเครียดในระยะยาวและประวัติความเป็นมาของการละเมิดในวัยเด็ก. [1] มันถูกแบ่งออกเป็นความผิดปกติของผมสองขั้วถ้ามีอยู่ที่ อย่างน้อยหนึ่งคลั่งไคล้และโรคสองขั้วที่สองถ้ามีอย่างน้อยหนึ่งตอน hypomanic และตอนหนึ่งที่สำคัญซึมเศร้า ในผู้ที่มีอาการรุนแรงน้อยกว่าระยะเวลาที่ยืดเยื้อสภาพความผิดปกติ Cyclothymic อาจจะนำเสนอ ถ้าเนื่องจากยาเสพติดหรือปัญหาทางการแพทย์มันถูกจัดแยก. [2] เงื่อนไขอื่น ๆ ที่อาจนำเสนอในลักษณะที่คล้ายกันรวมถึงความผิดปกติของการใช้สารบุคลิกภาพผิดปกติ, โรคสมาธิสั้นและจิตเภทเช่นเดียวกับจำนวนของเงื่อนไขทางการแพทย์. [1 ] การรักษาโดยทั่วไปรวมถึงจิตบำบัดและยาเช่นความคงตัวอารมณ์หรือโรคทางจิตเวช ตัวอย่างของความคงตัวอารมณ์ที่มีการใช้กันทั่วไปรวมถึงลิเธียมและยากันชัก การรักษาในโรงพยาบาลกับความปรารถนาของคนอาจจำเป็นต้องใช้ในช่วงเวลาที่ผู้คนอาจจะมีความเสี่ยงต่อตนเองหรือผู้อื่นยังปฏิเสธการรักษา ปัญหาพฤติกรรมรุนแรงอาจจะมีการจัดการกับเบนโซสั้นหรือโรคทางจิตเวช ในช่วงเวลาของความบ้าคลั่งก็จะแนะนำว่าซึมเศร้าจะหยุด ถ้าซึมเศร้าจะใช้สำหรับระยะเวลาของภาวะซึมเศร้าที่พวกเขาควรจะใช้กับโคลงอารมณ์ Electroconvulsive บำบัดอาจจะเป็นประโยชน์ในบรรดาผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่น ๆ หากการรักษาจะหยุดการทำงานก็จะแนะนำว่านี้จะทำอย่างช้าๆ หลายคนมีสังคมการเงินหรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการทำงานเนื่องจากการผิดปกติ ความยากลำบากเหล่านี้เกิดขึ้นในไตรมาสที่สามของเวลาโดยเฉลี่ย ความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากสาเหตุธรรมชาติเช่นโรคหัวใจเป็นสองเท่าของประชากรทั่วไป เพราะนี่คือการเลือกวิถีชีวิตที่น่าสงสารและผลข้างเคียงจากการใช้ยา. [1] ประมาณ 3% ของคนในประเทศสหรัฐอเมริกามีโรคสองขั้วในบางจุดในชีวิตของพวกเขา. [4] อัตราลดลงประมาณ 1% ที่พบในประเทศอื่น ๆ . อายุที่พบมากที่สุดที่มีอาการเริ่มต้นคือ 25 [1] ราคาดูเหมือนจะคล้ายกันในเพศชายเป็นเพศหญิง. [5] ต้นทุนทางเศรษฐกิจของโรคได้รับประมาณ $ 45000000000 ในสหรัฐอเมริกาในปี 1991 [6] เป็น ส่วนใหญ่ของเรื่องนี้ที่เกี่ยวข้องกับจำนวนที่สูงขึ้นของวันทำงานพลาดประมาณ 50 ต่อปี. [6] คนที่มีโรคสองขั้วมักจะประสบปัญหากับสังคมปาน. [1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โรคอารมณ์สองขั้ว หรือที่เรียกว่าโรคไบโพลาร์อารมณ์และภาวะซึมเศร้า manic คือ ความผิดปกติทางจิตลักษณะช่วงเวลาของอารมณ์สูงและระยะเวลาของภาวะซึมเศร้า . [ 1 ] [ 2 ] ยกระดับอารมณ์มีความสำคัญและเป็นที่รู้จักกันเป็น mania หรือ hypomania ขึ้นอยู่กับความรุนแรงหรือว่ามันคือโรคจิต ในความบ้าคลั่งบุคคลรู้สึกหรือการกระทำของเขามีความสุข มีพลัง หรือขี้หงุดหงิด[ 1 ] พวกเขามักจะทำไม่ดีคิดการตัดสินใจเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับผลที่ตามมา ต้องนอนมักจะลดลง . [ 2 ] ในช่วงระยะเวลาของภาวะซึมเศร้า อาจจะมีร้องไห้ ติดต่อตาไม่ดีกับผู้อื่น และแนวโน้มเชิงลบในชีวิต [ 1 ] ความเสี่ยงของการฆ่าตัวตายในหมู่ผู้ที่มีโรคจะสูงมากกว่า 6 % กว่า 20 ปี ขณะที่อันตรายตนเองเกิดขึ้นใน 30 – 40 %[ 1 ] อื่น ๆปัญหาสุขภาพจิตและการใช้สารเสพติด เช่น โรควิตกกังวล โรคเกี่ยว [ 1 ]

จะไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจน แต่ปัจจัยทั้งพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมเล่นบทบาท [ 1 ] หลายยีนของผลขนาดเล็กส่งผลให้ความเสี่ยง [ 1 ] [ 2 ] ปัจจัยสิ่งแวดล้อมรวมถึงความเครียดที่ยาวนาน ระยะยาวและประวัติของการละเมิดเด็ก[ 1 ] มันถูกแบ่งออกเป็นสองขั้วความผิดปกติ ถ้าฉันมีอย่างน้อยหนึ่ง manic ตอนที่สอง 2 โรค หากมีอย่างน้อยหนึ่งตอน และตอน hypomanic โรคซึมเศร้าหนึ่งหลัก ในผู้ที่มีอาการรุนแรงน้อยกว่าระยะเวลานาน สภาพ cyclothymic โรคอาจมี ถ้าเกิดจากยา หรือปัญหาทางการแพทย์มันจัดแยกต่างหาก[ 2 ] เงื่อนไขอื่น ๆที่อาจอยู่ในลักษณะที่คล้ายคลึงกันรวมถึงการใช้สารเสพติดความผิดปกติ , ความผิดปกติของบุคลิกภาพ สมาธิสั้น และจิตเภท เช่นเดียวกับจำนวนของเงื่อนไขทางการแพทย์ [ 1 ]

การรักษาโดยทั่วไปรวมถึงจิตบำบัดและโรคเช่นอารมณ์ความคงตัวหรือโรคจิต .ตัวอย่างของอารมณ์ความคงตัวที่นิยมใช้ ได้แก่ ลิเทียม และ ยากันชัก . การรักษาในโรงพยาบาล กับความปรารถนาของบุคคลอาจจะต้องใช้เวลาเป็นคนอาจมีความเสี่ยง เพื่อตนเองหรือผู้อื่น แต่ปฏิเสธการรักษา ปัญหาพฤติกรรมรุนแรงอาจได้รับ benzodiazepines ระยะสั้นหรือโรคจิต . ในช่วงเวลาของความบ้าคลั่งนี้พบว่าโรคซึมเศร้าสามารถหยุดถ้า antidepressants จะใช้ระยะเวลาของภาวะซึมเศร้าพวกเขาควรจะใช้กับอารมณ์ . ระตูอาจจะเป็นประโยชน์ในผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่น ๆ ถ้าการรักษาจะหยุดมัน แนะนำให้ทำอย่างช้าๆ หลายคนมีสังคม การเงิน หรือการทำงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่เกิดจากโรคที่ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นในไตรมาสที่สามของเวลาโดยเฉลี่ย ความเสี่ยงของการตายจากสาเหตุจากธรรมชาติ เช่น โรคหัวใจ เป็นจำนวน 2 เท่าของประชากรทั่วไป เพราะนี่คือวิถีชีวิตทางเลือกที่ไม่ดีและผลข้างเคียงจากยา [ 1 ]

ประมาณ 3 ล้านคนในสหรัฐอเมริกามีไบโพลาร์ที่บางจุดในชีวิตของพวกเขา .